วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ได้อนุมัติให้สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) สามารถปล่อยภารกิจทดสอบบินสตาร์ชิป (Starship) ไปสู่อวกาศเป็นครั้งที่ 2 ได้ ซึ่งสเปซเอ็กซ์ก็ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ให้แฟนคลับทราบว่าจะปล่อยเที่ยวบินในวันที่ 17 พฤศจิกายน เริ่มเวลา 7:00 a.m. CT (20:00 น. เวลาในประเทศไทย) แต่ล่าสุดได้ขอเลื่อนไปเป็นวันเสาร์ที่ 18 เวลาเดิม และจะถ่ายทอดสดก่อนเวลา 35 นาที บน X @SpaceX

20 เมษายน สเปซเอ็กซ์ได้ทดสอบการบินของสตาร์ชิปไปสู่อวกาศครั้งแรก ซึ่งระหว่างปล่อยจรวดพบว่าเครื่องยนต์ Raptor จำนวน 33 ตัวของบูสเตอร์คือจรวด Super Heavy ที่มีแรงขับดันอย่างมหาศาลได้ทำให้แท่นยิงจรวดเสียหาย ส่งผลให้ทรายและคอนกรีตกระเด็นออกไปยังพื้นที่โดยรอบหลายไมล์ อีกทั้งบูสเตอร์ไม่สามารถแยกออกมาได้สำเร็จ จึงได้มีการสั่งทำลายระเบิดตัวเองอัตโนมัติ และทำให้ FAA ต้องเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยก่อนที่จะได้ใบอนุญาตทดสอบบินครั้งที่ 2 ได้

สเปซเอ็กซ์เผยว่าได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงนำมาปรับปรุงทั้งจรวดและโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินหลายอย่าง จนน่าจะทำให้การบินประสบความสำเร็จ

การทดสอบบินครั้งที่ 2 จะมีการใช้ระบบแยกส่วนแบบ Hot-staging คือการจุดระเบิดเครื่องยนต์ของยานสตาร์ชิป ในขณะที่ยังต่ออยู่กับจรวด Super Heavy โดยที่เครื่องยนต์ Raptor ส่วนใหญ่ถูกปิด แต่จะมีบางส่วนทำงานอยู่ ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการสูญเสียแรงขับในระหว่างการแยกจรวดออกจากยานในแบบเดิม

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมเวกเตอร์แรงขับแบบอิเล็กทรอนิกส์ (TVC) ใหม่สำหรับเครื่องยนต์ Raptor ของจรวด Super Heavy การเสริมแผ่นเหล็กรองฐานและแผ่นเบี่ยงเปลวไฟที่ทำจากเหล็กแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ รวมทั้งมีการปรับปรุงอีกมากมายที่ไม่ได้เผยรายละเอียด

สเปซเอ็กซ์มุ่งมั่นใช้วิธีการพัฒนาแบบทำซ้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างระบบขนส่งอวกาศที่นำกลับมาใช้ใหม่อย่างสมบูรณ์ ในการบรรทุกทั้งลูกเรือและสัมภาระไปยังวงโคจรของโลก ซึ่งจะช่วยนำมนุษย์กลับไปเหยียบบนดวงจันทร์อีกครั้ง และการเดินทางต่อไปยังดาวอังคารและดวงดาวอื่น ๆ ในอนาคต

ที่มา : spacex.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส