สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ในภารกิจ Group 6-18 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันเสาร์ที่ 23 กันยายน เวลา 9:07 p.m. ET (วันอาทิตย์ เวลา 08:07 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 64 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 67 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ภารกิจ Group 6-18 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1060 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 17 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านการปล่อยดาวเทียม GPS III SV03, ดาวเทียมตุรกี (Türksat 5A), แชร์เที่ยวบินใน Transporter-2, ดาวเทียม Galaxy 33 & 34, แชร์เที่ยวบินใน Transporter-6 และดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 11 ครั้ง (ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12)

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1060 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด

ล่าสุด ณ วันที่ 20 กันยายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,786 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 406 ดวง ทำงานผิดปกติ 15 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 428 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,808 ดวง

ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส