ชำแหละความจริงในสิ่งที่แชร์ ๆ กันมา “9 ข้อควรรู้ที่เราไม่เคยใส่ใจ” ..แล้วมันจริงแค่ไหน???

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องเยอะแยะตาแป๊ะไก่ไปหมดไหนจะ “บิลช็อค CookieRun” , “Google I/O” ดราม่าแฟนมีชู้หลากหลายคู่ใน Pantip.com ฯลฯ เรื่องคุ๊กกี้รันนี่ผมได้ออกไปเคลียร์ผ่านสื่อทีวีแล้วว่า “พ่อแม่เท่านั้นแหละที่ช็อค” เด็กมันฉลาดอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (จนเกิดเป็นมหกรรมเฮโลรู้เท่าไม่ถึงการณ์กันใหญ่) ปัญหาที่น่าห่วงคือ “เยาวชนเราทุกวันนี้คิดว่าโกงได้” มีคนทำคลิปสอนโกงเกมในยูทูปบอกว่าไม่ต้องจ่าย ก็กระหน่ำกดกันไปแบบต่อมวู่วามแตกแบบนั้น ทั้งๆที่ “ทุกครั้งที่กด หน้าจอแสดงผลแจ้งตลอด” มันน่าจับมาตีก้นไหมครับ? ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบอกจ่ออกกฏกระทรวงห้ามทำแอปดูดเงินเพื่อคุ้มครองเยาวชน.. ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า “แก้ผิดจุดครับ” ตั้งโต๊ะหาวิธีทำอย่างไรให้เด็กมันไม่ตื่นเต้นกับ “เรื่องโกงได้” จะดีกว่าครับ.. Moral พังกันตั้งแต่เด็กแล้ววันหน้า “จะอยู่กันอย่างไร???” จ้ะเมืองไทย!

Cookie-Run-Season-2

อังคารนี้ผมตัดสินใจเขียนเรื่องที่ “ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุด” นั่นคือ “อาหารการกิน” ข้อมูลน่าตกใจที่ถูกแชร์ว่อนบนโลกโซเชี่ยลกว่า 5 หมื่นครั้งบนเพจ ๆ เดียวของ Sanook.com (ซึ่งอ้างอิงว่าข้อมูลมาจากเพจ “ศูนย์สันติสุข” แต่จากการตรวจสอบแล้วผมไม่พบโพสต์ต้นตอจากเพจนี้บนเฟซบุ๊ก และดูทรงแล้วคิดว่าไม่น่าใช่จุดเริ่มต้นของข้อมูลนี้)​ อย่างไรก็แล้วแต่ผมอยากให้คุณผู้อ่านลองพิจารณาข้อความทั้งหมดดูก่อนครับ

———————————————————————————————————————


Nui0111

เรื่องเล็กๆ ที่เราเห็นอยู่ทุกวัน แต่บางครั้งเราก็มองข้ามไป ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วยก็ได้ รวมถึง 9 เรื่องต่อจากนี้ที่รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเราด้วย

  1. ยาคูลท์ขวดเล็กๆ มีส่วนผสม ของน้ำตาลทรายขาว 6 ช้อนชา
  2. ร้านกาแฟโบราณรถเข็นที่ขายโอเลี้ยงและชาดำเย็น มีต้นทุนค่ากาแฟเย็นแก้วละ 3 บาท (ขณะที่มั่วๆ ขายเราแก้วละ 20-30 บาท ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นร้านกาแฟสด)
  3. ร้านขายน้ำส้มคั้นสดๆ ตามร้านริมถนนจะมีสวนผสมของยาฆ่าแมลงอยู่ด้วยเสมอจากผิวเปลือกส้ม ที่ไม่ได้ล้าง หรือล้างไม่สะอาด
  4. 95% ของร้านที่ผ่าไข่ด้วยเชือกด้าย เช่น ร้านข้าวหมูแดง ร้านก๊วยจั๊บ เชือกด้ายนั้น ไม่เช็ค ไม่เคยล้าง ไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่เปิดร้าน จนปิดร้าน
  5. 90% ของร้านขายข้าวขาหมูจะเอาคะน้าที่ไม่ได้ล้างไปลวกให้สุกในน้ำขาหมูก่อนที่จะหั่นเนื้อ หันผัก และตักน้ำขาหมู มาราดข้าวให้เรา
  6. 80% ของแม่ค้าขายของที่ใส่ถุงมือขายอาหาร จะใส่ถุงมือหยิบอาหาร และทอนเงิน
  7. อาหารใส่ถุงที่ซื้อจากตลาดในตอนเช้าแล้วกลางวันบูด แสดงว่าอาหารสกปรกมีเชื้อแบคทีเรีย แต่ถ้าไว้ข้ามคืนและไม่ได้ใส่ตู้เย็นอาหารก็ยังไม่เสียแสดงว่าใส่สารกันบูด
  8. โรตีอาบังที่เข็นรถขายตอนเย็นๆ กลางคืน เวลาบังปวดฉี่ บังจะไปยืนหลบๆต้นไม้ฉี่เสร็จ บังไม่ได้ล้างมือที่จับจู๋ฉี่ บังก็มาจับก้อนแป้งตบๆบี้ให้แบน เหวี่ยงให้เป็นแผ่นแล้วก็ทอดโรตีขายให้เรากิน
  9. รถเข็นขายไส้กรอกอิสาน ขายจนดึกกลับที่พักก็จอดรถเข็นไว้หน้าที่พัก ห้องเช่า โดยไม่ได้เก็บที่ปิ้งย่างไส้กรอก ทิ้งไว้บนรถเข็น ตกดึกหนูก็จะมารุมแทะเศษหนังเศษมันของไส้กรอกทราติดอยู่ที่เหล็กบนเตาปิ้ง แถมฉี่ใส่อีกต่างหาก พอสายๆตื่นมาคนขายก็มาปัดๆ กวาดๆ แล้วก็เตรียมของที่จะไปขายต่อ กินกันเข้าไปเชื้อโรคทั้งนั้น

ข้อมูลจากเฟชบุ๊ก ศูนย์สันติสุข

————————————————————————————————————————

Nui022222

..เป็นอย่างไรครับ อ่านแล้วท่านรู้สึกอย่างไร? (อยากแชร์ต่อเลยใช่ไหม? ฮ่า ๆ ) อย่าเพิ่งวู่วามครับ.. ข้อเขียนนี้ผมคาดว่าผู้เขียนมีเจตนาที่ดีในการให้เราตระหนักถึงอาหารไม่ปลอดภัย แต่ถึงกระนั้นการระบุตัวเลขเปอร์เซ็นต์แบบไร้การอ้างอิงกลุ่มสำรวจที่แท้จริง ก็ดูเป็นการ “เต๊าจำนวน” และทำให้ “พ่อค้าแม่ค้าในสายอาชีพที่ถูกอ้างถึงโกธรงอนกันพอสมควร” บทความนี้จึงเป็นการ “หวังดีประสงค์ร้าย” เพราะโจมตีกันเต็ม ๆ …แต่ที่ผมอยากนำมาขยายผลในหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้เพราะผมเห็นว่าบทความนี้ “พื้นฐานการนำเสนอ” มันดีครับ ..งั้นเรามา “ตัดเรื่องโม้ๆ” ออกดีไหมครับ?

มาดูกันทีละข้อๆ นะ

contents_qa_02

ที่มาของภาพ: www.yakultthailand.com

ข้อ1. ยาคูลท์ ..อันนี้อ่านแล้วน่าตกใจ ผมเองก็ดูดยาคูลท์บ่อย เพราะสาวยาคูลท์เป็นตัวแทนจากองค์กรเดียวในโลกที่สามารถเข้าออกพื้นที่สำนักงานไหนก็ได้โดยไม่มีใครทักท้วง.. (ฮ่า ๆ น่าแปลกไหมล่ะครับ?) ผมเคยตั้งข้อสังเกตว่าถ้าใครอยากสืบราชการลับหรือเข้าไปล้วงตับความลับบริษัทไหน ก็แค่ “พรางตัวเป็นสาวยาคูลท์” เข้าได้ครับ เพราะรปภ.ไม่ถาม แม่บ้านไม่ว่า แถมได้รอยยิ้มต้อนรับจากพนักงานยันเจ้าของบริษัท! ในบทความนี้อ้างว่า “ปริมาณน้ำตาลในยาคูลท์สูงถึง 6ช้อนชา”​ เป็นใครก็ตกใจครับ! มาดู “ของจริง” ที่ข้างขวดกัน “18%” คิดเป็น 14.4กรัมจากปริมาณ 80cc  ทีนี้ “น้ำตาล 1ช้อนชา” ในโลกความเป็นจริงมันเท่ากับ 5 กรัม เองครับ (คิดแบบโง่ ๆ ไม่ต้องเอาความหนาแน่นของน้ำกับเนื้อยาคูลท์มาคำนวน เอา 5 หาร 14.4 ดูสิครับ ฮ่าๆ) ฉะนั้นข้อมูลที่ว่ายาคูลท์มีน้ำตาล 6 ช้อนชาต่อขวดจึงเป็นเท็จ ..อย่างไรก็ดี ผมก็สนับสนุนให้คุณเลือกเครื่องดื่มที่ Low Sugar หรือหวานน้อยหน่อยก็จะดีครับ

497538_151042ece3c4639b3cd1c3338f21cc04-620x392

ที่มาของภาพ: eat.edtguide.com

ข้อ2. ประเด็นต้นทุน 3 บาทของกาแฟ 1 แก้วนี่สร้างความโกรธเคืองให้ พ่อค้าแม่ค้ากาแฟอย่างมากครับเพราะมัน “แทบเป็นไปไม่ได้เลย” นี่โลกยุคไหนกันแล้ว และหากเป็นผงกาแฟที่เลวที่สุด เมื่อมาบวกกับค่าน้ำแข็ง/ค่านม/ค่าน้ำตาล/ค่าแก้ว/ค่าหลอดและแน่นอน “ค่าที่” ก็เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด .. ร้านกาแฟที่จริงใจที่สุดกับผมเปิดเผยให้ได้ทราบว่าต้นทุนเนื้อกาแฟอยู่ที่ 12.02บาท (แน่นอนว่ามีร้านที่ใช้ของดีกว่านี้ด้วย)

orange

ที่มาของภาพ: minnattachai.blogspot.com

ข้อ 3.นี่ “ยังไงก็จริง” นี่พูดเลย ระวังกันด้วยครับ ส่วนท่านที่ทำมาค้าขายน้ำส้มคั้นด้วยความใส่ใจสุขภาพลูกค้าเสมือนท่านทำรับประทานเอง ผมขอให้ท่าน​”เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป” ครับ

502370_6e950d7eb139981698d7c7cf36f2c48c-620x392

ที่มาของภาพ: eat.edtguide.com

ข้อ4-5-6 สามข้อนี้บอกตรงๆว่าเป็นพฤติกรรมที่ “เห็นๆกันอยู่” ทั้งนั้น แต่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ที่อ้างถึงดู “ยกเมฆ” ไปมาก ผมอยากรณรงค์ให้ผู้เกี่ยวข้องในกิจการ 3ข้อนี้ “คิดใหม่ทำใหม่” ครับ

d7f6e3e60df247bf9ed3960f25c5440e-s

ที่มาของภาพ: www.wongnai.com

ข้ามข้อ 7 ไปตัดสินข้อ 8 และ 9 ก่อน ยืนยันว่า “สกปรกจริง” แต่ใครจะจับมืออาบังมาดม!? (ฮา) ผมเข้าไปในชุมชนแออัดบ่อยๆเนื่องจากงานอาสาที่ผมทำอยู่ในเช้าวันอาทิตย์ทำให้ผมได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย เห็นแล้วก็ได้แต่สงสาร  เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นอกจากรอวันโลกถูกล้างครับ คอมเม้นต์แค่นี้..

1358493287-1JPG-o

ที่มาของภาพ: pantip.com

ปิดท้ายด้วยข้อ 7. No Comment แต่ขอแนะนำว่า “อาหารควรทานตอนปรุงสุกใหม่ ๆ ” ครับ อย่าใส่ถุงให้ปนเปื้อนเลย ..เล่าเรื่องนี้ดีกว่า! ครั้งนึงผมเคยเยี่ยมชมโรงงานพลาสติก เจ้าของโรงงานเล่าให้ผมฟังว่าพลาสติกมีหลายเกรดมาก ถ้าผลิตเป็นภาชนะเขาจะใช้เม็ดพลาสติก Food Grade จึงจะปลอดภัย ทางโรงงานได้สาธิตการฉีดพลาสติกให้ผมดู น่าทึ่งมาก เหมือนดีดนิ้วแล้วก็ได้ตังค์ เพราะมันฉีดออกมาเร็วมาก ๆ แต่ทุก ๆ ครั้งที่ฉีดออกมาจะมีส่วนที่ต้อง “ตัดออกจากแม่แบบ” ซึ่งต้องใช้แรงงานคนเอาคีมเหล็กเก่า ๆ มาตัด (จะให้คีมมันใหม่เอี่ยมทุกครั้งคงเป็นไม่ได้) แน่นอนครับว่าตอนตัดมันก็มีเศษชิ้นเล็ก ๆน้อย ๆ ที่เกิดจากการหัก ผมถามเจ้าของโรงงานว่า “ต้องนำไปล้างน้ำไหม? ” เขาอึ้งไปนิดและตอบผมว่า “อืมมม.. มันควรล้าง แต่มันไม่มีใครเขาล้างกันนะ” ..จากนั้นงานทั้งหมดที่ผ่านหน้าผมไปก็ถูกซ้อน ๆ ๆเป็นจำนวนมหาศาลบรรจุลงลังแล้วขนขึ้นรถกระบะนำไปส่งผู้ว่าจ้าง … เอวังด้วยประการะฉะนี้ 🙂

หนุ่ยรู้โลกรู้#97: ชำแหละความจริงในสิ่งที่แชร์ๆกันมา “9 ข้อควรรู้ที่เราไม่เคยใส่ใจ” ..แล้วมันจริงแค่ไหน???

ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก