2020 เป็นอีกหนึ่งปีที่วงการเกมยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ซึ่งในหลากหลายเกมที่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมชนิดที่ว่า Beartai คงไม่สามารถเพิกเฉยต่อเกมคุณภาพเหล่านั้นได้ (หรือบางเกมก็สมควรเอามาด่าซะหน่อยจะได้ตั้งใจสร้างเกมออกมาไม่สุกเอาเผากิน ฮึ้ย!) เราจึงขอเป็นอีกสื่อที่จะมอบรางวัลให้กับผลงานเกมต่าง ๆ ในปีนี้กับ Beartai Game Awards 2020 มากันครับว่าจะมีหัวข้อไหน และเกมใดที่เหมาะสมกับรางวัล!

เกมแห่งปี – Ghost of Tsushima

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: The Last of Us Part 2

Ghost of Tsushima: เป็นเกมปิดท้าย Generation Console ยุคที่ 8 ได้อย่างสวยงาม Exclusive สำหรับ Sony Playstation 4 ผลงานจากทีม Sucker Punch Productions ที่มีชื่อเสียงจากเกม Infamous ได้สร้างประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นยุคคามากูระ โดยใช้ฉากหลังเป็นช่วงการรุกรานของมองโกลที่เกาะสึชิมะ โดยตัวเกมนั้นมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งตัวเกมยังได้รับคำชมจากนักพัฒนาเกมจากญี่ปุ่นว่า “ทีมงานมีความเป็นญี่ปุ่นมากกว่าเราเสียอีก”

ตัวเกมนั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งในแง่ของรายได้และคำวิจารณ์จากทั้งเหล่าผู้เล่น และสื่อต่าง ๆ อย่างไร้ข้อกังขา ตัวเกมนั้นอัดแน่นไปด้วย Content ต่าง ๆ มากมาย มีการเพิ่มโหมด Coop Multiplayer เข้ามาในภายหลัง อีกทั้งยังมีโหมด “Kurosawa” ที่จะเปลี่ยนฟิลเตอร์ภายในเกมเป็นแบบขาวดำ เพื่อคารวะ Akira Kurosawa สุดยอดผู้กำกับแห่งยุคอีก อีกทั้งตัวเกมยังได้ใส่ความเป็นญี่ปุ่น และ วัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ามาเยอะมาก ๆ ตลอดทั้งเกมมันจะทำให้เราได้ซึมซับความเป็นญี่ปุ่นเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นฉากบรรยากาศต่าง ๆ ตัวละคร บทพูด หรือแม้แต่การกระทำของ NPC แต่ละตัว รวมไปถึงตัวเกมจะสอนเราให้รู้จักกับ 7 วิถีของนักรบซามูไรตามหลัก “บูชิโด” ที่ตัวเกมได้ใส่เข้ามา ทำให้พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า Ghost of Tsushima คือสุดยอดเกมซามูไรแห่งยุคเรวะ ก็คงไม่ผิดนักครับ “ถ้าหาก Seven Samurai คือครูของวงการหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับหลาย ๆ คนในยุคต่อมา Ghost of Tsushima เองก็จะกลายเป็นครูเหล่านักพัฒนาที่อยากทำเกมแนวซามูไรในยุคต่อไปครับ”

The Last of Us Part 2: ถือว่าเป็นอีก 1 เกมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งไม่ว่าจะเหตุผลใดในปี 2020 ทั้งในด้านเกมเพลย์ ที่ทำออกมาได้สมจริงและลุ้นระทึกตลอดการเล่น ทุกการกระทำที่ผู้เล่นตัดสินใจล้วนส่งผลต่อความยากง่ายของเกมเพลย์ของเรา มีความยืดหยุ่นในการเลือกสายในการเล่นพอสมควร ถูกใจทั้งสายแอ็กชันและลอบเร้น เนื้อเรื่องก็ถูกนำเสนออกมาได้อย่างลงตัวและกลมกล่อม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวละครในเรื่องนี้กระทำออกมาล้วนมีเหตุผลที่หนักแน่น พอที่จะให้ผู้เล่นเชื่อในสิ่งที่ตัวละครเหล่านั้นทำแต่ก็อาจจะไม่ถูกใจหลาย ๆ คนที่ติดภาพจำในภาคแรก และผิดหวังที่ไม่ได้เล่นตัวละครเดิมอีกครั้ง แต่อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง ถ้าหากเราไม่อคติกับฝ่ายไหนมองแค่ภาพรวมของเนื้อเรื่องที่ตัวเกมต้องการจะสื่อออกมาก็จัดว่ายอดเยี่ยมและยากที่จะคาดเดาได้จริง ๆ ส่วนกราฟิกก็ถือว่าสุดยอดที่สุดมากและถือว่าเป็นการทิ้งทวน PlayStation 4 ได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ

เกมผู้เล่นหลายคนแห่งปี – Among Us

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Fall Guys: Ultimate Knockouts

Among Us: คือหนึ่งในเกมที่สั่นสะเทือนวงการเกมที่สุดของปี 2020 ด้วยการนำเอาระบบการเล่นของบอร์ดเกมแนวสืบสวนหาคนร้ายมาประยุกต์ดัดแปลงเข้ากับแพลตฟอร์มของเกมดิจิทัล ผสมเข้ากับคอนเซ็ปต์ของหนังเอเลียนสยองขวัญอย่าง The Thing ที่คุณจะได้รับบทเป็นลูกเรือยานอวกาศที่ต้องทำภารกิจซ่อมแซมสถานีอวกาศไปพร้อม ๆ กับตามหาว่าใครกันแน่ ที่เป็นเอเลียนแฝงตัวมา 

ด้วยระบบการเล่นที่เข้าใจง่าย อาศัยการจับผิดกันระหว่างผู้เล่น ทำให้ Among Us เป็นเกมที่จะเล่นกับเพื่อนแบบขำ ๆ ก็สนุก หรือจะเล่นแบบจริงจังชิงไหวชิงพริบก็ลุ้นกันตัวโก่ง ยิ่งในสถานการณ์โควิดระบาดเช่นนี้ Among Us จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่กลุ่มเพื่อนจะได้นัดสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน นอกจากนี้แล้ว มันยังเป็นเกมที่ทำให้เหล่าสตรีมเมอร์ทั่วโลกได้มีโอกาสครอสโอเวอร์มาเล่นด้วยกัน สร้างสีสันให้กับวงการและทำให้หลาย ๆ คนได้แจ้งเกิดกันเลยทีเดียว

Fall Guys: Ultimate Knockout: คือเกมแนว Battle Royale ที่อาศัยผู้เล่นจำนวนมากขับเคลื่อนความสนุกและสีสันของเกม ทั้งยังมีกราฟิกที่น่ารักสีสันสดใส  Fall Guys จึงไม่ใช่แค่ดึงดูดผู้เล่นที่เป็นเกมเมอร์อย่างเดียว แต่สามารถทำให้คนที่ไม่ช่สาวกเกมก็ร่วมเล่นด้วยอย่างง่ายดาย นอกจากด่านต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย ต้องอาศัยการชิงไหวชิงพริบและทักษะเฉพาะตัวเพื่อเข้าสู่รอบต่อไป กฎกติกาที่แยกย่อยยังปรับเปลี่ยนเพื่อนร่วมทีมให้เป็นศัตรูตัวฉกาจได้แบบพลิกฝ่ามือ เรียกได้ว่าเกมนี้เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องมีปฏิสัมพันธ์กันทั้งรูปแบบการให้ความร่วมมือและการแข่งขัน เราจึงได้เห็นภาพของมิตรภาพที่ดี ไปจนการทรยศหลังหักได้ทั้งหมดจากเกมนี้เกมเดียว

เกมเนื้อเรื่องยอดเยี่ยม – The Last of Us Part 2

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Cyberpunk 2077

The Last of Us Part 2: อาจได้รับคำวิจารณ์ต่าง ๆ นานา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเกมที่เน้นดราม่าของเนื้อเรื่องมาก ตั้งแต่การเติบโตขึ้นของ Ellie ความสัมพันธ์เชิงพ่อลูกระหว่าง Joel กับ Ellie ไปจนถึงเรื่องราวสุดเข้มข้นของ Abby ทั้งหมดทั้งปวงถูกรวมเข้ากับเกมเพลย์ที่ถูกวางแผนมาอย่างดีให้เราได้เล่นไปและรับชมเรื่องราวของตัวละครในโลกอันโหดร้ายที่ถูกซอมบี้เข้ายึดครอง วิธีการเล่าเรื่องและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในเกมทำให้ The Last of Us Part 2 สมควรได้รับความชื่นชมที่สามารถเล่นกับจิตใจของผู้เล่นได้ถึงขนาดนี้

Cyberpunk 2077: ถูกปล่อยออกมาในสภาพลูกผีลูกคนสุด ๆ เวอร์ชัน PC เต็มไปด้วยบั๊กยาวเป็นหางว่าว ส่วนเวอร์ชัน PS4, XBOX ONE นี่พังจนถึงขั้นเล่นไม่ได้กันเลย แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาทั้งหมดที่ถาโถมเข้าใส่ก็ไม่สามารถทำให้เนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยมของเกมนี้หม่นหมองลงได้เลย ทั้งงานกำกับฉากคัตซีนที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้หนังแอ็กชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ บทพูดของตัวละครหลักทุกตัวต่างก็โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังได้นักพากย์มือดีมาช่วยส่งบทให้ตัวละครดูมีชีวิตชีวาจนเกมเมอร์จะเผลอผูกพันเหมือนเป็นเพื่อน (เฮียคีนูก็เช่นกัน)​ อีกทั้งจังหวะการดำเนินเรื่องก็ตื่นเต้นน่าติดตามจนแทบวางเมาส์ไม่ลง รับรองว่าคุณจะได้ถลำลึกไปกับเรื่องราวอันดำมืดและลึกล้ำเกินจินตนาการใน Night City แบบไม่รู้ตัว ถึงแม้มันจะมีคนทำท่า T-Pose หรือวอร์ปไปมาให้เห็นกันเกลื่อนก็เหอะ…

ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม – Final Fantasy VII Remake

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: DOOM Eternal

Finalfantasy VII Remake: เพลงภายในเกมนั้นอ้างอิงมาจากต้นฉบับจากอาจารย์ Nobuo ที่มีกลิ่นอายความเป็น Metal ผสม Orchestra ภาค Remake ได้เพิ่มเติมโน้ตบางตัวให้เข้ากับยุคสมัยใส่ความ Classic ให้รูปเนื้อเพลงฟังออกมาสวยงามลื่นหูเข้ากับ Theme และ Character ตัวละคร ตามฉบับของอาจารย์ Nobuo เข้ากันอย่างไร้ที่ติ ทำให้เมื่อเล่นเกม ภาค Remake ผู้เล่นนั้นยิ่งเพลินและตื่นตา ทั้งตัวละครมีเสียงพากย์ทุกตัว ฟังการสนทนาของตัวละคร พร้อมเพลงบรรเลงที่คุ้นหูคลอเบา ๆ ทำให้เกมมีชีวิตชีวามากขึ้น แม้แต่ฉากต่อสู้เพลงก็ยังคงเป็นเพลงที่เราคุ้นเคยอย่าง Those Who Fight และ เพลงที่มี Impact ที่สุดในภาคนี้อย่างเพลง One Winged Angel ยังคงความ Original ได้อย่างลงตัวมาก Finalfantasy VII Remake เพลงดี พากย์ดี 10 เต็ม 10

DOOM Eternal: ออกมาโอบกอดชาวเราด้วยเสียงดนตรีแนว Industrial Metal ที่ซับซ้อน มีสีสัน และสะใจยิ่งกว่าเก่า ต้องขอกราบนาย Mick Gordon จริง ๆ ที่สามารถรังสรรค์งานดนตรีที่เทพกว่าเดิมออกมาได้ บอกเลยว่ามันช่วยให้ประสบการณ์การส่งปีศาจกับนรก (ด้วยลูกซอง)​ ของเรามันส์ระห่ำกว่าเดิม 200% ใครเล่นแล้วไม่เผลอโยกหัวจนคอเคล็ดก็ให้มันรู้ไป! แฮ่! \m/

เกมอินดี้แห่งปี – Hades

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Fall Guys: Ultimate Knockout

Hades: เป็นสุดยอดเกมม้ามืด​แห่งปี ที่เข้าชิงรางวัลหลายสาขา ผลงานจาก Supergiant Games ที่โด่งดังจากเกมอย่าง Bastion และ Transistor​ กลับมาอีกครั้งกับเกมแนว Rogue-like ที่นำเอา Concept ของการเวียนว่ายตายเกิดมาใช้ พร้อมกับระบบการเล่นสุดล้ำ ที่ครองใจสาวก Action RPG กันทุกคนครับ Hadas เป็นเกมที่สร้างรูปแบบการเล่นใหม่ ๆ โดยใช้องค์ประกอบแบบเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่นำมาผสมผสานกัน ทำให้ตัวเกมนั้นมีความแปลกใหม่ และมีความคุ้นเคยกับผู้เล่นทุกคน อีกทั้งตัวเกมยังมาพร้อมกับเสียงพากย์​และเพลงประกอบชั้นดี งานภาพระดับ 5 ดาว พร้อมการที่ตัวเกมออกแบบมาให้ผู้เล่นรู้สึกเสพติด (addicting)​ กับมัน ทำเอาวางจอยไม่ลงกันเลยล่ะ

Fall Guys: Ultimate Knockout: เกมใหม่แนวปาร์ตี้ มัลติเพลเยอร์ จากทีมพัฒนา Mediatonic ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้งผสมกับความป่วนชวนฮา ผู้เล่นจะต้องแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นถึง 60 คนและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อไปให้ถึงเส้นชัย ซึ่งแต่ละด่านมีอุปสรรคและสิ่งกีดขวางแตกต่างกัน เช่น วิ่งเข้าประตูเสี่ยงดวง, หลบลูกตุ้ม, หลบกังหันลม, แข่งกันแย่งหาง, กระโดดลอดห่วง, แบ่งทีมเล่นฟุตบอล และอื่น ๆ อีกมากมาย

เกม RPG แห่งปี – Cyberpunk 2077

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Final Fantasy VII Remake, Genshin Impact

Cyberpunk 2077 (PC): นี่คือเกม RPG ตะวันตกที่มีความเข้มข้นของเนื้อเรื่องที่น่าติดตามทั้งเนื้อหาหลักและรอง ตัวละครที่มีมิติจำนวนมากที่เข้ามาสร้างความผูกพัน การใช้ภาพมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่เห็นสีหน้าตัวละครต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดโลกของเกมที่มีรายละเอียดเชิงลึกอย่างใกล้ชิด ก็สร้างประสบการณ์ “อิน” เสมือนได้เข้าไปสวมบทจริงตามคำนิยาม Role-Playing อย่างแท้จริง ยังไม่นับคำถามคำตอบ การพัฒนาตัวละคร และการเล่นเกม ที่พิถีพิถันมีรายละเอียดที่สร้างประสบการณ์การเลือกเส้นทางการเล่นที่หลากหลาย แม้มันจะยังขาดฟีเจอร์อีกหลายอย่างที่เขาเคยสัญญาให้เราได้คาดหวัง แต่กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่ยังเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมมากเกมหนึ่งอยู่ดี

Final Fantasy VII Remake: เป็นเกม RPG ที่สมควรถูกกล่าวถึงอย่างมาก การนำเนื้อเรื่องเดิมมาสร้างใหม่ จินตนาการเพิ่มเติมจากเดิม เพิ่มรายละเอียดมากมายเข้าไปในเกม เปลี่ยนรูปแบบเกมเพลย์ให้ทันสมัย การปรับปรุงระบบโดยอิงจากของเดิมที่ทำได้ดีมากอยู่แล้วแต่กลับสร้างใหม่ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้ต้องปรบมือให้ผลงานที่สุดยอดชิ้นนี้ เชื่อว่าแฟน ๆ คงตั้งหน้าตั้งตารอภาคต่อกันแล้ว

เกมแอ็กชันแห่งปี – DOOM Eternal

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Spider-Man: Miles Morales

DOOM Eternal มาพร้อมกับฉากแอ็กชันอันรวดเร็ว รุนแรง และเต็มไปด้วยการนองเลือด สะใจคอเกมสายฮาร์ดคอร์แน่นอน ผู้เล่นจะได้ยิงแหลกแจกกระสุนใส่กองทัพปีศาจจากนรกจนแทบไม่ได้พักหายใจ แถมมีเพลงประกอบสุดเร้าใจจากคุณ Mick Gordon ที่จะปลุกอะดรีนาลีนของผู้เล่นให้พลุ่งพล่านตลอดเวลา

Spider-Man: Miles Morales คือเกมที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีการควบคุมตัวละคร การห้อยโหนไปทั่ว New York City การทำคอมโบ ความพลิ้วและความเท่ในการต่อสู้ โดยใช้ทั้งพลังใหม่ที่ Peter Parker ไม่เคยมี การชกและเตะ การใช้ใยแมงมุมและยังมีเครื่องมือช่วยเหลือที่ทำให้การเล่นมันส์ยิ่งขึ้นไปอีก ภาคนี้มีการเล่นแบบ Stealth มากขึ้นโดย Miles Morales สามารถลอบโจมตีเหล่าวายร้ายได้จากจุดหลบซ่อนอีกด้วย

เกมมือถือแห่งปี – Genshin Impact

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Among Us

Genshin Impact: เป็น 1 ในเกมที่เปิดตัวออกมาแล้วได้รับเสียงตอบรับจากผู้เล่นทุกคน ทั้งผู้เล่นในฝั่งสมาร์ตโฟน และกลุ่มผู้เล่นฝั่งอื่น ๆ ด้วยภาพกราฟิกที่สวยงามเกินเบอร์(พร้อมกินสเปกแบบจัดหนัก มือถือแทบไหม้) ในรูปแบบเกม RPG Open-world ให้ความอิสระในการเล่นอย่างเต็มที่ พร้อมตัวละครที่มีเบื้องหลังให้เราติดตามทุกตัว และที่สำคัญคือ แม้เกมนี้เป็นเกมแนวกาชา แต่เราสามารถเล่นเกมนี้ได้แม้ไม่เติมเงินเลยแม้แต่บาทเดียว และที่สำคัญคือทุกตัวละครภายในเกมนี้ได้รับการพากย์เสียงทั้ง 4 ภาษาคือ อังกฤษ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น พร้อมรองรับการแปลหลายภาษา รวมไปถึงภาษาไทยเต็มรูปแบบ จึงทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอารมณ์ในการเล่นเกมนี้ได้อย่างเต็มอรรถรส สมกับเป็นเกมที่ได้รับการการันตีรางวัล Best Game Awards ทั้งฝั่ง Google และ Apple ครับ

Among Us: เป็นเกมเก่าที่อยู่คู่ Store บนแพลตฟอร์มมือถือมาได้ 1-2 ปี แต่กลับเป็นที่ฮือฮาขึ้นมาในปี 2020 แบบคาดไม่ถึง ทำให้เกมเมอร์จำนวนมากมีโอกาสสัมผัสกับความ “มีของ” ของเจ้าเกมอินดี้กราฟิกลายเส้นนี้เข้าให้อย่างจัง ด้วยแนวเกมหาคนร้ายรูปแบบ sci-fi ในพื้นที่จำกัดอย่างยานอวกาศ หนึ่งในเพื่อนนักบินมีเอเลียนหรือบางสิ่งที่จ้องจะฆ่าลูกเรือให้หมดลำแฝงตัวอยู่ มันจึงดูเป็นเกมที่สามารถเอาพลอตและเกมเพลย์ไปขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นได้อย่างสบายๆ แต่เกมนี้กลับนำเสนอทุกอย่างผ่านลายเส้น doodles ง่ายๆ ที่เป็นมิตรกับคนทุกเพศทุกวัย เปิดประสบการณ์เกมแนว “เสียเพื่อน” ให้กับเกมเมอร์หน้าใหม่อย่างแยบยล ทำให้เกมนี้ฮอตฮิตถึงขั้นที่ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะขอดูมือถือของใคร ไม่มีใครไม่มีเกมนี้เลยทีเดียว

เกมหน้าใหม่แห่งปี – Phasmophobia

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Fall Guys: Ultimate Knockout

Phasmophobia: สามารถสร้างความต่างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในยุคที่เกมแนวผี ๆ ระทึกขวัญเริ่มล้นตลาด ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ล่าท้าผีที่สามารถเลือกวิธีสืบหาร่องรอยที่หลากหลายแล้วแต่จะเลือกสรร ทั้งยังสามารถร่วมเล่นกับเพื่อน ที่มอบทั้งความบันเทิงและหลอนได้ในเวลาเดียวกัน แม้กราฟิกจะยังไม่ได้โดดเด่นมากนัก ยังให้ความรู้สึกกาว ๆ เหมือนแนวเกม simulator อื่น ๆ อยู่ แต่ในแง่ของซาวน์ประกอบต่าง ๆ ในตัวเกมก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เล่นสะดุ้งโหยง ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกมนี้ถึงได้กลายเป็นกระแสในวงการเกม และมีเหล่าสตรีมเมอร์เล่นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้

Fall Guys: Ultimate Knockout: เกมที่นำเอาโครงสร้างของเกมแนว Battle Royale มาผสมผสานเข้ากับเกมโชว์แนววิ่งฝ่าสิ่งกีดขวางที่เรา ๆ เคยดูกันทางทีวี ที่จะโยนผู้เล่นถึง 60 คนเข้าแข่งขันมินิเกมกันเป็นด่าน ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมแนววิ่งแข่งเข้าเส้นชัย แนวเอาตัวรอด ไปจนถึงเกมเล่นเป็นทีม เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวในท้ายที่สุด น่าเสียดายที่กระแสของ Fall Guys นั้นตกลงอย่างรวดเร็วเพราะปัญหาผู้เล่นโกงและอัปเดตที่ไม่ทันใจ รวมถึงถูกกระแสของ Among Us ที่เข้ามารับช่วงต่อกลบอีกด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Fall Guys นั้นเรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสปาร์ตี้เกมในปี 2020 ก็ว่าได้

เกมครอบครัวแห่งปี – Animal Crossing: New Horizons

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Fall Guys: Ultimate Knockout

Animal Crossing New Horizons: คือเกมแนว Life Simulation ที่เราจะได้รับบทบาทเป็นผู้พัฒนาเกาะให้น่าอยู่มากที่สุด เราจะต้องเริ่มจากการนอนเต็นท์ ขุดหิน เก็บผลไม้ ค่อย ๆ หาเงินปลดหนี้เพื่อสร้างบ้านให้ใหญ่ขึ้น หาเฟอร์นิเจอร์ คราฟต์ของตกแต่งต่างๆ ไปจนถึงผูกมิตรกับบรรดาเพื่อนบ้านสารพัดสัตว์สุดน่ารัก เรียกได้ว่าเป็นเกมสโลไลฟ์สุดชิลล์ที่เล่นเมื่อไรก็ทำให้รู้สึกเพลดเพลินทุกครั้ง แถมยังเป็นเกมที่มีไฮไลต์อยู่ที่ความเรียลไทม์หรืออ้างอิงเวลาตามเวลาจริงอีกด้วย อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Animal Crossing ประสบความสำเร็จก็คือคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคล่าสุดที่สามารถเล่น 2 คนบนเกาะเดียวได้ ทำให้เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็ก ๆ อย่างมากเพราะสามารถช่วยกันสร้างเกาะให้สวยงามไปพร้อมกันได้นั่นเอง นอกจากนี้ด้วยความที่ตัวเกมน่ารัก สดใส ไม่มีพิษภัย แถมยังช่วยฝึกความอดทนและสร้างเสริมจินตนาการ จึงถือเป็นเกมที่เหมาะกับเด็ก ๆ อย่างมาก ภาษาอังกฤษที่ใช้ก็ไม่ยากจนเกินไป เป็นเกมที่เล่นสนุกได้ทั้งครอบครัวแน่นอน

Fall Guys: Ultimate Knockout: เกมแนว Battle Royale สีสันสดใส เล่นได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรายการเกมโชว์ชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง โหด มัน ฮา โดยเกมนี้มีตัวละครสุดน่ารัก, ด่านที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ และเล่นง่ายมาก แถมราคาไม่แพงอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้จึงต้องขอยกตำแหน่งเกมครอบครัวแห่งปีให้ไปครองเลย

เกมพัฒนาต่อเนื่องยอดเยี่ยม – No Man’s Sky

No Man’s Sky: ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก จากการพัฒนาและมอบประสบการณ์การเล่นเกมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อลบคำดูถูกในช่วงแรกที่เกมวางขาย มาจนวันนี้ที่อาจบอกได้ว่ามันพลิกฟ้าพลิกดินจากเกมที่น่าผิดหวังเกมเดิมอย่างสิ้นเชิง ยิ่งการอัปเดตในปีนี้ปีเดียวได้อัปจากเวอร์ชัน 2.26 มาเป็น 3.13 เข้าไปแล้ว โดยเสริมของเก่าให้ดีขึ้นแล้ว ยังเพิ่มอะไรใหม่ ๆ เข้ามาอีกเพียบ ที่สำคัญเลยคงเป็นการเล่นมัลติข้ามแพลตฟอร์ม และการต่อยอดรองรับเครื่องเน็กซ์เจนที่บอกเลยว่า ว้าวมาก! เปรียบเป็นแฟนคือแฟนที่เคยทำตัวไม่ดี แล้วกลับตัวกลับใจมาเปย์ไม่ยั้ง เอาใจสุด ๆ จนเราเองต้องเป็นฝ่ายกราบขออภัยที่เคยโกรธอ่ะ

เกมนวัตกรรมแห่งปี – Half – Life: Alyx

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Mario Kart Live Home Circuit

น่าเสียดายที่ในปีนี้มีเกมเมอร์น้อยคนนักที่ได้มีโอกาสเล่นเกม Half-life: Alyx ได้รับการออกแบบมาให้เล่นกับแว่น VR โดยเฉพาะ แถมยังกินสเปกเครื่อง PC สูงลิบ อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถก้าวข้ามกำแพงเทคโนโลยีที่สูงลิบลิ่วนี้มาได้ คุณจะได้พบกับม้ามืดและเพชรเม็ดงามแห่งวงการซึ่งเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ด้านเกมเพลย์ นวัตกรรมใหม่ด้านงานออกแบบฉากที่ละเอียดยิบ และยังสานต่อเรื่องราวอันค้างคาจาก Half-life 2: Episode Two ให้แฟน ๆ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี Alyx จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้กลับไปเล่นเกม Half-Life ครั้งแรก ทำให้คุณอินจัดประหนึ่งว่าตัวเองได้ไปเดินทัวร์นคร City 17 มาจริง ๆ และที่สำคัญที่สุดคือมันได้พิสูจน์อีกแล้วว่า เกม Half-Life คือเกมที่มาเพื่อผลักดันวงการเกม FPS ให้เคลื่อนไปข้างหน้าทุกครั้งไป

Mario Kart Live Home Circuit: อาจเป็นเกมที่ทำให้ความฝันวัยเด็กเหล่านี้เข้าใกล้ความเป็นจริงที่สุดในตอนนี้ ด้วยความพิเศษที่เป็นรถบังคับจริง ๆ สามารถส่งภาพจากหน้ารถมาควบคุมผ่าน Nintendo Switch ได้ นอกจากนี้ยังสร้างสนามแข่งได้เอง เพื่อแข่งขันในรูปแบบการเล่นเดียวกับ Mario Kart มาครบทั้งการเก็บไอเทมเพื่อแกล้งคู่แข่ง การกระโดดดริฟท์เพื่อได้โบนัสความเร็ว แถมยังสามารถเล่นพร้อมกันหลายคนด้วยรถแข่งหลายคันด้วย เราจึงถือว่าเกมนี้เป็นนวัตกรรมเกมแห่งปี 2020 ที่ถ้ามีโอกาสคุณควรลองเล่น แล้วความเป็นเด็กจะกลับคืนมาอีกครั้งครับ

เกมกากแห่งปี – Fast & Furious Crossroads

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Marvel’s Avenger

Fast & Furious Crossroads: เป็นที่น่าเสียดายสำหรับเกมนี้ที่ไม่สามารถไปไกลแบบหนังได้ อาจเป็นเพราะเกมทำมาเพื่อโปรโมตหนังหรือไม่? หรือทำมาเพื่อเอาใจแฟนคอหนัง Fast & Furious ซื้อเกมเก็บสะสมเป็น Collection เฉย ๆ? ตัวเกมจึงออกมาแย่เกินไป ภายในเกมเมื่อเล่นไปแล้วมีอาการกระตุก เฟรมเรตต่ำ บทสนทนาที่ไร้อารมณ์ไม่เข้ากับสถานการณ์ การกำกับบท Cutscene เกมที่ไม่เข้ากับจังหวะการเล่น ไม่มีความสมเหตุสมผล เน้นบู๊ระเบิดรถ กราฟิกเกมปี 2020 แต่เหมือนได้เล่นเกมที่มีกราฟิกของ 2000 ไม่สมกับราคาที่แพงแตะหลักพันเลยสักนิด หากใครได้เล่นเกมนี้คงต้องเปิดใจแล้วลืมเกม Need for Speed ,Forza ,Gran Turismo Sport ลืมหลักการขับรถต่าง ๆ ไปก่อนเพื่อความบันเทิงของตัวท่านเอง

Marvel Avengers: ตั้งแต่ Square Enix ประกาศ สร้างเสียงฮือฮาพอสมควร เป็นกระแสส่งต่อจากภาพยนตร์ Avengers Endgame ด้วยความคาดหวังที่ใหญ่มหาศาล งานหนักตกไปเป็นของทีมพัฒนา Crystal Dynamics ด้วยความคาดหวังที่เยอะมาก ไม่แปลกที่เกมจะโดนวิจารณ์ในหลายจุด เริ่มแรกมาก็โดนวิจารณ์เกี่ยวกับหน้าตาตัวละครที่ดูแข็ง ไม่มีชีวิตชีวา จนต้องปรับแก้กันยกใหญ่ ก่อนเกมวางจำหน่าย เนื้อเรื่องของเกมก็สั้น ตัวเกมเน้นไปที่การเลือกทำภารกิจ Multiplayer ฟาร์มเลเวลไปเรื่อย ๆ มากกว่า เล่นไปสักระยะก็เบื่อ ความเบื่อมาจากตัวละครที่น้อยเกินไป ตัวร้ายก็น้อย จำเจ ด้วยความที่มีชื่อว่า Avengers ตัวละครควรที่จะเยอะกว่านี้ กว่าจะมีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามา คนก็เลิกเล่นกันไปหมดแล้ว เป็นเกมที่น่าผิดหวังและควรทำได้ดีกว่านี้

เกมสุดคาดหวัง สุดท้ายล้ม (ไม่เป็นท่า) – Warcraft III: Reforged

ควรค่าแก่การกล่าวถึง: Cyberpunk 2077

Warcraft III Reforged: นั้นทำให้แฟน ๆ Warcraft ทั่วโลก Happy กันเป็นอย่างมากหลังจากได้ยินการประกาศทำออกมา และเมื่อมีการเปิดตัวอย่างแรกออกมาให้ดู ทำให้เราได้เห็นถึงความพัฒนาของกราฟิก และ Interface พร้อมกับ cutscenes ที่ถูกออกแบบใหม่มาทั้งหมด และมัดรวม campaign ทั้งหมดของ Reign of Chaos และ The Frozen Throne ไว้ในเกมเดียวกัน และยังมีการปรับปรุงระบบ Online ใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังรองรับ World Editor เหมือนเดิม ทำให้หลาย ๆ คนคิดว่ามันต้องออกมายอดเยี่ยมแน่ ๆ ตั้งแต่วันที่เราเห็นตัวอย่างในงาน Blizzcon 2018 ครับ แต่แล้วเมื่อถึงวันวางจำหน่าย ตัวเกมก็ถูกรุมสับจากเหล่าผู้เล่นและสำนักรีวิว จากทั่วทุกมุมโลก Blizzard นั้นทำไม่ได้ตามที่เคยพูดเอาไว้ เพราะคุณภาพของ Warcraft 3: Reforged มันแย่มาก ๆ ตัวเกมมีปัญหาแถบจะทุกเรื่อง ตัวเกมเวอร์ชัน Reforged นั้นกลายเป็น Warcraft 3 เวอร์ชันที่แย่กว่าเดิม แถมยังมีการตัดลดฟีเจอร์บางอย่างจากตัวเกมต้นฉบับไป แถมบังคับให้คนที่เคยชื้อตัวเกมเวอร์ชันดั้งเดิมอยู่แล้ว Upgrade เป็นตัว Reforged ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึง client ของตัวเกมต้นฉบับได้เลย นอกจากนี้ระบบ Online เองก็แย่กว่าเดิม เพราะตัวเกมเล่นตัดฟีเจอร์ของ Battle.net ที่อยู่ในเกมต้นฉบับออกไปทั้งหมด ไม่มีระบบ Clan ไม่มี Channel Chat ไม่มี Leaderboard พร้อมกับ Profile ของผู้เล่นก็ถูกตัดออกไปทั้งหมด และปัญหาสุดท้ายก็คือ Custom Map ที่เป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ Original Warcraft 3 และทำให้ตัวเกมได้รับความนิยมสูงมาก แต่ใน Reforged นั้น Blizzard ได้ออกกฎใหม่ ที่จะทำให้ผลงานทั้งหมด ที่ถูกสร้างขึ้นจาก World Editor จะกลายเป็นทรัพย์สินของ Blizzard ทันที ซึ่งการทำแบบนั้น มันจะเป็นการทำลาย Community ของนักสร้างแผนที่ไปเลยทีเดียว Warcraft 3 Reforged นั้นเรียกได้ว่าเป็นตราบาปของ Blizzard เลยก็คงจะไม่ผิด ตัวเกมได้รับคะแนน Review จาก metacritic ส่วน User Score ที่ 0.6 คะแนน ตัวเกมได้ถูกเกมเมอร์ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น Warcraft 3: Refunded และที่หนักสุดเลยคือ Blizzard ไม่ได้ออกมาพูดถึงกรณีการขอคืนเงิน และไม่มีท่าทีเคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้นอีกด้วยครับ

Cyberpunk 2077 (PS4): จริง ๆ อาจไม่ต้องพูดอะไรมากกับเกมนี้ เพียงหลับตานึกถึงช่วงวันเวลาที่เกมใกล้ออกและคำสรรเสริญเยินยอมากมายจากผลงานในอดีตที่การันตีมาอัตโนมัติ แล้วพอลืมตามาเจอข่าวลบต่าง ๆ มากมายที่หนักถึงขั้นสาปส่งบริษัทจนแทบไม่เหลือคุณงามความดีในช่วงที่เกมออกมา รวมถึงการผลิตมีมล้อเลียนคุณภาพด้านภาพที่กากเกินไป แถมบั๊กตลก ๆ จนถึงบั๊กหนัก ๆ จนเล่นต่อไปไม่ได้ ที่ผ่านหูผ่านตาเกมเมอร์ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็น่าจะมากเพียงพอแล้วที่จะบอกว่า นี่คือเกมเวอร์ชันที่ล้มแรงที่สุดเกมหนึ่งในปีนี้ ความเจ็บใจสุดคงเป็นการที่ผู้พัฒนาที่เราเคยมั่นใจในความรักต่อวงการเกม กลับเป็นคนเดียวกันที่จงใจปกปิดความล้มเหลวด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่น่าละอายนั่นล่ะ ฮึ่ม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส