‘Libra’ สกุลเงินดิจิตอลที่ Facebook กับ 27 องค์กรชั้นนำทั่วโลกเตรียมเปิดตัวในปีหน้า อาจเป็นความฝัน เพราะตั้งเเต่มีข่าวออกมาก็มีหลายประเทศที่ออกเเสดงท่าทีขอ ‘ทบทวน’ สกุลเงินนี้ก่อน

เเน่นอนว่า ‘Libra’ อาจทำให้การค้าขาย เเละธุรกรรม ง่ายเเละประหยัดขึ้น เเต่ก็ไม่ได้มีใครถูกใจมันไปทุกคนนัก โดยเฉพาะรัฐบาลของประเทศต่างๆ

Play video

เริ่มที่ฝรั่งเศสเเละเยอรมันนีที่ออกเรียกร้องให้สหภาพยุโรปทบทวน เเละศึกษาผลกระทบการนำ Libra มาใช้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศสยืนกรานว่า Libra ต้องไม่เป็นสกุลเงินที่ ‘กุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ’ นอกจากนั้นเขายังประสานไปยังกลุ่ม G7 ให้ทำรายงานจับตาความเคลื่อนไหวของ Facebook ด้านผู้เเทนจากเยอรมันได้ออกมาเรียกร้องให้สหภาพยุโรปพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะอาจถูกใช้เป็น ‘ธนาคารเงา‘ (Shadow Bank) ของบริษัทเอกชน ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบธนาคาร เเละอาจได้รับผลประโยชน์จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางกฎกติกาของ Libra ดังนั้นเอกชนห้ามเข้าไปเเตะเด็ดขาด!

ตามมาด้วยสหรัฐฯ ที่ล่าสุดสมาชิกพรรค Democrat ในคณะกรรมการสภาบริการทางการเงินสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องผู้บริหาร Facebookให้ ระงับ Libra (ชั่วคราว) โดยเนื้อหารวม ๆ สรุปว่า สกุลเงินใหม่นี้ไม่เหมือนชาวบ้าน ไม่ได้อ้างอิงจากสวิตเซอร์เเลนด์ เเละอาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วย

กลับมาที่บ้านเรา ทางโฆษก ก.ล.ต. ก็เคยออกมาเตือนให้ระวังถูกชักชวนให้ลงทุนใน Libra Investment Token ซึ่งชาวบ้านทั่วไปอาจถูกหลอกได้ง่าย ๆ เนื่องจากมีเพียงไม่กี่บริษัทที่เข้าเงื่อนไขการลงทุนดังกล่าว

ฟังจากหลายประเทศเเล้ว ดูเหมือนรัฐจะหวังดี เเต่ก็อย่าลืมว่า รายได้หลักของรัฐก็คือภาษี ซึ่งภาษีนี่เเหละคือปัญหา รัฐสามารถเก็บภาษีจากเงินในรูปเเบบธนบัตรได้ เเต่ Libra เปรียบเสมือนเงินล่องหนที่โอนข้ามไปข้ามมาได้ทั่วโลก ไม่รู้จะไปเก็บภาษีอย่างไร

ทางออกหนึ่งที่อาจเป็นไปได้คือการนำเเนวคิด Tobin Tax ของ James Tobin นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เมื่อ 50 ปีก่อนมาใช้จริง ๆ สักที Tobin Tax คือการเก็บภาษีของคนที่ชอบลงทุนเเลกเปลี่ยนเงินตราระยะสั้น อยากได้ผลกำไรเยอะๆ เเบบขึ้นทีก็ขายที (เหมือนเป็นการลงโทษ) เเละเอาเงินที่ได้ไปสนับสนุนการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เช่น การลงทุนเชิงคุณค่าในระยะยาว พูดง่าย ๆ ก็เหมือน Robin Hood ดี ๆ นี่เอง ซึ่งนี่อาจเป็นดัง ‘ไม้เรียว’ ไม่ให้นักลงทุนจอมตะกละใช้เป็นช่องโหว่ในการทำกำไร ทำให้ตลาดผันผวน

ไม่ว่าเหตุผลการ ‘ชะลอ’ Libra ของเเต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร เเต่ก็ดูเหมือนว่าการทำสกุลเงินดิจิตอลให้รัฐยอมรับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการทำ Social Media ที่เป็นธุรกิจหลักของ Facebook เเต่ถ้าทำได้ Facebook ก็จะกลายเป็น ‘ฮีโร่’ อีกครั้ง

ก็ต้องดูกันต่อไปว่า Libra จะเข้ามาหยุดโลก หรือจะถูกโลกหยุดกันเเน่…

Play video