อีกไม่กี่วันพวกเราก็จะได้กลับสู่แดนอุโมงค์ใต้กรุงมอสโควกันแล้ว ในโลกของ “Metro Exodus” เกมภาคที่สามของซีรี่ส์ Metro สุดสยองที่แฟน ๆ FPS หลายคนติดใจกับความหดหู่ที่แสนจะตัดกับงานภาพอันสวยนิ้งของมัน ทีนี้เนื่องจากวันวางตลาดของเกมภาคล่าสุดมันก็ผ่านมาเนิ่นนานกว่า 5 ปี ส่วนภาคแรกก็ออกมาตั้งแต่ปี 2010 โน่น ดังนั้นเราควรมานั่งรื้อฟื้นความหลังกันหน่อยว่าเนื้อเรื่องก่อนหน้านี้มันมีความเป็นมายังไง ยินดีต้อนรับสู่ซีรี่ส์เรื่องย่อของ Metro ภาค 1 และภาค 2 ที่จะพาคุณเข้าสู่แดนรัสเซียพิศวงในโลกหลังหายนะนิวเคลียร์ พร้อมจะดำดิ่งลงสู่อุโมงค์รถไฟใต้ดินอันมืดมิดหรือยังล่ะสหาย?

ปล. แน่นอนว่าสปอยล์นะจ๊ะ ใครอยากรู้เรื่องราวด้วยตัวเอง ห้ามอ่าน!

ยินดีต้อนรับสู่โลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและความน่าสะพรึง

สัญญาณร้ายจากหายนะพันธุ์ใหม่

เรื่องราวของ Metro 2033 เริ่มต้นขึ้นในประเทศรัสเซีย ณ ปี ค.ศ. 2033 ผืนดินบนโลกพินาศย่อยยับจากสงครามนิวเคลียร์จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เหล่าผู้รอดชีวิตจึงต้องหลบไปอาศัยตามสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโคว แต่ละสถานีต่างตั้งตนเป็นเขตปกครองตัวเองประหนึ่งเป็นเมืองต่าง ๆ “Artyom” พระเอกของเรื่องก็คือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่อาศัยในโลกใต้ดินแห่งนี้ เขาคือเด็กกำพร้าที่เกิดมาลืมตาดูโลกก่อนวันโลกาวินาศเพียงวันเดียว และในขณะนี้เขากำลังเดินทางอยู่กับชายในชุดทหารนามว่า Miller

ค้างคาวผี Demon ที่พร้อมจะฉีกกระชากเหยื่อเป็นชิ้น ๆ

ทั้งคู่กำอาวุธปืนในมือแน่นขณะเยื้องย่างผ่านอาคารใต้ดินที่มืดมิด เพียงไม่กี่อึดใจพวกเขาก็ขึ้นมาเหนือผืนดิน แม้จะเป็นยามค่ำคืนแต่ไฟฉายใต้ปากกระบอกปืนก็พอจะเผยให้เห็นซากปรักหักพังของอดีตเมืองหลวงแห่งนี้ได้ Artyom เช็คหน้ากากและตัวกรองของตัวเองให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่มีอะไรเสียหาย หากมีรอยรั่วเพียงนิดเดียวตัวเขาคงถึงฆาตจากอากาศที่เต็มไปด้วยพิษรังสี ทั้งคู่เดินไปสมทบกับทหารอีก 2 นายที่อยู่บนรถติดปืนกล เขากำลังอยู่กับหน่วย Ranger กองกำลังพิเศษฝีมือฉกาจที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แห่ง Metro แต่คุยกันได้ไม่นาน พวกเขาก็ถูกฝูงหนูยักษ์กลายพันธุ์ห้อมล้อมเข้ามาโจมตี พวกมันมีชื่อว่า Watcher และตัวมันใหญ่กว่าหมาล่าเนื้อเสียอีก Artyom และ Ranger ทั้ง 3 ระเบิดกระสุนปืนกลในมือและปืนกลหนักบนรถในทันที สถานการณ์ดูไม่ดีเอาเสียเลยเพราะพวกมันมีเป็นร้อยและทุกอย่างก็ยิ่งเลวร้ายเมื่อค้างคาวกลายพันธุ์ขนาดยักษ์โฉบลงมาชนรถของ Ranger จนพลิกคว่ำ ดับชีวิตผู้โดยสารทั้ง 2 ในทันที จากนั้นมันก็โฉบเข้าใส่ Artyom อย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว และทุกอย่างก็ดำมืดลง…

ใน Metro ผู้คนที่มีเหลือเพียงน้อยนิดต้องอยู่กันอย่างแออัดในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน

เหตุการณ์ตัดมาเป็นช่วง 8 วันก่อนหน้า Artyom ลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานีบ้านเกิดของเขาที่ชื่อว่า Exhibition จากเสียงปลุกของ Alex พ่อบุญธรรมของเขา วันนี้พ่อและเขาต้องออกไปรับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาซักพัก เขาคือ Ranger ฝีมือฉกาจชื่อว่า Hunter แต่หลังจากการต้อนรับ Hunter อย่างอบอุ่นเพียงครู่เดียว สถานี Exhibition ก็ถูกโจมตีโดยเหล่าสัตว์ประหลาด Nosalise ในทันที Artyom ต้องจับปืนเป็นครั้งแรกเพื่อปกป้องประตูทางเข้าสถานีพร้อมกับพ่อและ Hunter ซึ่งเขาก็ทำได้ดีกว่าที่คาดจน Hunter ถึงกับต้องเอ่ยปากชม

เมื่อฝูง Nosalise ถูกกำจัดจนหมดแล้วพวกเขากลับได้ข่าวว่าประตูสถานีอีกฝั่งก็ถูกสัตว์ร้ายจู่โจมด้วยเช่นกัน ทั้ง 3 รีบรุดหน้าไปยังจุดเกิดเหตุแต่เมื่อมาถึงก็พบว่าทหารยามส่วนใหญ่ถึงฆาตกันหมดแล้ว พวกที่เหลือรอดอยู่เพียงน้อยนิดก็พูดไม่เป็นภาษาราวกับคนเสียสติ Hunter จำอาการแบบนี้ได้และบอกว่านี่เป็นฝีมือของพวก Dark One เดรัจฉานกลายพันธุ์หน้าใหม่ที่จะมากวาดล้างมนุษย์ทุกผู้ใน Metro

Hunter ตัดสินใจเดินทางออกจากสถานี Exhibition ทันทีเพื่อล่าหัว Dark One ตนนี้ ก่อนจากเขาได้มอบสร้อย Dog Tag ที่มีตราสัญลักษณ์ Ranger ให้กับ Artyom พร้อมกับบอกว่าหากเขาไม่กลับมา ให้เดินทางไปที่สถานี Polis โชว์ตราสัญลักษณ์ชิ้นนี้ แล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ชายชื่อว่า Miller ฟังซะเขายังกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม หากมันเป็นปฏิปักษ์กับเราล่ะก็… ให้สังหารมันทิ้งซะ”

เพียงก้าวแรกสู่โลกภายนอก สัตว์ประหลาดจากเงามืดก็พุ่งโจมตีเขาแล้ว

ก้าวแรกสู่เครือข่ายโลกใต้ดิน

วันแล้ววันเล่าผ่านไปก็ยังไร้วี่แววว่า Hunter จะกลับมา ในที่สุด Artyom จึงตัดสินใจออกเดินทางตามคำสั่งของ Hunter นี่คือการก้าวออกจากสถานีบ้านเกิดเป็นครั้งแรกของเขาและตัวเขาเองก็สังหรณ์ว่าอะไร ๆ คงไม่เป็นไปอย่างราบรื่นแน่นอน ทริปสั้น ๆ ด้วยรถรางระหว่างสถานี Exhibition และสถานี Riga ก็ตอกย้ำให้เขาตระหนักถึงความจริงข้อนี้อย่างรวดเร็ว ทุกซอกมุมอันดำมืดของอุโมงค์รถไฟใต้ดินนี้เต็มไปด้วยอันตรายเหนือคณานับ และ Artyom ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากฝูง Nosalise ที่ดักเเล่นงานระหว่างทาง น่าแปลกที่ในระหว่างการเดินทางมีเพียง Artyom เท่านั้นที่ไม่วูบหลับบนรถรางเพราะ Dark One ทำให้เขาเป็นคนแรกที่หยิบปืนขึ้นมายิงสกัดเหล่าสัตว์ประหลาด วีรกรรมพระเอกของเราไปเข้าหูชายลึกลับชื่อเดียวกับเหล้า Bourbon หมอนี่ได้ยินข่าวลือว่า Artyom มีภูมิคุ้มกันพลังของ Dark One จึงเข้ามายื่นข้อเสนอให้ร่วมเดินทางไปกับเขาจนถึงสถานี Dry Station โดยจะให้ปืนอาร์ก้าสภาพดีหนึ่งกระบอกเป็นของตอบแทน Artyom ที่กะจะมุ่งหน้าไปทางนั้นอยู่แล้วจึงตกปากรับคำแล้วเขาก็แพ็คกระเป๋าเดินทางอีกครั้ง

หนูยักษ์หน้าตาอัปลักษณ์พวกนี้คือผู้ครองพิภพรายใหม่ หาใช่มนุษย์ไม่

Bourbon และ Artyom เดินเท้าผ่านอุโมงค์ใต้ดิน ซากเมืองบนพื้นพิภพ แล้วกลับลงไปในอาคารใต้ดินต่ออีกครั้ง พวกเขาต้องยิงต่อสู้และลอบเร้นเก็บศัตรูทั้งที่เป็นคนและที่ไม่ใช่คน ไล่ตั้งแต่ Watcher, Nosalise, Demon แก๊งโจรต่าง ๆ แม้แต่ Dark One ก็พยายามไล่ติดตาม Artyom มาในระหว่างทาง อย่างไรก็ตาม ในขณะทั้งคู่ที่ลักลอบเข้าสถานี Dry Station จากช่องระบายอากาศ Bourbon ก็ถูกแก๊งประจำถิ่นที่นั่นจับตัวได้ Artyom ผู้เหลือตัวคนเดียวพยายามลอบเร้นผ่านยามในสถานี Dry Station จนในที่สุดก็เข้าถึงประตูออฟฟิศของหัวหน้าแก๊งได้

ในขณะที่หัวหน้าแก๊งโจรกำลังตกใจกับการปรากฏตัวของเขา Bourbon ที่โดนสอบสวนอยู่ก็อาศัยจังหวะนี้คว้าปืนเล็งเข้าใส่โจทก์ทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่หัวหน้าแก๊งหันปากกระบอกปืนเล็งสวน ทั้งคู่ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน คมกระสุนทะลุร่างชายทั้งสองและปลิดชีพพวกเขาทั้งคู่ ในขณะที่ Artyom กำลังสับสนว่าจะทำยังไงต่อไปดีและเสียงกระหน่ำเคาะประตูจากลูกสมุนแก๊งก็ดังขึ้นทุกขณะ ชายปริศนานามว่า Khan ก็ปีนเข้ามาในห้องจากช่องแอร์ เขาแนะนำตัวว่าเป็น Ranger และขอให้ Artyom รีบตามเขามาหากไม่อยากประสบชะตากรรมเดียวกับ Bourbon

ฝูงมิวแตนท์ Nosalise บุกโจมตีสถานีทุกครั้งที่มีโอกาส หากสถานีใดไม่มีกำลังพลและอาวุธเพียงพอก็ต้องพบกับจุดจบ

ถลำลึกสู่ความมืด

Khan รีบพา Artyom หลบหนีออกจากสถานี Dry Station แต่เส้นทางลัดสู่สถานี Polis ของ Khan ช่างน่าสยดสยองพองเกล้ากว่าทางของ Bourbon หลายเท่า มันทำให้เขาได้พบกับลูกพลังงานมีชีวิตนามว่า Anomaly มันจะช็อตสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่โง่พอจะไปก่อกวนมัน นอกจากนี้เขายังได้เดินทางผ่านสถานีผีสิงอันเต็มไปด้วยเงาของผู้คนที่ตายจากเหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์แต่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ โชคยังดีที่ Khan รู้คาถาผ่านทาง ทั้งคู่จึงรอดปลอดภัยครบ 32 ออกมาได้ เมื่อสุดปลายทางสถานี Khan จำเป็นต้องแยกตัวออกไปธุระสำคัญ เขาแนะ Artyom ให้ไปต่อให้ถึงสถานี Armory ข้างหน้าแล้วหาตัวสหายของเขาชื่อว่า Andrew พระเอกของเราออกเดินทางคนเดียวต่อไปจนถึง Armory ทุกอย่างดูจะราบรื่นดีจนกระทั่งเขาพบว่ามีพรรคคอมมิวนิสต์คุมสถานีนี้อยู่นั่นแหละ

ระหว่างที่ทหารยามคอมมิวนิสต์ประจำเมืองกำลังสอบสวน Artyom นักเดินทางอีกคนที่เข้าเมืองมาพร้อมกันก็ถูกเปิดโปงว่าเป็นสายลับของพรรคนาซี หมอนี่ทำร้ายยามแล้ววิ่งหลบหนีเข้าสถานี Armory ทันที Artyom ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งหนีด้วยกันเพราะตอนนี้เขาถูกเหมารวมว่าเป็นพวกนาซีไปแล้ว ทหารจากพรรคแดงวิ่งไล่ตามพวกเขาและสาดกระสุนไปทั่วสถานี ในที่สุดสายลับพรรคนาซีก็จนตรอกบนชั้นลอยและโดนยิงทิ้งต่อหน้าต่อตา สัญชาตญาณเอาตัวรอดของ Artyom บอกให้เขากระโดดลงไปด้านล่างทันที ร่างของ Artyom กระแทกพื้นอย่างแรงทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะ Andrew มาถึงตัว Artyom ทันเวลาและรีบพาตัวเขาเข้าซ่อนในบ้านพักทันที

นอกจากมนุษย์ใน Metro จะต้องรบรากับสัตว์ประหลาดสยอง พวกเขายังเปิดศึกกันเองด้วย

หลังจากหลบให้เรื่องเงียบอยู่พักหนึ่ง Andrew ก็บอกว่าเขาต้องรีบพา Artyom ออกจากสถานีนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งตัวเลือกที่เข้าท่าที่สุดในตอนนี้ก็คือลักลอบขึ้นรถรางของทหารแดง ติดอยู่อย่างเดียวตรงที่เจ้ารถรางที่ว่านี้มันมุ่งหน้าไปยังสมรภูมิระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์และนาซี… น่าสมเพชที่แม้แต่ในยุคโลกาวินาศ ผู้คนก็ยังคงเข่นฆ่ากันเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองอยู่ดี Artyom ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหัวให้ต่ำไว้และภาวนาไม่ให้ถูกตรวจพบ รถรางและเหล่าทหารหนุ่มเลือดร้อนมุ่งหน้าสู่สนามรบเบื้องหน้าด้วยความเร็วคงที่ แต่ก่อนจะถึงที่หมายมันดันสะดุดเข้ากับขอนไม้จน Artyom พลัดตกระหว่างทาง

หลังจากตั้งตัวได้เขาก็ค่อย ๆ เดินย่องไปในความมืด ภาพข้างหน้าคือสะพานทางรถไฟขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยห่ากระสุนและแสงไฟจากปากกระบอกปืน ทหารแดงที่นั่งมาบนรถรางถูกยิงตายเป็นใบไม้ร่วง ทหารฝั่งนาซีก็มีอยู่ทั่วทุกแห่งหน Artyom ค่อย ๆ ยิงต่อสู้และลอบเร้นตามเงามืดผ่านกองกำลังทั้งสองฝ่ายที่กำลังห้ำหั่นกัน ในที่สุดเขาก็เคลื่อนตัวผ่านโซนสมรภูมิมาจนถึงด้านในสถานีหลักของพรรคนาซีได้ แต่โชคร้ายที่เจ้าบ้านไหวตัวทันและทักทาย Artyom ด้วยด้ามปืนเอาเสียก่อน เขาถูกซ้อมและสอบสวนจนเลือดอาบ คราวนี้ในข้อหาเป็นสายลับให้พรรคคอมนิวนิสต์ซะอย่างนั้น เขาเกือบจะถูกยิงทิ้งอยู่แล้ว แต่ Ranger 2 คนเข้ามาเก็บทหารนาซีได้ทันท่วงที พวกเขาชื่อว่า Ulman กับ Pavel และพวกเขาพร้อมจะนำทาง Artyom สู่สถานี Polis แล้ว

หน่วย Ranger คือทหารมือพระกาฬที่รับหน้าที่พิทักษ์ Metro

ลุยแหลกสู่ Polis

Ranger ทั้งสองวางแผนพา Artyom เผ่นออกจากสถานีบ้าคลั่งแห่งนี้ Ulman ตัดสินใจแยกตัวไปอีกทางแล้วค่อยตามไปสมทบในภายหลัง โดยให้ Pavel ช่วยพา Artyom ไปสถานี Polis ด้วยรถรางติดอาวุธของพวกนาซี Pavel หวังว่าพวกเขาจะสามารถตีเนียนผ่านด่านตรวจของนาซีไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าแผนแตกเละเทะตามคาด Artyom ต้องใช้ปืนกลหนักบนรถยิงสกัดรถรางและรถถังของพวกนาซีตลอดทาง หลังจากหลุดจากนาซีมาได้พวกเขาก็ต้องเผชิญกับฝูง Nosalise ในสถานีพักรถไฟ depot ซึ่งเป็นทางผ่านอีก เสียงปืนกลดังก้องในอุโมงค์ใต้ดินตลอดทาง ปลอกกระสุนนัดแล้วนัดเล่าปลิวว่อนเกลื่อนรางรถไฟ ทั้งสองคนสู้จนสุดใจแต่เหล่า Nosalise พรั่งพรูออกมาไม่หยุด พวกมันกระชากร่าง Pavel ออกไปจากรถและทำให้รถรางเสียหลักพลิกคว่ำ Artyom กระเสือกกระสนออกจากซากรถและรีบหนีออกจากที่นั่น เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลือ Pavel ได้แล้ว

เขากลับมาเหลือตัวคนเดียวอีกครั้งและต้องฟันฝ่าความสยองด้วยลำแข้งตัวเอง ทั้งฝูงหนูยักษ์ที่บุกโจมตีสถานีจนพินาศ ป้อมปราการของกองกำลังนาซีภาคพื้นดิน และสถานีร้าง Black Station ที่เหลือไว้แต่เหล่ามิวแต้นท์มฤตยู หลังจากกัดฟันสู้ยิบตาแบบโหดสัสรัสเซีย ในที่สุด Artyom ก็ตามมาสมทบกับ Ulman จนได้ และเขาได้พา Artyom เข้าสู่สถานี Polis ซะที

ชีวิตในโลกใต้ดินช่างยากเย็นแสนเข็ญ แต่ผู้คนก็ยังอยู่กันได้ตามอัธยาศัย

Artyom แนะนำตัวกับ Miller ผู้เป็นหัวหน้าหน่วย Ranger และอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับ Hunter ให้ฟัง Miller มองว่านี่เป็นสถานการณ์วิกฤติและพยายามนำเรื่องนี้เข้าสภา Polis Council พร้อมกับ Artyom แต่สภามองว่าเรื่องที่ Artyom เล่ามาไม่มีน้ำหนักมากพอเพราะเขาเป็นแค่ชาวบ้านตาดำ ๆ ที่มาพร้อมกับนิทานเรื่องหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้สภายังไม่มีทรัพยากรบุคคลและอาวุธมากพอจะเจียดมาให้สืบสวนเรื่องนี้ได้เพราะต้องเตรียมตัวรับมือกองทัพนาซีที่พร้อมจะบุกทุกเมื่อ

พื้นพิภพกลับเป็นแดนอันตรายที่สุดของมนุษย์

เตรียมอาวุธเปิดศึก

Miller เห็นว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์จึงตัดสินใจลงมือจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาขอร้องให้ Artyom เข้าร่วมกับหน่วย Ranger ของเขาในภารกิจนี้ด้วย เพราะเขาเห็นศักยภาพในตัวพระเอกของเราที่ลุยแหลกมาได้ไกลขนาดนี้ แผนของเขาคือออกค้นหาโรงปล่อยจรวดโค้ดเนม D6 ให้เจอ แล้วใช้คลังแสงของที่นั่นกวาดล้างสายพันธุ์ Dark One ให้สิ้นซาก ปัญหาอยู่ที่ว่าไม่มีใครใน Metro รู้แน่นอนว่า D6 อยู่ตรงไหน ข้อมูลพิกัดของมันน่าจะได้รับการจดบันทึกเอาไว้ในเอกสารที่หอสมุด Library บนพื้นดิน เมื่อตกลงกันได้ตามนั้น Miller, Artyom และ Ranger ชื่อว่า Danila จึงออกเดินทางหา Library กันทันที

ในระหว่างทางค้างคาวผี Demon ได้ดักทำร้ายพวกเขา Danila ได้รับบาดเจ็บหนัก Miller จึงจำเป็นต้องพาเขากลับไปรักษาตัวที่ Polis ก่อนจากเขาได้ให้คำแนะนำ Artyom ไว้ว่า “หากเจอกับบรรณารักษ์แห่งหอสมุด ขอจงจ้องตามันเอาไว้” Artyom ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักแต่ก็รีบรุดหน้าต่อสู่ที่หมาย เมื่อถึง Library เขาก็ได้พบกับสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ตัวสูงใหญ่ แขนยาวขาสั้นเหมือนกอริลล่า แต่หน้าตาของมันหน้าเกลียดหน้ากลัวกว่ามากและร่างของมันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ Artyom เกือบจะยกปากกระบอกปืนลั่นไกใส่มันแล้วเมื่อเจ้าหมอนี่วิ่งเข้าใส่ แต่เขานึกถึงคำแนะนำของ Miller ขึ้นมาได้และตัดสินใจยืนจ้องตามันตรง ๆ เจ้า Librarian เมื่อโดนจ้องตาก็ยืนนิ่งเหมือนถูกสะกด ได้แต่มอง Artyom กลับอย่างฉงนสงสัย Artyom จึงอาศัยจังหวะนี้ค่อย ๆ เดินถอยหลบออกจากห้อง หลังจากค้นหาตามชั้นหนังสือซักพัก เขาก็ได้พบกับเอกสารที่มีข้อมูลของ D6 แล้วจึงรีบเผ่นออกจากที่นั่น

มีทั้งปืนในมือกับรถเกราะแล้วเราจะต้องกลัวอะไรกันอีกล่ะ…

Miller และ Ulman ขับรถติดปืนกลมารับ Artyom ถึงหน้าประตูหอสมุด เมื่อ Miller ทราบว่าเขารู้พิกัดของ D6 แล้วจึงออกรถมุ่งหน้าสู่ด่านหน้าบนพื้นดินของ Ranger ชื่อว่า Sparta ในระหว่างที่เตรียมตัวบุก D6 กับ Ranger คนอื่น ๆ Artyom ได้พบกับ Khan อีกครั้ง เขาได้เตือนเป็นนัยว่าขอจงเลือกทางที่ต้องการเดินต่อจากนี้ให้ดี เหล่านักรบ Ranger พร้อมอาวุธครบมือมุ่งหน้าเข้าสู่อาคาร D6 พร้อมกับพระเอกของเรา ภายในอาคารคอนกรีตแห่งนี้มืดสนิทและเต็มไปด้วยภัยร้ายจากสัตว์กลายพันธุ์

ขณะที่ Artyom กำลังมุ่งสู่ความมืดมิดในเบื้องล่างของ D6 เขาก็เห็นนิมิตเป็นภาพของ Ranger และ Dark One ในช่องทางเดินแคบ ๆ ที่มุ่งหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ น่าแปลกที่เจ้า Dark One ในนิมิตอ้างว่ามันพยายามจะนำสันติมาสู่ Metro เมื่อ Artyom ตื่นขึ้นจากภวังค์ พวกเขาก็ถูกโจมตีจาก Nosalise แบบไม่ทันตั้งตัว Ranger ทั้งคณะระเบิดกระสุนต้อนรับมิวแต้นท์เจ้าถิ่นทันทีแต่พวกมันมีมากมายเหลือเกิน สุดท้ายทั้งคณะก็ล้มตายจนเหลือแค่ Artyom กับ Miller แค่ 2 คน แต่พวกเขายังสามารถฝ่าไปถึงคลังแสงชั้นลึกสุดจนได้ ทั้งคู่ไปถึงห้องควบคุมการปล่อยขีปณาวุธและได้พบกับอุปกรณ์นำร่องจรวดมิสไซล์ที่สามารถใช้ขจัดพวก Dark One ได้ ในระหว่างเดินทางกลับออกมา Miller ได้สาบานกับตัวเองว่าหลังจากจบภารกิจนี้ เขาจะพากองกำลัง Ranger มากวาดล้างพวกมิวแต้นท์ทั้งหมดใน D6 ให้สิ้นซาก แต่ในหัวของ Artyom ยังคงครุ่นคิดถึงแต่คำพูดของ Khan และสาส์นจาก Dark One ว่าหมายความว่าอะไรกันแน่…

เดินหน้าประจัญบานสู่หอคอยตรงหน้า!

ปิดฉากด้วยเพลิงกาฬ

เหตุการณ์ทั้งหมดในช่วง 8 วันที่ผ่านมาย้อนเข้าสู่สายตา Artyom ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เขาได้สติเมื่อเสียงปืนในมือของ Miller แผดลั่นไม่หยุดจนค้างคาวผี Demon ที่กำลังโฉบเข้าใส่ Artyom ต้องล่าถอยไป พระเอกของเรานึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่บนพื้นดินยามค่ำคืน ท่ามกลางฝูงหนู Watcher ที่ห้อมล้อม และพรรคพวก Ranger 2 คนที่ตามมาสมทบพร้อมรถปืนกลก็ถูกสังหารไปแล้ว เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำคือมุ่งสู่หอคอย Ostankino ที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ Artyom และ Miller ลั่นไกกระสุนปืนในมือนัดแล้วนัดเล่าใส่สัตว์กลายพันธุ์ทุกตัวที่ขวางหน้า จนในที่สุดพวกเขาก็กระเสือกกระสนเข้ามาถึงด้านในหอคอยจนได้

ทั้งคู่ปีนขึ้นสู่ยอดของหอคอยทันทีเพราะมันเป็นจุดเดียวที่อุปกรณ์นำร่องสามารถชี้เป้าใส่รังของพวก Dark One ได้ ทุกอย่างดูจะไปได้สวยจนกระทั่งเจ้า Demon เจ้าเก่าโถมเข้าใส่ Miller ในระหว่างทาง Artyom หันกลับมากระหน่ำปืนในมือใส่ไอ้ค้างคาวผีจนหมดแม็กกาซีน ในที่สุดมันก็สิ้นลายลงตรงนั้น Miller ที่บาดเจ็บจนไปต่อไม่ไหวบอกให้ Artyom แบกอุปกรณ์นำร่องขึ้นไปต่อโดยไม่ต้องรอเขา เวลาดูจะเหลือน้อยลงทุกทีจนในที่สุด Artyom ก็ขึ้นมาจนถึงยอด แต่เขาไม่ได้ขึ้นมาเพียงลำพัง…

สิ่งก่อสร้างบนพื้นดินกลายเป็นโครงเหล็กขึ้นสนิมและซากปรักหักพังไปหมด

Dark One ตาม Artyom ขึ้นมาติด ๆ และพยายามจะหยุดเขาด้วยการส่ง Artyom เข้าไปหลงอยู่ในจิตใต้สำนึกของตัวเอง มันเป็นเขาวงกตที่เต็มไปด้วยอิฐบล็อกรูปร่างประหลาด เส้นทางในวงกตเคลื่อนย้ายสลับสับเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา Artyom วิ่งหาทางออกอย่างสุดกำลังในจิตของตัวเอง จนมือของเขาคว้าไปเจอด้ามปืนที่ตกอยู่บนยอดหอคอยซึ่งตัวของเขากำลังยืนอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่ Dark One กำลังจะเข้าถึงตัว Artyom ก็หันกลับไปยิงมันได้อย่างฉิวเฉียด คำสั่งเสียของ Hunter ที่ว่า “หากมันเป็นปฏิปักษ์กับเราล่ะก็… ให้สังหารมันทิ้งซะ” ดังก้องขึ้นมาในหัว ร่างของมันทรุดลงสู่พื้นและพึมพำอะไรซักอย่างก่อนสิ้นใจ

มนุษย์อย่างเรายังคู่ควรกับชีวิตบนพื้นพิภพอยู่หรือไม่?

Artyom ไม่รีรอให้เสียเวลาอีกแม้แต่วินาที เขาติดตั้งอุปกรณ์นำร่องให้เล็งเข้าหารังของ Dark One เบื้องล่าง ขีปนาวุธลูกแล้วลูกเล่าพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าทันที ระหว่างที่เขากำลังรอให้จรวดกระทบเป้าหมาย เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าคำพูดสุดท้ายของ Dark One คือ “เราต้องการสันติ” เหล่า Dark One แค่ต้องการหาทางสื่อสารกับมนุษย์ใน Metro เท่านั้น เพียงแต่ยังไม่มีใครที่สามารถรับการสื่อสารทางโทรจิตจาก Dark One ได้ยกเว้น Artyom เพียงคนเดียว แต่ความจริงก็ปรากฏออกมาสายเกินไป จรวดจาก D6 ระเบิดเป็นลูกไฟขนาดมหึมาเผาผลาญบ้านของเหล่า Dark One จนสิ้น ทิ้งให้ Artyom ตั้งคำถามถึงบทบาทของมนุษยชาติที่มีต่อโลกใบนี้อยู่คนเดียวบนยอดหอคอย ใครกันแน่นะที่เป็นภัยที่แท้จริง…

โปรดติดตามตอนต่อไปได้ใน “Metro: Last Light แสงสุดท้ายแห่งแดนนิวเคลียร์มรณะ” อีกไม่นานเกินรอ!