ใกล้ได้เวลาที่แฟน ๆ จะได้รับชมความยิ่งใหญ่ อลังการ และความกาวในสไตล์ของผู้กำกับ ไทกา ไวทีทื (Taika Waititi) อีกครั้งใน ‘Thor: Love and Thunder’ ซึ่งในเรื่องเราจะได้เห็น Thor ถึง 2 คน แถมตั้งแต่เฟส 4 เป็นต้นมา Marvel ก็ขยายจักรวาลออกไปกว้างไกลกว่าที่เคยอีกทั้งยังมุ่งประเด็นไปที่การมีมัลติเวิร์สทำให้เกิดความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตามไวทีทีออกมาเผยว่าไม่ได้มีการหยิบเรื่องมัลติเวิร์สมาเล่นในหนังเรื่องนี้แต่อย่างใด
“เราไม่มี ‘มัลติเวิร์ส’ ในหนังเรื่องนี้หรอกครับ” ไวทีทีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Total Film “มันเป็นเรื่องของจักรวาลเพียงหนึ่งเดียวจริงแท้แน่นอน”
แทนที่จะออกสำรวจมัลติเวิร์สเหมือนหนังและซีรีส์ในเฟส 4 เรื่องอื่น ไวทีทีเลือกที่จะสำรวจแนวคิดที่ไม่สิ้นสุดอย่างอื่นนั่นก็คือความรัก
“ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีความเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร แถมยังต่างจากหนังเรื่องอื่นของมาร์เวลด้วยองค์ประกอบของความรัก และแนวคิดที่ว่าความรักส่งผลอย่างไรต่อตัวละครเหล่านี้” เขาอธิบาย “แฟนอาจคิดว่าพวกเขาไปดูหนังซูเปอร์ฮีโร ไม่ใช่หนังรัก แต่ก็นั่นล่ะครับ ผมพูดมาตั้งแต่ ‘Ragnarok’ แล้วว่าเราไม่มีทางรู้ว่าเราต้องการอะไรจนกว่าจะได้มันมา”
ใน ‘Thor: Love and Thunder’ ตัวละคร เจน ฟอสเตอร์ (รับบทโดยนาตาลี พอร์ตแมน – Natalie Portman) กลายเป็น Mighty Thor และได้ครอบครอง Mjolnir รวมถึงได้รับพลังเช่นเดียวกับชาวแอสการ์ดเหมือนกับเรื่องราวในคอมิก นอกจากนี้ตัวละครของเจนยังเป็นตัวละครในจักรวาลเดิม ไม่ได้มาจากจักรวาลอื่นแต่อย่างใด
ขณะที่ Thor (รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ – Chris Hemsworth) จะเริ่มการเดินทางที่ตัวเขาเองไม่เคยเผชิญมาก่อนเพื่อค้นหาความสงบภายในจิตใจ แต่การเดินทางค้นหาความสงบของเขาก็ถูกขัดขวางโดย Gorr the God Butcher (รับบทโดย คริสเตียน เบลล์ – Christian Bale) ผู้ต้องการสังหารเทพให้หมดไปจากจักรวาล เพื่อต่อกรกับศัตรูใหม่เขาจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก คิง วัลคีรี (รับบทโดยเทสซา ธอมป์สัน – Tessa Thompson), คอร์ก (รับบทโดยไวทีที) รวมถึงอดีตคนรัก เจน ฟอสเตอร์ ที่กลายเป็น Mighty Thor
‘Thor: Love and Thunder’ มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 8 กรกฎาคม 2022
ที่มา: comicbook.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส