วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประกาศจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยเจแอนด์ทีจะลงทุนสร้างสวนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งขณะนี้เจแอนด์ทีได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับผู้แทนรัฐบาลราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดเผยครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุม LEAP ซึ่งเป็นเวทีเสวนาด้านเทคโนโลยีระดับโลก ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

สำหรับสวนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะแห่งใหม่นี้ ประกอบไปด้วยศูนย์คัดแยกพัสดุระดับเวิลด์คลาส, ระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ, คลังขนส่งสินค้าทางอากาศ, สวนอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ และสวนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ 

ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ เจแอนด์ทีมีพันธกิจต่อราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในการฝึกอบรมบุคลากรมืออาชีพทางด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงในโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ทั้งทางด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลก และเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์การดำเนินการสำหรับตลาดทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

นายบรูซ หลิว (Bruce Liu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า เรามีความยินดี ที่เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมแห่งใหม่ขึ้นในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะช่วยให้การบริการลูกค้า และคู่ค้าเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่สำคัญขององค์กร สำหรับกลยุทธ์การรุกตลาดโลกในภาพรวม

ทั้งนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มุ่งหวังที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสร้างความเติบโตที่แข็งแกร่งให้แก่ภาคการค้าปลีกและภาคการผลิต โดยมีเป้าหมายให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นประตูอันสำคัญที่เชื่อมเอเชีย ยุโรป และแอฟริกาเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนช่วยให้ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียบรรลุแผนพัฒนาวิชัน 2030 (Vision 2030) ที่ตั้งไว้ โดยในระยะเริ่มต้น รัฐบาลราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียจะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น รวมถึงนโยบายสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนภาพรวมการพัฒนาโลจิสติกส์ และการค้าภายในภูมิภาค

สำหรับแผนการลงทุนในประเทศไทย เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส วางแผนขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม และเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาการบริการแบบ “ดอร์ ทู ดอร์” (Door to Door) เข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้านให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดภายในปี 2565 นี้