เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา งานประกาศรางวัลที่ใหญ่ที่สุดอีกเวทีของฮอลลีวูดอย่างเวทีลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 81 ประจำปี 2024 ก็ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแม้จะทราบผลผู้ได้รับรางวัลแล้วเป็นที่เรียบร้อย แต่กระแสที่คุกรุ่นมาจนถึงตอนนี้ในฝั่งของฮอลลีวูดก็คือ การทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการครั้งแรกของศิลปินคอมเมเดียน โจ คอย (Jo Koy) ที่เล่นสาดมุกแซวกราดบนเวที จนทำให้บรรดาแขกคนดัง และผู้ชมทางบ้านไม่ค่อยปลื้มกับมุกแป้ก ๆ ของเขาสักเท่าไร
สิ่งที่ทำให้คอยโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงก็คงหนีไม่พ้นการสาดมุกแนวอคติทางเพศบนเวทีแบบไม่ยั้ง (คิด) ที่ตกเป็นเป้าใหญ่สุดก็หนีไม่พ้นหนังกลิ่นอายเฟมินิสต์จ๋า ๆ อย่าง ‘Barbie’ ที่โดนคอยจับเล่นมุกพ่วงแซะปรากฏการณ์ ‘Barbenheimer’ พาดพิงหนังคู่ขวัญที่คว้าได้ 5 รางวัล ว่า “‘Oppenheimer’ เนี่ย สร้างจากหนังสือ 721 หน้า เกี่ยวกับโครงการแมนฮัตตันที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ส่วน ‘Barbie’ ก็คือหนังที่เกี่ยวกับตุ๊กตาพลาสติกนมใหญ่อ่ะนะครับ…” ที่พอเรียกเสียงหัวเราะกล้อมแกล้มจากแขก แต่ชาวเน็ตด่าแหลก
หลายคนจึงอยากรู้ว่า ผู้กำกับและผู้เขียนบทร่วมอย่าง เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig) คิดเห็นอย่างไรกับมุกนี้ ซึ่งเธอเองได้ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุ BBC Radio 4 Today ซึ่งเกอร์วิกได้ให้ทัศนะในอีกมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่หลายคนคิด
“เขาไม่ได้พูดผิดหรอกค่ะ (บาร์บี้) เป็นตุ๊กตาตัวแรกที่มีหน้าอก ที่มีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเขาก็พูดถูก คุณรู้ไหม ฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่เพราะมันเกี่ยวกับการเป็นแค่เพียงตุ๊กตาพลาสติก สิ่งที่ รูธ แฮนด์เลอร์ (Ruth Handler – ผู้คิดค้นตุ๊กตาบาร์บี้ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Mattel) ตระหนักได้ตอนที่เธอเห็นลูกสาวเล่นตุ๊กตาเด็กทารกก็คือ เธอตระหนักได้ว่า ลูกสาวของเธอไม่อยากสมมติตัวเองว่าเป็นแม่ แต่อยากสมมติว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โตแล้วต่างหาก”
บนเวทีลูกโลกทองคำปีนี้ แม้ ‘Barbie’ จะสร้างปรากฏการณ์ด้วยการมีชื่อเข้าชิงมากที่สุดถึง 9 สาขา แต่ได้มาเพียง 2 รางวัล ทั้งรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง “What Was I Made For ? ” และรางวัลความสำเร็จด้านภาพยนตร์และบ็อกซ์ออฟฟิศ ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้รางวัลในสาขาที่เพิ่งมีการประกาศขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกในปีนี้
โจ คอย ตกเป็นเป้าที่ถูกหลายฝ่ายโจมตีในการทำหนัาที่เป็นผู้ดำเนินรายการการประกวดในเวทีใหญ่เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะการถูกวิจารณ์ถึงการหยอกล้อด้วยมุกฝืดแนวเหยียดเพศและบูลลี นอกจากมุกแซว ‘Barbie’ ที่ ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) นักแสดงร่วมเองก็ไม่ขำด้วยแล้ว ก็ยังมีหลายเป้าที่โดนแซวในคืนนั้นอีกหลายเป้า
ทั้ง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่โดนแซวพาดพิงถึงแฟนหนุ่มนักกีฬา NFL ว่า ลูกโลกทองคำมีกล้องจับเธอน้อยกว่ากล้องถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอล จนทำเอาแม่เทย์ถึงกับตาแข็ง มุกแซวซีรีส์ ‘Succession’ หนังเรื่อง ‘The Color Purple’ ที่แซวเรื่องเกี่ยวกับน้ำหนักของนักแสดง แม้แต่ชายแท้อย่าง แบร์รี คีโอแกน (Barry Keoghan) ก็ยังโดนแซวเรื่องฉากฮือฮาจากบทบาทในหนังเรื่อง ‘Saltburn’
ซึ่งคอยก็ออกมาแก้ต่างให้ตัวเองว่า ด้วยความที่เขาได้รับมอบหมายให้เป็นพิธีกรเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2023 หรือไม่ถึง 1 เดือนก่อนวันงาน ทุกอย่างจึงรวดเร็วจนฉุกละหุกไปหมด พร้อมกับอ้างว่าด้วยเวลาที่กระชั้นชิด บทที่ออกมาจึงออกมาอย่างที่เห็น “คือผมเขียนบทเองด้วย ผสมกับบางคนเขียนน่ะ แต่คือ ผมเพิ่งได้รับผิดชอบงานนี้เมื่อ 10 วันก่อนเองนะ! คุณจะเอาบทที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นเลยเหรอ ? หุบปากไปเลย! จะล้อผมเล่นใช่มั้ยเนี่ย ใจเย็นหน่อยดิ คือผมเขียนบทพวกนี้บางส่วน และนั่นก็เป็นสิ่งที่คุณกำลังหัวเราะเยาะผมอยู่นะเนี่ย”
แม้ประวัติศาสตร์ของตุ๊กตาบาร์บี้ จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความย้อนแย้งในเรื่องของแนวคิด ระหว่างการเชิดชูสตรีนิยม (แบบในหนัง ‘Barbie’) กับการเป็นสินค้าที่ตอบสนองความเป็นวัตถุทางเพศ ซึ่ง มาร์โกต์ ร็อบบี (Margot Robbie) นักแสดงเจ้าของบทบาร์บี้ และโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้เคยให้ทัศนะที่น่าสนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้ที่ โดยเฉพาะหนังที่ทำให้ตุ๊กตาหญิงสาวตัวนี้ยังคงมีพัฒนาการขั้นต่อไปอยู่เสมอ
“ฉันคิดว่าตุ๊กตาบาร์บี้นั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนตั้งแต่วันที่เธอถูกประดิษฐ์ขึ้น เธอมีความเป็นไอคอน แต่เธอก็เป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก มีหลายครั้งที่บาร์บี้ล้ำหน้า และหลายครั้งเธอเองก็ล้าหลัง แต่เธอเองก็มีการพัฒนาอยู่เสมอ และฉันเองก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ก็คือวิวัฒนาการขั้นต่อไป”
ที่มา: Entertainment Weekly, Variety
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส