จรวด Super Heavy เป็นส่วนบูสเตอร์ที่ขับเคลื่อนยาน Starship ไปสู่วงโคจรของโลกเพื่อให้ Starship เดินทางต่อไปยังดวงจันทร์ ดาวอังคารหรืออีกฟากหนึ่งของโลก และหลังจากที่ Starship ถูกแยกออกไปจรวด Super Heavy ก็จะบินกลับมาลงจอดที่ฐานปล่อย ซึ่ง Elon Musk ซีอีโอของ SpaceX มีแผนว่าจะให้จรวดบินกลับมาจอดที่หอปล่อย โดยใช้แขนช่วยจับเข้ากับส่วนของครีบตาข่ายของจรวดเพื่อช่วยรับน้ำหนัก

ยานเอนเตอร์ไพรส์ Starship ออกแบบมาเพื่อขนส่งผู้โดยสาร 100 คนไปยังดวงจันทร์หรือดวงดาวในระบบสุริยะและเที่ยวบินโดยสารความเร็วสูงเหนือเสียงแบบไฮเปอร์โซนิกข้ามทวีป ซึ่งขณะนี้ SpaceX ได้พัฒนายาน Starship จนสามารถทดสอบบินต้นแบบ SN8 ที่ระดับสูง 12.5 กม. แล้วพลิกตัวกลับลงมาได้แต่จอดไม่สำเร็จเพราะเกิดการระเบิด

ปลายเดือนสิงหาคม SpaceX ประกาศแผนเริ่มสร้างต้นแบบจรวด Super Heavy ที่มีความสูง 70 ม. เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 9 เมตร บรรจุเชื้อเพลิงก๊าซมีเธนเหลวและออกซิเจนเหลวถึง 3,400 ตัน แรงขับ 72 เมกะนิวตัน มี Gross liftoff mass คือน้ำหนักโดยรวมของยานอวกาศที่ต้องยกขึ้นรวมถึงจรวดบูสเตอร์กว่า 3,000,000 กิโลกรัม ที่สำคัญคือ Super Heavy มีขาตั้ง 6 ข้างเพื่อรองรับการบินกลับมาลงจอดเพื่อนำมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งคล้ายกับการลงจอดของจรวด Falcon 9 ที่ลงจอดโดยใช้ขาตั้งแบบพับเก็บได้

จรวด Super Heavy เป็นจรวดพลังสูงที่มีมวลจำนวนมาก ซึ่งแผนใหม่ต้องการตัดส่วนขาตั้งออกไปก็จะช่วยลดมวลและค่าใช้จ่ายออกไปได้ ส่วนบนของจรวดจะมีครีบตาข่าย (Grid fins) สำหรับใช้บังคับทิศทางในการบินกลับมาลงจอดและเมื่อบินกลับมาที่หอปล่อยจรวดก็จะมีแขนออกมาจับครีบตาข่ายเพื่อรับน้ำหนักของจรวด จากนั้นสามารถย้ายจรวดไปวางบนฐานปล่อยเพื่อปล่อยเที่ยวบินต่อไปได้ภายในหนึ่งชั่วโมง

grid fins ส่วนบนบูสเตอร์ของจรวด Falcon 9 โดย Teslarati – Pauline Acalin

เชื่อว่าหลังจากนี้ SpaceX จะแก้มือบินทดสอบต้นแบบ Starship ที่ระดับความสูงจนสำเร็จ และหลังจากนั้นจะมีการเร่งพัฒนาต้นแบบจรวด Super Heavy แล้วบินทดสอบในระดับต่ำให้เราได้เห็นกัน

ที่มา : cnet ภาพปก : SpaceX

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส