ในภาวะที่ราคาข้าวโพดคั่วหน้่าโรงหนัง ไม่เคยอยู่ในยุคตกต่ำมาก่อน (เพราะราคาขายที่ดูแพงมาโดยตลอด) จนต้องบอกว่าทุกวันนี้ บางครั้งจ่ายเงินค่าข้าวโพดคั่วกับน้ำ มากกว่าค่าตั๋วหนังไปแล้ว ซึ่งถามว่าบ่นแล้วยังซื้อไหม  . . .  ก็ซื้ออยู่ดี 5555

เพราะกฎเหล็กโรงหนังห้ามเอาของกินภายนอกเข้าไป ซึ่งเราก็ควรทำตามกฎของเจ้าของโรงหนังแหละ . . . แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ติด Netflix ดูหนังในห้องแทนก็ได้ และถึงไม่ไปโรงหนังเราก็มี Popcorn ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 35 ปี กับซองนี้เลย “โตโร่”

จริงๆ มานั่งคิดก็น่าแปลก ไม่ว่าจะมีข้าวโพดคั่วเจ้าใหม่ เจ้ารอง เจ้าตลาด จากต่างประเทศก็มีมา ข้าวโพดคั่ว โตโร่ ก็ยังยืนหยัดขายในตลาดไทยได้ แสดงว่าต้องมีดีแน่ๆ ขอดูส่วนผสมหน่อย ว่าเคล็ดลับความอร่อยคืออะไรกันแน่

  • น้ำตาล 50%
  • ข้าวโพด 35%
  • บัตเตอร์ออยล์* 10.5%
  • เกลือบริโภคผสมไอโอดีน 4%
  • มีผลิตภัณฑ์จากนม และ ถั่วเหลือง
*บัตเตอร์ออยล์ ได้จากการเขย่านมให้ Butter Oil และ Butter Milk แยกออกจากกัน โดย Butter Oil จะมีส่วนผสมเป็นไขมันนมไม่น้อยกว่า 99.7%

โอ้โห ตอนแรกนึกว่าส่วนประกอบหลักเป็นข้าวโพด แต่ส่วนประกอบหลักจริงๆ ที่เรากินแล้วอร่อยก็คือน้ำตาลนี่แหละ แล้วได้ความหอมและความมัน จาก Butter Oil ที่ได้จากนมอีก แล้วอย่างนี้แคลอรี่จะเท่าไหร่เนี่ย ขอดูข้อมูลโภชนาการหน่อย

ชัดเลย !!! รวมแล้ว 1 ซอง ให้พลังงาน 360 kCal แถมปริมาณน้ำตาล 48 กรัม กินหมดแทบจะทะลุโควต้าปริมาณสูงสุดที่ทานได้ต่อวันเลยทีเดียว มิน่าถึงเขียนไว้ว่าควรแบ่งกิน 3 ครั้ง  หรือไม่ก็ต้องแบ่งกันกิน 3 คน  แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าถ้าได้หนังดีๆ กับอากาศสบายๆ นั่งดู Netflix กินถุงนี้ยังไงคนเดียวก็หมด 😛  แล้ววันก่อนไปเจอโฆษณาโตโร่ เลยนึกขึ้นได้ เออเม็ดข้าวโพดคั่วโตโร่ ลูกใหญ่เต็มเมล็ดจริงด้วยว่ะ เผลอๆ ใหญ่กว่าตามโรงหนังอีก O_o

Play video

สุดท้ายนี้ การที่ข้าวโพดคั่วโรงหนังแพ๊งแพง อาจเพราะโรงหนังมีค่าใช้จ่ายที่เราลืมนึกไป ทั้งค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ค่าจอภาพ ค่าระบบเสียง ค่าพนักงานทำความสะอาด และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ตอนนี้คู่แข่งหลักคือ Netflix ถ้าโรงหนังไม่ปรับตัว อนาคตเหนื่อยแน่นอน . . . แต่ถ้าให้ผมแนะนำแบบไม่คิดค่าไอเดียเลยนะ

บวกค่าตั๋วอีกที่ละ 30 บาทแล้วแถมโตโร่ซอง 20 บาทไปเลยทุกที่นั่ง 😀

จะกี่ Netflix เจอทริค นี้ก็ต้องมีเป๋ บ้างแหละ 😛