Deadline รายงานว่า ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรเรื่องสุดท้ายของแฟรนไชส์ DCEU (DC Extended Universe) ทำรายได้ในการฉายสุดสัปดาห์ที่ 3 (5 – 7 มกราคม 2024) ไป 10.6 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับที่ 3 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ รองจาก ‘Wonka’ (14.4 ล้านเหรียญ) ที่ฉายมาแล้ว 4 สัปดาห์ และ ‘Night Swim’ (12 ล้านเหรียญ) ที่เพิ่งเข้าใหม่

นั่นทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ ของ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ นั้น ผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญ ได้สำเร็จ มาอยู่ที่ 100.02 ล้านเหรียญ กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 25 ในปี 2023 ที่สามารถทำรายได้ในสหรัฐฯ ผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญ ได้

‘Aquaman and the Lost Kingdom’ ประสบปัญหาด้านรายได้มาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดตัวขึ้นอันดับที่ 1 ในสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 27.7 ล้านเหรียญ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวน้อยที่สุดลำดับที่ 4 ในบรรดาภาพยนตร์ 15 เรื่อง ของแฟรนไชส์ อีกทั้งรายได้ในสุดสัปดาห์ต่อมาได้ลดลงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

Aquaman and the Lost Kingdom

ด้วยรายได้ล่าสุดนี้ อาจทำให้ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ สิ้นสุดเรื่องราวของ DCEU ได้ดีพอ ๆ กับภาพยนตร์หลายเรื่องในแฟรนไชส์ DCEU ช่วงปี 2020 – 2023 รองจาก ‘The Flash’ (108.1 ล้านเหรียญ) และ ‘Black Adam’ (168.1 ล้านเหรียญ) แต่อาจยังไม่สามารถทำรายได้ตาม ‘Shazam!’ เมื่อปี 2019 ที่ทำรายได้ในสหรัฐฯ ไป 140.4 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ของ DCEU ที่ทำรายได้น้อยที่สุดก่อนปี 2020

เรื่องรายได้สัปดาห์ที่ 3รายได้รวมในสหรัฐฯ
Aquaman and the Lost Kingdom (2023)100.0 ล้านเหรียญ
The Flash (2023)99.5 ล้านเหรียญ108.1 ล้านเหรียญ
Shazam! (2019)120.4 ล้านเหรียญ140.3 ล้านเหรียญ
Black Adam (2022)137.1 ล้านเหรียญ168.1 ล้านเหรียญ
Justice League (2017)197.4 ล้านเหรียญ229.0 ล้านเหรียญ
Man of Steel (2013)248.6 ล้านเหรียญ291.0 ล้านเหรียญ

ในตอนนี้ เรื่องราวต่อไปของ DCEU ได้ถูกโอนถ่ายไปยังแฟรนไชส์ DCU (DC Universe) ที่จะเปิดหัวด้วย ‘Superman: Legacy’ ของ เจมส์ กันน์ (James Gunn) ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2025

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส