คณะบริหารธุรกิจ” ถือเป็นคณะที่มีชื่อเสียงเรียงนามโด่งดัง เป็นคณะอันดับต้นๆ ที่หลายๆ คนอยากจะร่ำเรียน เพราะสามารถประยุกต์รายวิชาที่เรียนมาได้อย่างหลากหลาย แถมยังเรียนสนุก ลุกนั่งสบาย ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์หลากหลายด้วย เราเลยไม่แปลกใจกัน ที่ใครๆ ก็อยากจะรู้จักคณะนี้

วันนี้แบไต๋เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสาวคณะนี้กันสักหน่อย ตัวแทนของสาวบริหารวันนี้คือ แยม-นิยุตา คงปรางค์ ที่เพิ่งเรียนจบเป็นบัณฑิตมาหมาดๆ จาก คณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และกำลังทำงานในตำแหน่ง Talent Assistant ที่ Thoughtful Media Thailand ไปคุยกับเธอกันเลย!

เพิ่งเรียนจบมาแบบนี้ เล่าย้อนความหลังให้ฟังหน่อยสิ

ตอนเรียนนี่เป็นอะไรที่สนุกมาก แยมโชคดีเจอเพื่อนดีๆ ทุกคนเลย สนุกสนานกันเต็มที่ แล้วก็จะมีคนที่คอยดึงเพื่อนๆ ให้ทำงานส่งงาน ก่อนสอบก็จัดติวกันเอง แล้วแยมเรียนบริหาร บางทีอ่านหนังสือคนเดียวมันไม่เข้าใจ ก็จะรวมตัวติวกัน ใครเก่งวิชาไหนก็สลับกันติวให้เพื่อน ที่มหาวิทยาลัยแยมบังคับเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย ด้วยความที่คนญี่ปุ่นเค้าเคร่งมาก เรียนญี่ปุ่นเช้านี่เพื่อนต้องโทรปลุกกัน ต้องเช็คการบ้านกันน่าดู (หัวเราะ)

ว่าแต่คณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศเค้าเรียนอะไรกันบ้าง

ที่แยมเรียนจะเรียนทุกอย่างของสาขาบริหารเลย จะไม่ได้เน้นไปบัญชี การตลาด โลจิส หรือทางไหนเป็นหลัก แต่จะเน้นภาษาอังกฤษกับการปฏิบัติจริง

โดยปี1 จะเป็นพวกวิชาพื้นฐานหมดเลย ตอนเรียนบัญชีตอนแรก แยมสนุกมาก ชอบมาก แต่พอเข้าปี 2 ปี 3 เท่านั้นแหละ รู้เลยนรกมีจริง (หัวเราะ)

ตอนเรียนแยมจะชอบเรียนการวิชาอีคอมเมิช การตลาดอะไรแนวนี้มาก เพราะเราอยู่กับการซื้อของขายของตามสไตล์ผู้หญิง มันเลยแบบ เอ้อสนุกเนอะ เค้ามีวิธีคิดกันแบบนี้หรอ เราต้องทำแบบนี้หรอ เหมือนต้องอ่านใจคน มีดีเทลยิบย่อยเยอะมาก ก่อนจะแพลนทำการตลาดสักอย่างขึ้นมา ตอบโจทย์คนที่อยากเรียนรู้โครงสร้างการทำธุรกิจมากๆ ได้ทุกได้เรียนทุกอย่างจริงๆ

อีกอยากที่อยากนำเสนอมากๆ คือโปรเจคเฮ้าส์ ที่เป็นโปรเจคของสาขาธุรกิจระหว่างประเทศที่แยมเรียน คือเป็นโปรเจคที่ทำร่วมกันทั้ง 4 ชั้นปี ทำธุรกิจขึ้นมาจริงๆ ต้องคิดหาโปรดักซ์ที่เราจะสร้างเป็นแบรนด์ขึ้นมาขายจริง ลงทุนจริง ขาดทุนจริง (หัวเราะ) อันนี้คือดีมากๆ เหมือนเราร่วมกันเปิดบริษัท วางแพลน ทำแพคเกจ ทำการตลาด ขาดทุนก็ต้องช่วยกันแก้เพราะเราใช้เงินจริงลงทุน จบมาพอทำงานมันทำให้เรามั่นใจมากกว่าคนอื่นนะ เพราะเราเคยผ่านกระบวนการพวกนี้มาแล้ว เป็นพอร์ทตอนสมัครงานด้วย ถือเป็นโปรเจคที่ชอบและภูมิใจที่สุด

เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เล่าให้ฟังหน่อยสิ

หนูเป็นคนชอบใช้เงินค่ะ (หัวเราะ) เลยรู้สึกว่าใช้เงินเก่งก็ต้องหาเงินเก่ง คือตั้งแต่ตอนเข้ามหาลัย ปี1 เลย เรารู้สึกว่าเราอยากกินอยากเที่ยวตามประสาเด็ก เราเลยหารายได้พิเศษ เริ่มแรกเลยก็ไปเป็นเด็กร้านกาแฟ ก็ทำทุกอย่างในร้าน แต่พอเปิดเทอมมันก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เลยหางานที่ทำได้เวลาเลิกเรียน ก็เลยเริ่มไปเป็นติวเตอร์ สอนติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย สอนการบ้านดูแลเด็กประถม สอนหมดเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นว่างเมื่อไหร่ก็รับสอนหมด ไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่น ก็ทำจนได้รับเชิญให้ไปติวเตอร์ที่โรงเรียน สอนเด็กกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เคยสอนมาเลย เป็น 100 คน รู้สึกแบบเราโชคดีมากได้โอกาสดีๆ แล้วเราก็ตั้งใจทำมันมาเรื่อยๆ เหนื่อยแต่แฮปปี้เพราะเรียนจบมาแบบไม่ขอเงินแม่เลย ส่งตัวเองเรียน แค่นี้ภูมิใจละหายเหนื่อย

จากเด็กจบใหม่ สู่การทำงานในชีวิตจริง เป็นยังไงบ้าง

ตอนนี้แยมทำงานอยู่ที่ Thoughtful Media Thailand ค่ะ เป็นบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ YouTube แยมทำตำแหน่ง Talent Assistant จะได้คุยได้เจอคนเยอะมาก ซึ่งแยมชอบอยู่แล้วเพราะแยมไม่ชอบงานเอกสาร หลักๆ คือแยมจะติดต่อกับยูทูปเบอร์ ดูคอนเทนต์วีดีโอ  แล้วจะมีการ develop คอนเทนต์ สนุกดีตรงที่ได้ทำงานกับคนเยอะๆ คิดคอนเทนต์ต่างๆ แต่เวลาส่วนตัวบางทีก็จะมีงานมีอะไรเข้ามาบ้าง เพราะถ้ายูทูปเบอร์มีปัญหาหรืออยากสอบถามอะไรก็จะติดต่อเรา

ทำไมถึงเลือกทำงานด้านนี้หล่ะ

ตอนฝึกงานแยมได้ฝึกบริษัทที่ทำทางนี้เลย คือเป็นพาร์ทเนอร์ YouTube นี่แหละ แล้วรู้สึกว่ามันโอเคกับเรา ท้าทายตัวเองดีการที่เราต้องคุยต้องติดต่องานกับคนหลายๆ แบบ เหมือนจะง่ายนะ แต่ทำจริงๆ นี่ยากเลย แล้วฝึกเสร็จเค้าก็อยากให้เราไปทำงานด้วย ก็คุยกันแล้วโอเคเราก็เลยทำทางนี้ต่อเลย เพราะเรามีพื้นฐานความรู้ตรงนี้เคยทำงานตรงนี้แล้วด้วย

อีกอย่างงานด้านนี้ มีความท้าทายมากเลยค่ะ เพราะทัศนคติคนเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปคุยไปติดต่อกับเค้า วิธีการต่างๆ หรือการตอบรับจากคนแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว อันนี้คือความท้าทายมากๆ เหมือนเราต้องเตรียมตัวตลอดเวลาที่จะออกไปพบพูดคุยกับคนใหม่ๆ ต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ทันในบทสนทนานั้นๆ แยมต้องเรียกสติตัวเองตลอดเวลา (หัวเราะ) แต่สนุกดีค่ะ

คติการทำงานของแยม

อย่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรทำ (หัวเราะ) ล้อเล่นค่ะ คติประจำใจของแยมคือทำวันนี้ให้ดีที่สุด อันนี้ใช้ได้กับทุกเรื่องเลย เพราะถ้าวันนี้เราทำดีแล้ว ผลมันก็จะออกมาดี ถ้าเราทำดีแบบนี้ทุกวัน ยังไงอนาคตข้างหน้าก็ต้องดีแน่นอนค่ะ

งานอดิเรกของแยมคือช่างภาพ!

เรื่องถ่ายภาพจริงๆ เริ่มมากจากที่แยมชอบไปเป็นแบบก่อนค่ะ พอเราไปถ่ายแล้วเห็นรูปสวยๆ เราก็อยากลองบ้าง ก็เริ่มศึกษาการถ่ายรูปจริงจัง เริ่มควักตังค์เยอะ (หัวเราะ) พอยิ่งเรียนรู้มันยิ่งสนุกเวลาเราได้พกกล้องออกไปข้างนอก กลับมาก็มาเช็คมาแต่งรูปที่เราไปถ่ายมา บางทีใช้เวลาทั้งวันแต่งรูปที่ไปถ่ายไปเที่ยวเล่น คือจริงจังมากกับทุกรูป เวลาไปกับกลุ่มเพื่อนหรือไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะเป็นคนคอยถ่ายรูปให้คนอื่น ชอบเวลาคนอื่นเอารูปที่เราถ่ายไปใช้เป็นรูปโปรหรือเอาไปลง มันแปลว่าเค้าชอบรูปที่เราถ่ายให้

ผลงานการถ่ายรูปของน้องแยม

งานอดิเรกอีกอย่างที่ต่อยอดจากการชอบถ่ายรูป คือพวกงานรีวิวต่างๆ ค่ะ แยมชอบเที่ยวค่ะ ไม่ว่าจะเที่ยวตระเวนหาของกินในกรุงเทพ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด เวลาไปทุกครั้งก็จะมีรูปกลับมาเยอะมาก แล้วแยมเป็นคนทำการบ้านดีมากก่อนไปเที่ยว หาที่พักที่แวะที่เที่ยวพร้อมหมด คิดแล้วว่ามีร้านอาหารกี่ที่ ร้านที่จะแวะถ่ายรูปตรงไหนอะไรเตรียมหมด เราก็จะเจอร้านดีๆ ที่พักดีๆ ที่คนอื่นยังไม่ค่อยได้ไปกัน ก็เลยเอามาเขียนเป็นไดอารี่ท่องเที่ยวนี่แหละใน Facebook เรา แล้วอยู่ๆ ก็มีคนแชร์ออกไปเยอะมาก ตกใจมากจริงๆ เพราะตอนนี้ยอดแชร์ 250,000 แชร์แล้ว กราบขอบคุณค่ะ (หัวเราะ)

แนะนำแอปเจ๋งๆ หน่อยสิ

แยมเป็นคนละเอียดเรื่องเงินมาก อย่างที่เล่าๆ ไป รายรับจากงานหลายอย่าง รายจ่ายก็เยอะ แยมเลยจะต้องจดบันทึกลงแอปเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง (หัวเราะ) แอปที่แยมใช้เป็นประจำคือแอป WepleMoney ค่ะ ที่ชอบใช้แอปนี้เพราะมันมีอีโมติคอนน่ารักๆ แยกเป็นประเภทให้ เข้าใจง่าย แล้วก็มีกราฟสรุปให้ดูแบบเข้าใจง่ายมาก ว่ารายรับมาจากอะไร แต่ละเดือนหมดไปกับอะไรกี่เปอร์เซ็นต์ คือมีลูกเล่นเยอะแต่รูปแบบน่ารักเข้าใจง่าย ทำให้เราขยันจดบันทึก เพราะถ้าให้จดใส่สมุดหรืออะไรที่ไม่น่าสนใจ เราก็จะเบื่อ สุดท้ายเริ่มจดได้ไม่กี่วันก็เลิก แยมเคยเป็น (หัวเราะ)

ดาวน์โหลด

ถือเป็นสาวอีกคนที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ดูสนุกสนาน และมีความสามารถแบบสาวสมัยใหม่ ชนิดที่ว่าเก่งรอบด้านจริงๆ ส่วนคณะบริหาร ก็นับเป็นคณะที่น่าสนใจไม่น้อย ได้เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนแบบเต็มๆ ชนิดที่ว่าจบออกมาประสบการณ์ล้นเหลือเลย แถมเรียนจบออกมายังได้ทำงานสนุกๆ อีกด้วย แบบนี้ใครสนใจอยากเข้าเรียนคณะนี้ ไม่ควรรอช้าแล้วหล่ะ