สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 5-9 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 56 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม เวลา 1:03 a.m. ET (เวลา 12:03 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 29 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 31 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ภารกิจ Group 5-9 จะเป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V1.5 ไปยังเชลล์ที่ 5 ของดาวเทียม Starlink Gen 2 ซึ่งมีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ได้ปล่อยดาวเทียมในกลุ่มนี้ไปแล้ว 386 ดวง และกำลังปฏิบัติงานอยู่ 383 ดวง และล่าสุดสเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4073 ดวง และเมื่อภารกิจครั้งนี้สำเร็จจะช่วยให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 4,129 ดวง

ดาวเทียม Starlink V1.5 มีความพิเศษที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารระหว่างดาวเทียมด้วยเลเซอร์ ช่วยให้ดาวเทียมสามารถสื่อสารกันในวงโคจรเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรและพื้นที่ห่างไกลอื่น ๆ จึงทำให้ลดจำนวนสถานีภาคพื้นดิน ส่วนดาวเทียม Starlink Gen 2 ขณะนี้กำลังพบปัญหาในการผลิตจึงยังไม่ถูกปล่อยสู่วงโคจร แต่ก็ได้มีการปล่อย V2 Mini ไปแล้ว 42 ดวง ในภารกิจ Group 6-1 และ 6-2

ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1067 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 11 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจ CRS-22 ขนส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS), ภารกิจ Crew-3 ส่งนักบินอวกาศไป ISS, ภารกิจปล่อยดาวเทียมสื่อสาร Turksat 5B ของตุรกี, ภารกิจ Crew-4 ส่งนักบินอวกาศไป ISS, ภารกิจ CRS-25 ขนส่งเสบียงไปยัง ISS, ปล่อยดาวเทียม Eutelsat HOTBIRD 13G, ภารกิจ SES O3b mPOWER และภารกิจปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิง Group 4-34, Group 5-2 และ Group 5-5

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1067 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด

ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส