วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม เวลา 1:17 a.m. ET (12:17 น. ในประเทศไทย) สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ในภารกิจ Group 6-9 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ 52 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 55 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ล่าสุด สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรรวม 214 ดวง ทำงานผิดปกติก่อนที่จะถึงวงโคจร 12 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 ใน 10 ภารกิจ และสเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมในวงโคจรรวมทั้งหมด 4,597 ดวง นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคม สเปซเอ็กซ์ได้เปิดให้บริการเน็ตสตาร์ลิงก์เพิ่มเป็นประเทศที่ 62 คือ บาฮามาส

ภารกิจ Group 6-8 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ภารกิจนี้ได้ใช้บูสเตอร์ B1069 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 9 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจ CRS-24, ดาวเทียม Eutelsat HOTBIRD 13F, ดาวเทียม OneWeb, ดาวเทียม SES-18 & 19 และดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 5 เที่ยวบิน

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไป 2:34 นาที บูสเตอร์ B1069 ได้แยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลา 8:22 นาที หลังจากปล่อยจรวด

ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส