ประเด็นดังจากวงการกีฬา ที่ถูกพูดถึงหนาหูในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้น คงหนีไม่พ้นการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่ดูแล้วตัวนักเตะจะกลายเป็นที่สนใจมากกว่าเกมในสนาม จากกรณีที่นักเตะนำเครื่องดื่มของสปอนเซอร์ออกไปจากโต๊ะแถลงข่าว

นับว่ากลายเป็นเทรนด์ไปแล้วสำหรับฟุตบอลยูโร 2020 ในปีนี้ ที่เหล่านักเตะชื่อดังต่างนำเครื่องดื่มของสปอนเซอร์ออกจากโต๊ะสัมภาษณ์ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป จนเหล่าผู้จัดและสปอนเซอร์ต่างได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

ฟุตบอลยูโร 2020 ที่เลื่อนออกมาจัดในปี 2021 จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น มีเรื่องให้พูดถึงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก หลังจากที่คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) นักเตะชื่อดังชาวโปรตุเกสได้นำขวดน้ำอัดลมจำนวน 2 ขวดออกจากโต๊ะแถลงข่าวและนำน้ำเปล่ามาวางแทน พร้อมแนะนำให้ทุกคนดื่มเปล่าแทนน้ำอัดลม ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลมหาศาลต่อแบรนด์น้ำอัดลมแบรนด์นี้ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันยูโร 2020 เพราะทำเอาหุ้นของบริษัทน้ำอัดลมดิ่งลง 1.6% แทบทันจะทันที อยู่ที่ 55.22 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1,735 บาท ทำให้สูญเสียมูลค่าทางตลาดไปถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 124,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)

คนต่อมา มีปอล ป็อกบา (Paul Pogba) นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจากโต๊ะแถลงข่าวเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าเขาเป็นชาวมุสลิมที่เคร่งศาสนา ซึ่งมีกฎห้ามดื่มของมึนเมา ถึงแม้ทางแบรนด์โฆษณาจะพยายามโปรโมตแล้วก็ตามว่าเบียร์ของพวกเขาเป็นเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ 0%

ปอล ป็อกบา (Paul Pogba)

นอกจากนี้ก็ยังมีมานูเอล โลคาเตลลี่ (Manuel Locatelli) นักเตะอิตาลีที่ก็พยายามเลียนแบบโรนัลโด้เช่นกัน ด้วยการนำเครื่องดื่มน้ำอัดลมออก แล้วเอาน้ำเปล่ามาวางแทน

มานูเอล โลคาเตลลี่ (Manuel Locatelli)

ล่าสุด ยูฟ่า ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการร้องขอให้ผู้เล่นหยุดนำเครื่องดื่มของสปอนเซอร์ออกจากโต๊ะแถลงข่าวยูโร 2020 โดยทางมาร์ติน คัลเลน (Martin Kallen) ผู้อำนวยการการแข่งขันยูโร 2020 กล่าวว่า “ยูฟ่าได้พูดคุยกับทีมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว” “มันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรายได้ของสปอนเซอร์มีความสำคัญสำหรับทัวร์นาเมนต์และสำหรับฟุตบอลยุโรปในครั้งนี้”

ขณะที่เหล่าสปอนเซอร์กำลังเสียรายได้ แต่เหล่านักกีฬาไม่ได้เป็นเช่นนั้น แม้การถ่ายทอดสดจะถูกระงับไป แต่นักกีฬาชื่อดังระดับโลกเหล่านี้ยังคงได้รับเงินกลับบ้านไปมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์หรือราวอย่างน้อย 3,100 ล้านบาทต่อปีอยู่ดี

ยกตัวอย่างเช่นคริสเตียโน โรนัลโด คิดง่าย ๆ แค่การเซ็นสัญญาของเขากับสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส (Juventus) มีมูลค่าเฉลี่ย 64 ล้านดอลลาร์หรือราว 2,000 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังไม่นับรวมค่าโฆษณาที่ได้รับจากสปอนเซอร์อีก ส่งผลให้โรนัลโดกลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้ทะลุหลัก 1 พันล้านดอลลาร์หรือราว 30,000 ล้านบาทในอาชีพการงาน

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส