“ฉันจะเป็นราชาโจรสลัดให้ได้เลย” เสียงตะโกนของชายสวมหมวกฟางทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่นที่หลายคนคุ้นเคย กับการ์ตูนระดับตำนานอย่าง ‘One Piece’ ที่สร้างความสนุกซาบซึ้งมาตลอดหลายปี ก็ได้เดินทางผ่านครึ่งเรื่องมาเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเข้าสู่ช่วงท้าย (อาจารย์คนเขียนบอกมาแบบนั้น) ซึ่งทุกตอนที่ปล่อยออกมาก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับคนอ่าน แล้วก็มีการปล่อยรูปนักแสดง ‘One Piece’ ฉบับซีรีส์คนแสดงที่จะฉายทาง ‘Netflix’ ก็สร้างเสียงตอบรับทั้งทางบวกทางลบมากมาย ซึ่งจากข้อมูลบอกว่าอาจารย์ เออิจิโร โอดะ (Eiichiro Oda) ผู้เขียนเป็นคนเลือกนักแสดงเอง จนทำให้หลายคนคงอยากรู้จักผู้ให้กำเนิดการ์ตูน ‘One Piece’ คนนี้ว่าเขาคือใครมีความเป็นมาอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับอาจารย์ไปพร้อมกันเลย

ชีวิตในวัยเด็กของอาจารย์ Eiichiro Oda

Eiichiro Oda

เริ่มต้นเรื่องแรกของอาจารย์ เออิจิโร โอดะ ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน ว่าเขานั้นเกิดวันที่ 1 มกราคม 1975 ที่เมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมะโมะ ประเทศญี่ปุ่น อาจารย์โอดะชื่นชอบการวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เพราะเห็นคุณพ่อของเขาวาดภาพสีน้ำนั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ส่วนแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเขียนการ์ตูนโจรสลัด ก็มาจากการ์ตูนเรื่อง ‘Vicky the Viking’ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาวไวกิ้งที่ออกเดินทางด้วยเรือไปผจญภัยสถานที่ต่าง ๆ จนมาถึงปี 1992 ตอนอาจารย์โอดะอายุ 17 ปีก็ได้รางวัลอันดับ 2 จากการประกวด Tezuka Awards ในฐานะนักเขียนหน้าใหม่โดยใช้นามแฝงว่า ‘Tsuki Himizu Kikondo’ กับการ์ตูนสั้นเรื่อง ‘Wanted!’ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักล่าเงินรางวัลที่ตามล่าหัวหน้าอาชญากร หลังจากนั้นอาจารย์โอดะก็สะสมประสบการณ์ด้วยการเป็นผู้ช่วยนักเขียนดัง ๆ อย่างคนวาดทาร์จังจ้าวป่ากับซามูไรพเนจรที่บ้านเรารู้จักกับอีกหลายคน  ก่อนที่จะเริ่มสร้างผลงานที่อย่าง ‘Romance Dawn’ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘One Piece’ ที่เรารู้จักในเวลาต่อมา

Wanted!
Romance Dawn

นักเขียนการ์ตูนผู้อิทธิพลให้อาจารย์ Oda

Cross Epoch

คราวนี้มาดูต้นแบบแรงบันดาลใจในการเขียนการ์ตูนกันบ้าง ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ของอาจาร์โอดะในนิตยสาร Jump เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจในการวาดการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก อาจารย์ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่าการ์ตูน ‘Dragon Ball’ คือต้นแบบแรงบันดาลใจของเขาในการเป็นนักเขียนการ์ตูน อาจารย์บอกว่า “ผมเลียนแบบลักษณะและสิ่งต่าง ๆ มากมายจากการ์ตูนเรื่องนี้ รวมทั้งลักษณะนิสัยความคิดของ ลูฟี่ (Luffy) ก็มาจากตัวละคร ซง โกคู (Son Goku) การ์ตูน ‘Dragon Ball’ คือเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมากที่สุด และผมก็คิดว่านักเขียนการ์ตูนหลายคนก็จะได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่องนี้ และผมกล้าพูดเลยว่าถ้าไม่มีการ์ตูน ‘Dragon Ball’ ก็คงไม่มีการ์ตูน ‘One Piece’ ในวันนี้” และในปี 2007 ก็มีผลงาน Crossover ตัวละครจาก อย่าง ‘Dragon Ball’ และ ‘One Piece’ ในชื่อ ‘Cross Epoch’ ขึ้นมา นับเป็นหนึ่งในความฝันที่ได้รวมงานกับนักเขียนที่ตนเองชื่นชอบ

Cross Epoch

ที่มาของ One Piece

Romance Dawn

ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อนหน้านี้ที่พูดถึงเรื่องสั้นที่เป็นต้นแบบให้ ‘One Piece’ กับเรื่อง ‘Romance Dawn’ ที่จากข้อมูลบอกว่า เรื่องราวนี้ถูกคิดและเขียนมาตั้งแต่ที่อาจารย์โอดะอยู่มัธยมต้น โดยเริ่มร่างไอเดียสำหรับการ์ตูนเรื่องโจรสลัดในสมุดโน้ตด้วยดินสอ ก่อนที่เรื่องราวนี้จะถูกเอากลับมาเขียนอีกครั้ง เมื่อตอนที่อาจารย์เป็นผู้ช่วยนักเขียนให้อาจารย์ โนบุฮิโระ วัตสึกิ (Nobuhiro Watsuki) คนวาดเรื่องซามูไรพเนจร ที่เป็นคนสั่งสอนชี้แนะการวาดและออกแบบเรื่องราว ซึ่งถ้าใครที่เป็นแฟน ‘One Piece’ ต้องทราบแน่ ๆ ว่าเรื่องราวของ ‘Romance Dawn’ นั้นถูกเอามาเล่าแล้วถึง 3 ครั้ง 3 เรื่องราวแต่เนื้อหาหลัก ๆ จะเหมือนกัน นั่นคือการเดินทางของโจรสลัดหนุ่ม มังกี้ ดี ลูฟี (Monkey D. Luffy) ซึ่งใน ‘Romance Dawn V.2’ มีการกล่าวถึงปู่ของลูฟีด้วย โดยชื่อเรื่อง ‘Romance Dawn’ ก็ถูกเอามาตั้งเป็นชื่อเกาะ ‘Dawn’ ที่เป็นบ้านเกิดของลูฟีอีกด้วย ใครที่สนใจก็ไปหาตอนที่ 907 ฉบับการ์ตูนทีวีมาดูได้เลย

Romance Dawn

ความสำเร็จของ One Piece

One Piece

นับตั้งแต่ที่การ์ตูน ‘One Piece’ ตีพิมพ์ลงนิตยสาร ‘Weekly Shōnen Jump’ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 1997 ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากคนอ่านทั่วญี่ปุ่น โดยในปี 2005 กับเวลาเพียง 8 ปี ‘One Piece’ ก็ทำลายสถิติยอดขายเกินว่า 100 ล้านเล่ม และยอดขาย 200 ล้านเล่มในปี 2011 และ 440 ล้านเล่มในปี 2017 จนถึงตอนนี้ ‘One Piece’ คือซีรีส์การ์ตูนที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว กับยอดขายกว่า  490 ล้านเล่มในปี 2021 กับการวางจำหน่ายกว่า 58 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้การ์ตูน ‘One Piece’ แต่ละเล่มยังทำลายสถิติการตีพิมพ์ในญี่ปุ่นอีกด้วย โดยเล่ม 56 คือเล่มที่มียอดการตีพิมพ์สูงสุดในซีรีส์กว่า 2.85 ล้านเล่ม และเล่มที่ 57 ที่ยอดตีพิมพ์ถึง 3 ล้านเล่ม ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่แฟน ๆ ‘One Piece’ น่าจะรู้กันดีว่าคือตอนไหน ส่วนใครที่เป็นสายดูการ์ตูนก็จะเป็นช่วงตอนที่ 460 เป็นต้นมาไปหาดูกันได้

One Piece

เกม One Piece เกมแรก

One Piece Become the Pirate King!

มาที่เรื่องราวของเกมกันบ้าง กับวิดีโอเกม ‘One Piece’ เกมแรกที่วางจำหน่ายให้แฟน ๆ ได้เล่นนั้นวางจำหน่ายบนเครื่อง ‘WonderSwan’ ในชื่อ ‘One Piece Become the Pirate King!’ ที่วางจำหน่ายในปี 2000 ที่เป็นเกมแนวกระดานที่เราต้องพาลูกเรือชาวหมวกฟางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตามเส้นที่เราสามารถเลือก โดยเนื้อหาในเกมจะไปตามเนื้อเรื่องในการ์ตูนช่วงแรก ซึ่งตัวเกมนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากการต่อทางเดินเรือไปยังเส้นทางต่าง ๆ ที่เมื่อถึงจุดที่เกมกำหนดเราก็จะได้เห็นเรื่องราวตามในการ์ตูน แถมตัวเกมเป็นขาวดำที่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งบ้านเราคงมีน้อยคนที่ได้เล่นหรือกล้าซื้อมาเล่น แต่ก็ถือเป็นเกม ‘One Piece’ เกมแรกที่นักสะสมควรหามาครอบครอง

One Piece Become the Pirate King!

เพื่อนร่วมงานและคู่แข่งในการทำงานของอาจารย์ Oda

Oda

ถ้าใครที่เคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง ‘Bakuman วัยซนคนการ์ตูน’ มาจะ ทราบดีว่าในวงการนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นนั้น นอกจากการแข่งกับเวลาและกองบรรณาธิการที่คอยเร่งต้นฉบับแล้ว  นักเขียนการ์ตูนเองก็มีคู่แข่งหรือคนที่ไม่ยอมแพ้กัน ในเรื่องอันดับความนิยมในนิตยสารรายสัปดาห์อยู่ด้วย ซึ่งอาจารย์โอดะเองก็มีคนที่เขานับถือและยกให้เป็นคู่แข่งที่อาจารย์เรียกพวกเขาว่า ‘Watsuki Gang’ ที่มีอาจารย์ ฮิโรยูกิ ทาเคอิ (Hiroyuki Takei) ผู้วาดการ์ตูนปาหมอนในตำนานอย่าง ‘Shaman King’ อาจารย์ ชินยะ ซูซูกิ (Shinya Suzuki) ผู้วาด ‘Bari Haken’ ส่วนอีกสองคนนั้นจะเป็นบุคคลปริศนาที่มีนามแฝงว่า ‘Mikio Ito’ ที่อาจารย์โอดะยืมเอาเขามาเป็นหนึ่งในตัวละครใน ‘One Piece’ และ  ‘Gin Shinga’ ที่อาจารย์โอดะนับถือในฐานะนักเขียนซึ่งเขาไม่สามารถวาดแบบที่ ‘Gin Shinga’ วาดได้เลย และคู่แข่งอันดับ  1 ของอาจารย์เลยก็คือ อาจารย์ มาซาชิ คิชิโมโตะ (Masashi Kishimoto) คนวาดนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ที่จบการแข่งขันไปในปี 2014 กับการจบลงของซีรีส์หลักของนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ แต่ถึงจะเป็นคู่แข่งกันในงานแต่ชีวิตจริงทั้งคู่คือเพื่อนรักกัน  ขนาดงานแต่งของทั้งคู่ก็ไปร่วมงานในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวอีกด้วย

One Piece
Shaman King

ความชื่นชอบอื่นที่นอกจากการวาดรูปของอาจารย์ Oda

Oda

คราวนี้เปลี่ยนมาดูเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจของอาจารย์โอดะกันบ้าง ว่านอกจากความชอบในการวาดรูปเขียนการ์ตูน จนแทบไม่มีเวลาพักทำให้ล้มป่วยหลายต่อหลายครั้ง กับเรื่องราวของโจรสลัดที่มาตั้งแต่เด็กแล้ว อาจารย์ก็ยังชอบเพลงแนว ‘Soul’ ของ บรูค เบนตัน (Brook Benton) มาก ๆ ในส่วนของเวลาว่างอาจารย์ชอบดูภาพยนตร์มาก ๆ ส่วนภาพยนตร์ที่อาจารย์ชอบก็มีเรื่อง ‘Seven Samurai’, ‘Nausicaä of the Valley of the Wind’, ‘Young Guns’, ‘Reservoir Dogs’ และ ‘The Nightmare Before Christmas’ ส่วนอาหารอาจารย์บอกว่าแกทานได้หมด ไม่มีอาหารหรืออะไรที่ไม่ชอบ แต่มีที่ชอบพิเศษก็มีซาซิมิม้าและรากบัวมัสตาร์ด ใครไปญี่ปุ่นก็ลองไปหามาทานกันดู  นอกจากนี้อาจารย์ยังชอบยีราฟมาก ๆ ขนาดที่ว่าบ้านเขามีรูปปั้นยีราฟขนาดเท่าจริงอยู่ด้วย

Reservoir Dogs
The Nightmare Before Christmas

ตัวละครที่อาจารย์  Oda ชอบและอยากเป็นที่สุดในเรื่อง One Piece

One Piece

เชื่อว่าแฟน ๆ การ์ตูน ‘One Piece’ น่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าตัวละครที่อาจารย์โอดะชอบที่สุดในเรื่อง ‘One Piece’ ก็คือ ตัวตลกบากี้ (Buggy the Clown) ซึ่งเขาคือศัตรูตัวแรก ๆ ที่มาต่อสู้กับลูฟี่ ซึ่งอาจารย์โอดะบอกว่าถ้าให้เขาเลือกกินผลไม้ปีศาจได้ 1 ผล เขาจะกินผล ‘Bara Bara no Mi’ ของบากี้ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ทำให้ผู้กินสามารถแยกชิ้นส่วนได้ ส่วนคำถามที่ว่าถ้าอาจารย์โอดะสามาระแปลงร่างเป็นตัวละครใน ‘One Piece’ ได้เขาอยากจะเป็นใคร คำตอบที่อาจารย์บอกคือไม่ใช่บากี้แต่เป็นสาวสวยแห่งกลุ่มหมวกฟาง อย่าง นิโค โรบิน (Nico Robin) เพราะนิโคมีพลังผลปีศาจที่สามารถเรียกมือออกมาได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็สามารถวาดการ์ตูนได้เร็วขึ้นมาขึ้นนั่นเอง ส่วนโจรสลัดของจริงที่อาจารย์ชอบที่สุดคือ ‘Blackbeard’ โจรสลัดเคราดำในตำนานที่มีตัวตนจริง ๆ นั่นเอง

One Piece

One Piece ฉบับภาพยนตร์

One Piece

จะไม่พูดถึงคงไม่ได้กับเรื่องราวของภาพยนตร์คนแสดงในซีรีส์ ‘One Piece’ ที่เพิ่งเปิดตัวนักแสดงหลักมาเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มจากพระเอกของเราที่ได้นักแสดงหนุ่มวัย 18 ปีอย่าง อิงากิ โกดอย (Iñaki Godoy) มารับบทลูฟี่, แมกเคนยู (Mackenyu) มารับบทเป็นซามูไรสามดาบ โรโรโนอา โซโร (Roronoa Zoro), อีมิลี รัดด์ (Emily Rudd) มารับบทต้นหนเรือสาวสวย นามิ (Nami) ส่วนจอมโจรจมูกยาว อุซป (Usopp)  ก็ได้ ยาคอบ โรมีโอ กิบสัน (Jacob Romero Gibson) มารับบท และพ่อครัวผู้อุทิศตนเพื่อสาว (สวย) ทั้งโลกอย่าง ซันจิ (Sanji) ก็ได้ ทาซ สกายลาร์ (Taz Skylar) มารับบท (รูปประกอบด้านล่าง) ซึ่งนักแสดงทั้งหมดนั้นได้รับการคัดเลือกมาจากอาจารย์โอดะเป็นที่เรียบร้อย ที่เหลือก็แค่รอชมผลงานว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนข่าวสารวงการภาพยนตร์ ‘One Piece’ ก็ติดตามได้ที่แบไต๋รับรองไม่พลาดทุกข่าวสารภาพยนตร์ ‘One Piece’ แน่นอน

One Piece

เกม One Piece ที่คุณควรหามาเล่น

One Piece Fighting Path

ปิดท้ายกับเกมในซีรีส์ ‘One Piece’ น่าสนใจที่คุณควรหามาเล่น เริ่มจากเกมใหม่ล่าสุดอย่าง ‘One Piece Fighting Path’ เกมสัญชาติจีนที่ซื้อลิขสิทธิ์ ‘One Piece’ มาลงบนมือถือในรูปแบบของเกมแอ็กชัน ที่ดำเนินเรื่องตามการ์ตูนในช่วงแรกมาจนถึงตอนล่าสุด หรือจะเป็นเกมที่ออกมาแล้วอย่าง ‘One Piece Burning Will’ เกมแนวสร้างทีมที่ขนตัวละคร ‘One Piece’ ทั้งเก่าใหม่มาให้เราได้จัดทีลุยกัน หรือจะเป็นเกมบนเครื่อง ‘Playstation 4’ และ ‘PC’ อย่าง ‘Onepiece Pirate Warriors 4’ และ ‘One Piece World Seeker’ ในรูปแบบเกมแอ็กชันสนุก ๆ ให้แฟน ๆ ‘One Piece’ ได้หามาสนุกกัน ใครมีเครื่องไหนก็ไปหามาเล่นกันได้

Onepiece Pirate Warriors 4
One Piece World Seeker

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของอาจารย์ เออิจิโร โอดะ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ โดยเป้าหมายของบทความนี้ต้องการให้แฟน ๆ ‘One Piece’ ได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจของอาจารย์โอดะว่าเขามีความเป็นมาอย่างไร เผื่อว่าใครที่กำลังมีความฝันและกำลังพยายามทำเรื่องบางอย่างอยู่ เมื่อมาอ่านบทความนี้จะได้มีกำลังใจสู้กัน เพราะตัวอาจารย์โอดะนั้นไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ แต่เขามีความพยายามมุ่งมั่นฝึกฝน เพราะกว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูนจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ เขาต้องเป็นผู้ช่วยนักเขียนและส่งเรื่องเข้าประกวดอยู่หลายปีกว่าจะมีเรื่อง ‘One Piece’ ซึ่งไม่ใช่แค่โชคแต่มันคือความพยายามและมุ่งมั่น ขอให้ทุกคนที่มีความฝันอย่าย่อท้อ เพราะพรุ่งนี้ที่สดใสรอคนที่พยายามอยู่ เหมือนลูฟีที่กว่าจะเป็นราชาโจรสลัดอย่างที่จะโกนทุกตอน เขาต้องพยายามมากมายขนาดไหน ก็เหมือนคนที่เราต้องสู้เพื่อเป้าหมาย ขอให้ทุกคนที่มีความฝันเป็นจริง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส