เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวสรุปภาพรวมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า หลังจากปิดหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไป 1 ชั่วโมงแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการคำนวณว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนเท่าไร แต่จากการคาดการณ์ด้วยสายตาคาดว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 70%

ทั้งนี้ สถานการณ์ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยใช้เวลาเฉลี่ย 3-5 นาทีต่อคน ส่วนปัญหาอุปสรรคมีอยู่ 3 อย่าง (1) อากาศร้อน (2) บางแห่งสถานที่คับแคบเมื่อเทียบสัดส่วนผู้มาลงคะแนน ทำให้รอคิวและแออัดบ้างบางจุด และ (3) สภาพการจราจร

สำหรับส่วนปัญหาในการอำนวยความสะดวกกับประชาชนและการลงคะแนนนั้น ประการแรก คือ การจ่าหน้าซองผิดเขต ซึ่งเรื่องนี้ เลขาธิการ กกต. ชี้แจงว่า บัตรจะถึงเขตที่ท่านมีชื่อในทะเบียนอย่างถูกต้อง เพราะมีระบบการตรวจสอบ โดยในการจ่ายหน้าซอง จะมีประธานเขต จังหวัดเขตเลือกตั้ง และรหัสเขต

“สิ่งที่เราใช้ตรวจสอบ คือ รหัสเขตเลือกตั้งที่ประชาชนเคยบอกว่าทำไมเราไม่เอารหัสไปรษณีย์ เพราะเราจะตรวจสอบอีกครั้งว่า ถ้าหากกรอกเขตผิดพลาด เราก็จะรู้จากรหัสเขตเลือกตั้ง ดังนั้น จึงไม่ใช่รหัสไปรษณีย์ตั้งแต่ต้น” นายแสวงกล่าว

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบจากกระดาษจดลำดับที่ ตอนที่เข้าไปที่หน่วยเลือกตั้ง หรือเรียกว่า “ติ้วเล็ก” ซึ่งจะบอกเขตเลือกตั้ง จังหวัด รหัสเขตเลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเป็นคนจดและมอบให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเข้าคิวออกเสียงลงคะแนน อย่างไรก็ตาม กรรมการประจําหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ที่จ่ายบัตรที่ระบุเขตคาดเคลื่อน อาจเกิดจากชุดที่ใช้ลงคะแนน

ยกตัวอย่าง ช่วงเช้าชุดที่ 4 อาจจะสำคัญผิดว่าเป็นเขตที่ 4 แต่ตัวรหัสกรอกถูกต้อง เพราะกรอกตามติ้วเล็ก ซึ่งจะเก็บไว้ทุกแผ่น จึงสามารถตรวจสอบได้ทุกซองที่จะส่งไปที่เขตเลือกตั้ง ทาง กกต. จึงอยากให้สบายใจว่า กกต. ออกแบบมาเพื่อใช้เวลามีปัญหาจากการทำงานของคน แต่ระบบสามารถแก้ไขตรงนี้ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องทำอยู่แล้ว สำหรับกรณีหน่วยเลือกตั้งที่จังหวัดนนทบุรีที่เคยให้ข่าวว่ามีการลงรหัสเขตเลือกตั้งผิดกว่า 100 รายนั้น ตรวจสอบล่าสุดแล้วพบว่ามี 48 ราย

“อยากให้สบายใจว่าไม่ว่าจะจ่ายหน้าซองผิดอย่างไร ก็มีระบบตรวจสอบที่สามารถนำซองที่มีทั้งบัตรแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ส่งไปที่เขตของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างถูกต้อง” นายแสวงกล่าว สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า ไม่มีการลงรายละเอียดหน้าซองเลยก็จะส่งไปที่เขตไม่ได้ นายแสวงกล่าวว่าตนยังไม่ได้รับรายงานว่าพบปัญหานี้ ซึ่งก็จะมีการตรวจสอบต่อไป

ส่วนคำถามที่ว่า หลังปิดหีบแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถเทบัตรออกมาทำการแก้ไขข้อมูลการจ่ายหน้าซองให้ถูกต้องได้หรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่าสามารถทำได้ เพราะต้องมีกระบวนการนับเพื่อส่งไปรษณีย์ หากไม่มีการลงข้อมูลให้ถูกต้อง ไปรษณีย์ก็จะไม่สามารถส่งไปยังเขตของผู้ใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผู้ไปสังเกตการณ์สามารถถ่ายวิดีโอเอาไว้ได้

สำหรับความผิดพลาดเรื่องเอกสารว่าไม่มีชื่อบางพรรค และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครที่ติดหน้าหน่วยไม่ครบนั้น เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานตั้งแต่ช่วงเช้าและมีการแก้ไขแล้ว โดยเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครที่หายไปนั้น เกิดจากมีผู้คนไปอีก ทำให้หายไป 3 แผ่น จึงได้มีการแจ้งความเหตุดังกล่าวแล้ว

สำหรับบัตรเลือกตั้งที่เหลือ เลขาธิการ กกต. ระบุว่า มีการเจาะและมีการบอกจำนวน โดยกรรมการประจําหน่วยเลือกตั้งจะประกาศติดที่หน้าหน่วย ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 สำเนา ในขณะที่การดำเนินการหลังปิดหีบ เวลา 17.00 น. นั้น ไปรษณีย์ไทยจะมีรถทั้งหมด 475 คันไปรับบัตรที่อยู่ในซองลงคะแนนวันนี้ (7 พ.ค. 66) ไปยังหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งกลาง 475 แห่ง

จากนั้นกรรมการประจําหน่วยเลือกตั้งจะนับจำนวนบัตรแล้วใส่ถุงใส เพื่อส่งให้ไปรษณีย์ไทยตรวจนับว่าจำนวนตรงกันหรือไม่ แล้วรัดถุงใส่ในถุงอีกชั้น ใส่สายรัด เซ็นลงนามรับมอบบัตร จากนั้นนำบัตรมาส่งที่ศูนย์ไปรษณีย์ไทย 15 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลและมี GPS ติดตาม เพื่อขนส่งบัตรเข้ามาที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ เพื่อคัดแยกแล้วส่งเก็บในที่ปลอดภัยในเขตเลือกตั้งทุกเขตในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 พร้อมกับบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

สำหรับรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น เลขาธิการ กกต. ระบุว่า มีการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้วที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้มีการแจ้งความแล้ว ส่วนกรณีที่มีการขนคนไปลงคะแนนนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กกต. ขอยืนยันว่า ทุกความเคลื่อนไหวเราสามารถดูแลได้ตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดที่มีคนไปลงคะแนนเยอะ ขนคนไปลงคะแนน หรือมีพฤติการณ์ในการลงคะแนนมีรายงานเบื้องต้นมาอยู่แล้ว

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง