เมื่อพูดถึงซีรีส์เกมที่มีอายุยาวนานเกินกว่า 20 ที่ทุกวันนี้ยังคงมีกระแสให้พูดถึงทั้งทางเสียงชื่นชมและเสียงด่า ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีเกมภาคต่อภาคแยกภาคทำใหม่ออกมาเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมจบลงกับซีรีส์ ‘Resident Evil’ หรือชื่อในประเทศญี่ปุ่นอย่าง ‘Bio Hazard’ ที่คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเพราะหลายคนน่าจะรู้จักซีรีส์นี้ดีอยู่แล้ว แต่คุณรู้รึไม่ว่านอกจากเกมที่สร้างออกมาให้เราได้เล่นแล้ว ยังมีเกมในซีรีส์นี้อีกหลายภาคที่ไม่ได้ไปต่อหรือบางเกมนั้นถูกสร้างเสร็จแล้วแต่ก็ถูกยกเลิกที่มีมากมายหลายภาค วันนี้เราเลยขอหยิบเกมการ์ตูนซีรีส์ที่ไม่ได้ไปต่อไม่ได้วางขายแม้จะทำเสร็จแล้วมานำเสนอ จะมีเกม ‘Resident Evil’ ภาคไหนจากเครื่องอะไรหรือมีซีรีส์ไหนที่ไม่ได้ไปต่อบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

Resident Evil Animated Series

เริ่มต้นเรื่องแรกกับความน่าแปลกใจว่ามีโครงการแบบนี้ด้วยหรอ แต่เมื่อดูจากชื่อหัวข้อแล้วคุณก็อาจจะไม่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมโครงการนี้ถึงถูกยกเลิก กับเรื่องราวของ ‘Resident Evil Animated Series’ ที่หมายถึงตัวการ์ตูนภาพวาดแบบอนิเมะญี่ปุ่นที่ไม่ใช่กราฟิก ‘CG’ แบบที่เราได้ดู ที่ในการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวภาคต่อส่วนขยายของภาพยนตร์ ‘Resident Evil’ ของ พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W.S. Anderson) ที่ฉายในปี 2004 โดยเรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวหลังจากภาพยนตร์ ‘Resident Evil Apocalypse’ ช่วงที่ อลิซ (Alice) สามารถหนีออกมาจาก ‘Umbrella Corporation’ ในช่วงจบเรื่องว่าหลังจากนั้นทุกคนไปไหนทำอะไรต่อ ที่พอขึ้นภาคใหม่อลิซก็มาอยู่คนเดียวแล้วตัวละครคนอื่น ๆ หายไปจนหมด การ์ตูนเรื่องนี้จึงจะมาขยายเนื้อหาในส่วนนั้นที่หลายคนสงสัย แต่สุดท้ายการ์ตูนซีรีส์นี้ก็ถูกยกเลิกโดยที่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไรทำไมการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้ไปต่อ ซึ่งคนที่ออกมาให้ข้อมูลนี้คือคนออกแบบตัวละครซีรีส์นี้นามว่า เจย์ โอลิวา (Jay Oliva) ที่หลายคนก็บอกว่าดีแล้วที่ไม่มี ถ้ามีก็ไม่รู้ว่าจะออกทะเลไปไหน

Resident Evil Animated Series

Resident Evil Game Boy Color

อีกหนึ่งตำนานคนเมืองที่เล่าสืบต่อกันมาของแฟนเกม ‘Resident Evil’ ที่เล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นไม่ต่างกับเรื่องผีหรือเรื่องแปลกต่าง ๆ ในบ้านเราอย่างตำนานผี ป๊อก ป๊อก ครืด หรือ จุ๊มเหม่งพูดไม่ได้ เกี่ยวกับการเอาเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกมาทำใหม่ลงบนเครื่องเกมของ ‘Nintendo’ ในตอนนั้นอย่าง ‘Game Boy Color’ ที่จนถึงตอนนี้ตำนานนั้นก็ยังคงอยู่ และหลายคนก็พยายามหาคำตอบว่ามันมีจริง ๆ ไหม โดยข่าวลือนี้เกิดขึ้นในปี 1999 เมื่อทาง ‘Capcom’ จ้างบริษัทนอกอย่าง ‘HotGen Studios’ ของอังกฤษมาทำเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกมาลงบนเครื่อง ‘Game Boy Color’ ที่ถ้าใครเกิดทันจะรู้ดีว่าเครื่องเกมพกพาตัวนี้มันไม่สามารถสร้างกราฟิกแบบเกม ‘PlayStation 1’ ได้ ทุกอย่างเลยต้องสร้างขึ้นมาใหม่หมด และด้วยความจุที่สูงเกินกว่ากำหนดตัวเกมเลยต้องมีสองตลับ และเลื่อนการผลิตออกไปหลายครั้งจนไม่มีทีท่าว่างานจะเสร็จ จนสุดท้ายในเดือนมีนาคมปี 2000 ตัวเกมก็ถูกยกเลิก และทางบริษัท ‘M4’ มารับหน้าที่ต่อจนสร้างออกมาเป็น ‘Resident Evil Gaiden’ และมีข่าวลือว่ามีคนไปค้นพบเกมทั้งสองตลับนั้นและเอารูปมาเปิดเผย (รูปประกอบข้างล่าง) จากข้อมูลบอกว่าตัวเกมยังไม่สมบูรณ์แต่ตลับแรกก็สามารถเล่นได้คล้ายตัวเกมต้นฉบับส่วนตลับสองยังสร้างไม่สมบูรณ์ ส่วนรูปนั้นก็รู้ว่ามาจากของจริงไหม เพราะใคร ๆ ก็ทราบดีว่าเครื่อง ‘Game Boy Color’ ในยุคนั้นไม่มีระบบเก็บข้อมูลในเครื่องจะมีแค่ในตลับเกมที่ใช่ถ่านกระดุมในการบันทึกข้อมูล การเปลี่ยนตลับไปมาโดยการโอนข้อมูลจากตลับแรกไปตลับ 2 มันเป็นไปไม่ได้ จนหลายคนไม่เชื่อว่ามันคือความจริง เรื่องนี้ฟังหูไว้หูก็พอ

Resident Evil Game Boy Color

Resident Evil 2 GameBoy Advance

หลังจากที่ ‘Resident Evil 1’ บน ‘Game Boy Color’ กลายเป็นตำนานคนเมืองให้รุ่นพี่เล่าให้รุ่นน้องที่เพิ่งเข้าวงการซอมบี้ได้ฟังไปแล้ว ก็ยังมีตำนานคนเมืองภาคต่อที่คราวนี้เป็นเรื่องราวของ ‘Resident Evil 2’ ที่ก็มีข่าวลือว่าตัวเกมเคยถูกพัฒนาลงบนเครื่องเกมพกพาตัวใหม่ของ ‘Nintendo’ อีกครั้งบนเครื่อง ‘GameBoy Advance’ ที่ตัวเครื่องเกมตัวนี้ก็อาจจะ (ย้ำว่าอาจจะ) พอเป็นไปได้กว่าสมัย ‘Game Boy Color’ โดยเกมนี้พัฒนาโดยบริษัท ‘Raylight Studios’ ในอิตาลี ที่เป็นผู้เสนอไปทาง ‘Capcom’ ว่าจะทำเกม ‘Resident Evil 2’ ลงบนตลับ ‘GameBoy Advance’ พร้อมเกมตัวอย่างเกมที่เป็นข่าวในปี 2003 แต่ด้วยขนาดแผ่น ‘CD’ ในตอนนั้นยังใช้ตั้ง 2 แผ่นในการเก็บข้อมูล แต่ตลับ ‘GameBoy Advance’ ที่ความจุน้อยกว่าต้องใช้กี่ตลับถึงจะพอ ไหนจะการเก็บข้อมูลเพื่อย้ายตลับที่ตัวเครื่อง ‘GameBoy Advance’ ก็ไม่มีระบบเก็บข้อมูลในเครื่องแบบสมัยนี้ และด้วยเหตุผลมากมายทาง ‘Capcom’ เลยไม่สนใจ เรื่องราวนี้เลยเป็นแค่ตำนานคนเมืองที่ปลุกไม่ขึ้น และหลายคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีตำนานนี้อยู่

Resident Evil 2 GameBoy Advance

Resident Evil Outbreak File 3

ในส่วนนี้ต้องบอกก่อนว่ามันไม่มีข้อมูลยืนยันจริง ๆ ที่อาจจะเป็นแค่ข่าวลือข่าวหลุดที่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นจริงขนาดไหน เพราะในสมัยก่อนที่ยังไม่มีระบบอินเทอร์เน็ตที่สามารถหาข้อมูลได้รวดเร็วฉับไวเหมือนสมัยนี้ พอมีข่าวลือภาพหลุดออกมาสองสามรูปทุกคนก็เชื่อโดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นจริงรึเปล่า เหมือนอย่างเรื่องของ ‘Resident Evil Outbreak File 3’ ที่ถ้าใครไม่รู้จัก ‘Resident Evil Outbreak’ คือเกมออนไลน์ที่เราจะได้เล่นกับเพื่อน ๆ เพื่อหาทางหนีออกมาจากเมืองห่าผีตามเนื้อเรื่องในเกม ‘Resident Evil 2’ ที่ลงบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ ซึ่งมีตัวละครต่างอาชีพต่างความสามารถในการหนี ที่ตัวเกมทำออกมาแค่ 2 ภาคก็เลิกทำภาคต่อเพราะยอดขายแย่ แต่ก็มีข่าวลือในตอนนั้นว่าถ้าคุณใช้เครื่องมือโกงเกมที่บ้านเราเรียกว่า ‘Action Replay’ ซึ่งถ้าคุณใช้ของยี่ห้อ ‘Game Shark’ คุณจะพบตัวละครใหม่ฉากต่าง ๆ อีกมากมายในเกมนี้ ที่ข้อมูลบอกว่านี่อาจจะเป็นส่วนเสริมใน ‘Resident Evil Outbreak File 3’ ก็ได้ แต่หลายคนก็ไม่เชื่อแบบนั้นและคิดว่านั่นอาจจะเป็นส่วนเสริมที่จะเพิ่มมาในภาค 2 มากกว่า จนมีข่าวลือใหม่ว่าทาง ‘Capcom’ จะสร้าง ‘Resident Evil Online’ ขึ้นมาแต่ข่าวนี้ก็จุดไม่ติดเพราะมันไม่มีมูลที่น่าสนใจ เราเลยไม่ขอฟันธงว่ามันมีจริงไหม แต่ที่แน่ ๆ ยอดขาย ‘Resident Evil Outbreak File 2’ แย่จนไม่มีภาค 3 นั่นคือเรื่องจริงที่หลายคนรู้ดี

Resident Evil Outbreak File 3

Resident Evil 7 Alpha

กระโดดมาที่ภาคใหม่กันบ้างกับ ‘Resident Evil 7’ ที่เป็นตำนานคนเมืองเรื่องใหม่ที่เพิ่งถูกเอามาพูดถึงเมื่อราว ๆ ปีสองปีที่แล้ว กับต้นฉบับที่สร้างไม่เสร็จของ ‘Resident Evil 7’ ที่ถูกเรียกว่า ‘Alpha’ หรือที่แฟน ๆ เรียกเกมนี้ว่า ‘Resident Evil 6.5’ ที่มีนาย ดัสก์ โกเลม (Dusk Golem) เป็นคนออกมาเปิดเผยข้อมูล ว่าเดิมที ‘Resident Evil 7’ จะเป็นเกมเหมือน ‘Resident Evil 6’ โดยมีนาย ลีออน เอส. เคนเนดี  (Leon S. Kennedy) คนดีคนเดิมกับสาวน้อย เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์ (Sherry Birkin) เป็นตัวเอก ที่ต้องเจอเรื่องราวหลอน ๆ ในประเทศแถบยุโรป แถมข้อมูลยังบอกว่าตัว ‘Demo’ ถูกพัฒนาไปตั้งแต่ปลายปี 2012 แล้วแต่สุดท้ายทาง ‘Capcom’ ก็คิดใหม่ทำใหม่ เพราะแม้ยอดขาย ‘Resident Evil 6’ จะมียอดขายดีแต่แฟน ๆ ก็สาปส่งเพราะความไม่สนุก เลยทำให้ทีมพัฒนาล้มโครงการนี้และสร้างเกมใหม่จนเป็นเกม ‘Resident Evil 7’ ที่เรารู้จัก ซึ่งในเรื่องนี้ทาง ‘Capcom’ ก็ไม่ได้ออกมาบอกอะไรเราเลยไม่รู้ว่ามันจริงเท็จแค่ไหน

Resident Evil 7 Alpha

Resident Evil 0 Nintendo 64

จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมาซึ่งเกี่ยวกับ ‘Resident Evil’ ทุกอย่างล้วนเป็นแค่ข่าวลือที่ไม่รู้ว่าจริงไหม จะมีเพียงตำนานเกมที่ไม่ได้ไปต่ออย่าง ‘Resident Evil 0’ เท่านั้นที่เป็นจริงและมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนเป็นชิ้นเป็นอันที่สุด โดยเรื่องราวนี้ต้องย้อนไปในช่วงปี 2000 ทาง ‘Capcom’ ได้สานสัมพันธ์กับทางปู่ ‘Nintendo’ ให้ช่วยสร้างเกม ‘Resident Evil’ ภาคใหม่มาลงบนเครื่องปู่ที ทาง ‘Capcom’ ก็จัดให้ปู่ตามที่ขอด้วยเกม ‘Resident Evil 0’ ที่ลงบนเครื่อง ‘Nintendo 64’ ในยุคนั้น แถมยังเปิดโชว์ให้เห็นในงาน ‘E3’ ปี 2000 อีกด้วย ก่อนที่ทาง ‘Capcom’ จะประกาศการหยุดพัฒนาเกมนี้ลงบนเครื่องเกมดังกล่าว และบอกว่าเราจะเอาเกมนี้มาทำใหม่เพื่อลงบนเครื่อง ‘GameCube’ ที่เราได้เล่นกันทุกวันนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ หลายคนก็เห็นด้วยเพราะเครื่อง ‘Nintendo 64’ ในตอนนั้นมันฝืนตัวเองมาก ๆ ทั้งกราฟิกก็แย่ทำออกมาก็มีแต่เสียกับเสีย และจนถึงตอนนี้หลายคนก็รอว่าเมื่อไหร่ทาง ‘Capcom’ จะเอา ‘Resident Evil 0’ มา ‘Remake’ เสียที แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นก็ทำ ‘Resident Evil 9’ มาก่อนได้โปรด

Resident Evil 0 Nintendo 64

Bio Hazard Dash

อีกหนึ่งตำนานคนเมืองที่เกิดขึ้นในสมัยที่เกม ‘Resident Evil 2’ กำลังอยู่ในแผนการพัฒนา ก็มีข่าวลือข่าวหลุดข่าวมั่วออกมามากมายพร้อมกับเดาทิศทางของเกมภาค 2 ว่าจะไปทางไหน หนึ่งในนั้นก็คือข่าวลือของ ‘Planning Room 2’ ที่น่าจะเป็นตอนต่อของ ‘Resident Evil 2’ ที่จากข้อมูลบอกว่าตัวเกมนี้มีชื่อในระหว่างการพัฒนาว่า ‘Bio Hazard Dash’ ที่หลายคนเดาว่านี่คือ ‘Resident Evil 2’ แน่นอน โดยในข่าวลือบอกว่าเรื่องราวคราวนี้ทางทีมพัฒนาจะบอกเล่าเรื่องราวของคฤหาสน์ที่ระเบิดไปในภาคแรก ที่ตอนนี้ยังมีร่องรอยของการรอดชีวิตของสัตว์ประหลาดอยู่ โดยทีมงานได้ใช้ส่วนของ ‘Planning Room 2’ ที่เคยตัดทิ้งไปในภาคแรกเอามาใส่ในภาคนี้ และจะมีสองตัวละครที่ดำเนินเนื้อเรื่องไปพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกันแต่จะต่างสถานที่ซึ่งเรื่องราวจะเชื่อมกัน (คุ้น ๆ กันไหม) โดยเรื่องนี้ก็เป็นข่าวลืออยู่ช่วงหนึ่งในต่างประเทศแต่บ้านเราตอนนั้นไม่ได้พูดถึง ก่อนที่เกม ‘Resident Evil 1.5’ จะออกมาและบอกว่าเรื่องราวคราวนี้จะเป็นในเมืองผ่านนายตำรวจกับเด็กสาวที่รอดชีวิตข่าวลือนี้เลยหายไป จนมาถึงปี 2021 ผู้ใช้ ‘Twitter’ ว่า ‘Project Umbrella RE Digest’ ก็ออกมาบอกว่า ชื่อของ ‘Bio Hazard Dash’ เกิดจากการแปลข่าวสารผิดของทีมงานทางฝั่งต่างประเทศ ที่แปลจากหนังสือเกม ‘Famitsu’ รายสัปดาห์ฉบับที่ 430 ผิด ที่ทางนั้นเข้าใจว่า ‘Street Fighter Dash Turbo’ ที่ทางทีมงานประกาศในหนังสือคือ ‘Bio Hazard Dash’ ที่ในตอนนั้นทาง โยชิกิ โอคาโมโตะ (Yoshiki Okamoto) เป็นคนแถลงเกี่ยวกับ ‘Resident Evil 1’ ที่จะลงบนเครื่อง ‘Sega Saturn’ และระบบเกม ‘Resident Evil 2’ ที่จะสร้างในภาคต่อไปเท่านั้น เรียกว่าแปลผิดจนคนเอามาโยงจับนั่นใส่นี่จนมั่วไปหมด และที่งงสุดก็คือ ‘Planning Room 2’ ใครเป็นคนแต่งเพิ่ม แต่ก็อย่างว่าถ้าเราเห็นตัวหนังสือญี่ปุ่นยาว ๆ แบบนี้ไม่งงไม่ตาลายก็แปลกแล้ว (รูปประกอบด้านล่าง)

Bio Hazard Dash

Resident Evil Netflix

ปิดท้ายกับเรื่องราวน่าเศร้าแต่แสนน่ายินดีของคนในวงการเกม โดยเฉพาะของ ‘Resident Evil’ ที่ตอนนี้มีข่าวลือที่น่าจะได้รับการยืนยันมาแล้ว (มั้ง) ว่าทาง ‘Netflix’ ไม่ไฟเขียวให้ซีรีส์ ‘Resident Evil Season 2’ ไปต่อ เพราะกระแสผู้ชมเสียงตอบรับที่โคตรย่ำแย่ขนาดที่ว่า ‘Resident Evil’ ของ พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน เป็นของน่าดูสนุกไปเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่เคยดูก็บอกสั้น ๆ ว่าอย่าไปดู มันไม่สนุกเสียเวลาชีวิตสุด ๆ โดยหลายคนต่างก็หวังว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงเพราะแค่ซีซันแรกยังเละขนาดนี้ไม่อยากคิดว่าต่อไปจะมั่วขนาดไหน ขอแสดงความเสียใจกับทีมงานด้วยคุณทำดีที่สุดแล้ว (มั้ง)

Resident Evil Netflix

ก็จบกันไปแล้วกับเรื่องราวตำนานคนเมืองข่าวลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ ‘Resident Evil’ มานำเสนอ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นแค่ข่าวลือที่พูดต่อ ๆ กันมาเท่านั้น ไม่มีเรื่องจริงหรือข้อมูลยืนยันในเรื่องนี้แบบ 100% ที่เหมือนตำนานคนเมืองเรื่องแปลกที่คนนั้นก็บอกเคยเห็นคนนี้ก็บอกได้ยิน แต่พอถามไปว่าคนไหนที่เห็นก็ตอบไม่ได้ เรียกว่าอ่านเอาสนุกไม่ต้องไปจริงจังมาก ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็รอติดตามกันได้ หรือจะย้อนไปอ่านบทความเก่า ๆ ก็มีเรื่องราวอีกมากมายรอคุณอยู่ ทั้งเรื่องเกมการ์ตูนข่าวสารวงการบันเทิงเข้าไปอ่านต่อได้เลย รับรองไม่มีเบื่อแน่นอน แล้วพบกันใหม่บทความหน้า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส