ในยุค 80’s มีเกมมากมายที่ประสบความสำเร็จขายดีและเป็นภาพจำสำหรับเด็กในยุคนั้น แต่ก็มีหลายเกมที่ไม่สามารถต่อยอดมาถึงยุคปัจจุบันได้ บางเกมหายไปตั้งแต่ยุค 90’s เพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเล่นที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้

และหนึ่งในนั้นคือ Ninja JaJaMaru-kun เกมแอ็กชัน 2 มิติที่ออกวางขายบน Famicom ในปี 1985 เรียกว่าออกยุคแรก ๆ ของคอนโซลทำให้เกมเพลย์มันไม่ได้โดดเด่นหรือซับซ้อนมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันและเป็นความสนุกที่เด็กในยุคนั้นต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง แม้มันอาจจะไม่ได้โด่งดังเท่ากับ Super Mario หรือ Rockman ก็ตาม

และหลังจากนั้นมันก็มีการออกภาคต่อบน Famicom อีกหลายภาครวมทั้งมีเวอร์ชันเกมตู้มาให้เล่นด้วย ต่อมาในยุค 90’s มีการออกภาคใหม่บน Super Famicom ในชื่อ Super Ninja-kun แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก และปิดท้ายกับภาคสุดท้ายของซีรีส์อย่าง Ninja Jajamaru-kun: Onikiri Ninpou Chou บน SEGA Saturn ,Playstation ที่ขายไม่ค่อยดีนักทำให้มันหายไปจากวงการเกมพักใหญ่

จนล่าสุดมีการเปิดตัวภาคพิเศษที่สร้างใหม่หมดแถมมาพร้มการรวมฮิตเกมเก่าวางขายในชื่อ Ninja JaJaMaru The Great Yokai Battle +Hell – Deluxe Edition วางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One ส่วนบน PC วางขายไปพักใหญ่แล้วแต่ไม่ได้มาพร้อมกับเวอร์ชัน Deluxe Edition (ในตอนแรกที่วางขาย)

กราฟิกเหมือนเดิมแต่ปรับให้ทันสมัย

กราฟิกจะแบ่งเป็นออกเป็น 2 ส่วน จุดแรกคือภาคหลักในการเล่น Ninja JaJaMaru The Great Yokai Battle ที่เป็นเกมใหม่ที่หยิบเอาของเดิมมาสร้างใหม่ ทำให้กราฟิกหลัก ๆ จะเป็นพิกเซลแต่จะใส่ลูกเล่นของกราฟิกแบบเกมสมัยใหม่เข้าไป เช่นแสงสีประกอบฉากที่เป็นไฟส่องและยังใส่เอฟเฟกต์เข้าไปทำให้มันดูไม่เชย

ส่วนนี้จะเหมือนเกมที่เอาของเก่ามาขายใหม่อย่าง Super Mario Maker หรือ Tetris Effect แต่กราฟิกหลักของเกมจะเป็น 8Bit เหมือนเดิม อีกส่วนของเกมคือการยำรวมเอาภาคเก่าของซีรีส์ Ninja JaJaMaru บน Famicom และ Super Famicom มาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับกราฟิกยกเอาของเดิมมาทั้งหมด มีเพียงการปรับสัดส่วนของหน้าจอที่ผู้เล่นเลือกได้เท่านั้น

เพลงและเสียงประกอบก็มาแนวเดียวกับกราฟิก เพราะในส่วนของภาคใหม่ก็จะเป็นดนตรีที่เอาของเพลงธีมคลาสสิกของเกมมาปรับแต่งใหม่ให้ทันสมัยแต่ยังอยู่ในกรอบของเพลงแบบ 8Bit ที่ดูดีมาก เพราะของเดิมถือว่ามีธีมที่ติดหูอยู่แล้วยิ่งมาทำใหม่ทำให้มันไม่เชย ในส่วนภาคเก่าจะยกของเดิมมาทั้งหมดไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร

รูปแบบการเล่นคลาสสิกปรับให้สนุก

ส่วนแรกคือ Ninja JaJaMaru The Great Yokai Battle +Hell ที่เป็นเกมใหม่ที่นำเอารูปแบบการเล่นภาคเก่ามาปรับให้ทันสมัยขึ้น โดยยังคงมาในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างแบบต้นฉบับ ที่นอกจากกราฟิกจะปรับเล็กน้อยตามที่บอกไปแล้วเกมเพลย์ยังปรับให้สดใหม่ลื่นไหลขึ้นด้วย เพราะตัวละครจะมีความรวดเร็วกว่า แตกต่างจากต้นฉบับที่แม้จะเป็นนินจาแต่ก็มีความเชื่องช้า ถือเป็นเรื่องดีที่ปรับให้เร็วขึ้น

การโจมตีถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ โดยอาวุธหลักจะเป็นดาวกระจายที่ยิงใส่ศัตรูแค่มีระยะการยิงไม่ไกลนัก แต่ที่ปรับใหญ่คืออาวุธพิเศษที่เอาของเดิมมาอัปเกรดใหม่ ที่มีทั้งดาวกระจายยักษ์ที่โจมตีรุนแรงและยิงไกล, หรือรถเข็นไว้วิ่งชนศัตรูที่เพิ่มความรวดเร็วและแรงกว่าเดิม และยังมีอาวุธเทพ ๆ ที่ทำลายศัตรูได้ทั้งฉากอยู่ แน่นอนว่ามีกบยักษ์ออกมาให้เราใช้งานด้วย ส่วนฉากในเกมจะสร้างออกมาหลากหลายที่มีทั้งอ้างอิงจากต้นฉบับและออกแบบใหม่แน่อนอนว่าท้ายด่านจะมีบอสสุดโหด ข่าวดีคือโหมดนี้เล่นกับเพื่อน ๆ ได้ด้วยถือว่าไม่เชยจนเกินไปเล่นได้สนุกกว่าที่คาดไว้มาก

รวมฮิต 5+1 ภาคแถมมาให้เล่น

อีกจุดที่ในชุดพิเศษ Deluxe Edition ที่ขนเอาซีรีส์ Ninja JaJaMaru จำนวน 5+1 เกมมารวมให้เล่นกัน โดยจะเริ่มด้วย Ninja Jajamaru-kun บน Famicom ที่มาในรูปแบบเรียบง่ายเพราะแค่กำจัดศัตรูให้หมดฉากก็ผ่าน แต่ก็จะมีบอสให้เราต่อสู้ท้ายด่าน ต่อด้วย Ninja Jajamaru Big Adventure ภาคต่อที่ออกบน Famicom เหมือนเดิม แต่ปรับเปลี่ยนเกมให้เป็นแอ็กชันตะลุยด่านที่ผู้เล่นต้องบังคับตัวละครให้ไปถึงเส้นชัยและต่อสู้กับบอส ถือว่าสนุกและมีการพัฒนาขึ้น

เกมที่ 3 อย่าง Ninja Jajamaru Operation Milky Way ที่ยังออกบน Famicom แต่ได้พัฒนากราฟิกให้ดูดีและเลือกเป็นนินจาผู้หญิงได้ด้วย แต่เกมเพลย์อาจจะธรรมดาไปหน่อย ต่อด้วย Super Ninja Kid ภาคบน Super Famicom ที่เป็นการยกเครื่องกราฟิกครั้งใหญ่แบบ 16Bit แต่เกมเพลย์ยังมาแนวตะลุยด่าน ส่วนข้อดีคือความหลากหลายของศัตรูและเรื่องราวที่เขียนมาดีในยุคนั้น

ปิดท้ายกับ Ninja Jajamaru The Great World Adventure ที่ออกบน Gameboy ขาวดำ แต่เพิ่มเวอร์ชันใส่สีที่เรียกว่า DX เข้ามา และแยกกันมาให้เลือกได้ว่าจะเล่นแบบจอสีหรือขาวดำ (ที่มาของ 5+1 เกม) แต่จะเป็นเกมเดียวกันที่เป็นแอ็กชัน 2D เหมือนเดิมแถมดูคล้ายกับเวอร์ชัน Famicom ด้วย แต่ก็เล่นได้เพลิน ๆ ดี โดยในเวอร์ชันเกมเก่ามาขายใหม่ แม้จะไม่ได้ปรับภาพแค่ก็มีโหมดย้อนเวลาเพื่อให้ผู้เล่นย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดได้ และยัง Save ได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังมีสูตรโกงให้เราใช้งานเช่นมีตัวให้ใช้ไม่จำกัดหรือเป็นอมตะเรียกว่าเล่นยังไงก็จบ แต่แนะนำอย่าใช้เพราะเกมจะหมดสนุกไปเลย

การกลับมาของตำนานนินจา 2D กับเกม Ninja JaJaMaru The Great Yokai Battle +Hell Deluxe Edition ถือว่าเป็นการเอาใจเด็กหนวดที่เกิดทันเล่น เพราะนอกจากจะเป็นเกมใหม่ที่อ้างอิงจากของเดิมแล้ว ยังมีการรวมฮิตภาคเก่ามาให้เล่นอีก และบวกกับราคาขายที่ไม่แพงนักจะหามาเล่นก็ถือว่าคุ้มค่าน่าเล่นอยู่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส