คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวเมื่อวานนี้ว่าจะเสนอกฎหมายใหม่ เพื่อยุติการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ต้องขังสัตว์ไว้ในกรง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ประชาชนเรียกร้องคำสั่งแบนดังกล่าวและรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 1 ล้านคนจาก 18 รัฐในยุโรป

โดยคาดว่าการเสนอกฎหมายดังกล่าว น่าจะได้รับการตอบรับและถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงจะเริ่มใช้ได้ในปี 2023 เพื่อยุติและแบนการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในกรง ‘ทุกชนิด’ รวมถึงกระต่าย ไก่ นกกระทา เป็ด และห่าน

อียู กล่าวว่ารัฐสภายุโรปและรัฐบาล 27 แห่งของสหภาพยุโรปจะต้องยอมรับกฎใหม่ และประเทศต่าง ๆ ก็จะต้องรับผิดชอบในการบังคับใช้กฎเหล่านี้ด้วย

โดยทางกรรมาธิการสาธารณสุขของสหภาพยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับสวัสดิภาพสัตว์ สัตว์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกันและเราควรมีความรับผิดชอบทางศีลธรรมและทางสังคม”

ในปี 2563 ไทยส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ปีกไป EU (อียู) มากเป็นลำดับที่ 4 ของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นมูลค่าราว 10,208.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.50 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ทั้งหมดของไทย

ไทยเริ่มจัดทำมาตรฐานเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ได้กำหนดมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่แบบไม่ใช้กรง เพื่อผลักดันให้มีการผลิตสินค้าปศุสัตว์ที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์มากยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถและเป็นแต้มต่อทางการค้าให้กับเกษตรกรไทย และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอีกด้วย

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส