สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ในภารกิจ Group 6-14 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน เวลา 7:56 p.m. ET (วันเสาร์ เวลา 06:56 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 60 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 63 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ภารกิจ Group 6-14 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1076 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 7 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจคือ CRS-26 ส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ, ปล่อยดาวเทียม OneWeb ชุดที่ 16, ปล่อยดาวเทียมสื่อสาร Intelsat 40e และภารกิจปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ Group 6-1, Group 6-3 และ Group 6-6

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1076 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน A Shortfall of Gravitas ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด

ล่าสุด ณ วันที่ 7 กันยายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,702 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 321 ดวง ทำงานผิดปกติ 13 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 343 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,724 ดวง

ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส