เมื่อปีที่ผ่านมามีข่าวน่าตื่นเต้นสำหรับแฟน ๆ จักรวาลภาพยนตร์พ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) นั่นก็คือการที่ Warner Bros. Discovery ได้ออกมายืนยันข่าวว่าจะมีการนำเอาเรื่องราวของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เคยสร้างความประทับใจในรูปแบบภาพยนตร์ 7 ภาค 8 เรื่อง จะถูกนำมารีเมกใหม่ในรูปแบบทีวีซีรีส์ความยาว 7 ซีซัน สำหรับออกอากาศบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง Max ของตนเอง

ซึ่งในขณะนี้ตัวซีรีส์ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และกว่าจะได้ชมกัน คาดว่าน่าจะราว ๆ ปี 2026 และตัวซีรีส์จะใช้นักแสดงชุดใหม่ทั้งหมดที่ไม่ซ้ำกับเวอร์ชันหนังด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีแฟน ๆ หลายคนที่แอบคาดหวังเล็ก ๆ ที่อยากจะเห็นนักแสดงจากฉบับหนังมาปรากฏตัวเป็น Cameo หรือ Easter Egg เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ยากขึ้น

ล่าสุด แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษผู้แจ้งเกิดจากบทบาทพ่อมดน้อย ได้ให้สัมภาษณ์กับ E! Online ในระหว่างเข้าร่วมงานประกาศรางวัลดราม่าลีก (2024 Drama League Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักแสดงและทีมงานในสายละครเวที

Daniel Radcliffe Harry Potter and the Deathly Hallows - Part 2

แรดคลิฟฟ์ที่ตอนนี้กลายมาเป็นนักแสดงหนังและละครเวที และเพิ่งจะได้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากละครมิวสิคัล ในงานประกาศรางวัลโทนีอวอร์ด (Tony Awards) จากละครเวที ‘Merrily We Roll along’ ได้ยืนยันอย่างแข็งขันว่าเขาไม่ต้องการจะกลับไปปรากฏตัวในเวอร์ชันซีรีส์โดยเด็ดขาด

“ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยครับ ผมคิดว่าพวกเขาคงมีวิธีที่ฉลาด ๆ ในการจะล้างภาพเดิมออกไป แล้วผมเองก็ไม่แน่ใจด้วยว่า ถ้าเราลงไปมีส่วนร่วมกับสิ่งนี้แล้วมันจะออกมาเวิร์กไหม ผมเองตื่นเต้นและมีความสุขมาก ๆ ที่ได้เป็นผู้ชมเหมือน ๆ กับทุกคน”

ผู้สื่อข่าวถามแรดคลิฟฟ์เพิ่มเติมว่า ทาง Max เคยชักชวนเขาให้มามีส่วนร่วมใน ‘Harry Potter’ ฉบับซีรีส์หรือไม่ เขาตอบเพียงสั้น ๆ แบบมีนัยบางอย่างว่า “ผมคงได้แต่ตอบคำถามแบบอ้อม ๆ และผมเองก็ไม่อยากจะทึกทักเอาเองในเรื่องนี้ด้วย”

หลังจากที่เรื่องราวของ ‘Harry Potter’ ฉบับภาพยนตร์จบบริบูรณ์อย่างสวยงามใน ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2’ (2011) ซึ่งเป็นหนังภาคสุดท้ายที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยรายได้ Box Office ทั่วโลกกว่า 1,312 ล้านเหรียญ ที่นอกจากจะทำให้ 3 นักแสดงหลักที่ร่วมแสดงกันมาตั้งแต่ภาคแรก ทั้ง แดเนียล แรดคลิฟฟ์, รูเพิร์ต กรินต์ (Rupert Grint) เจ้าของบท รอน วีสลีย์ และ เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) เจ้าของบท เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ได้แจ้งเกิดในวงการอย่างสง่างามแล้ว

จักรวาลเรื่องราวโลกเวทมนตร์ในโรงเรียนฮอกวอตส์ ยังถูกขยายพัฒนามาเป็นจักรวาลที่เรียกว่า ‘Wizarding World’ ที่ภายหลังก็มีการสานต่อเรื่องราวย้อนยุคของพ่อมดและเหล่าสรรพสัตว์ในแฟรนไชส์ ‘Fantastic Beasts’ ที่สิ้นสุดลง หลังจากที่ภาคล่าสุด ‘Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore’ (2022) ประสบความล้มเหลวด้านรายได้และคำวิจารณ์

แต่ดูเหมือนว่า Warner Bros. Discovery จะยังไม่ยอมแพ้กับจักรวาล ‘Wizarding World’ ง่าย ๆ จนกระทั่งมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าจะมีการหยิบเอาเรื่องราวของ ‘Harry Potter’ มาพัฒนาใหม่ในรูปแบบทีวีซีรีส์ จนในที่สุดเมื่อปี 2023 ก็มีข่าวประกาศออกมาว่าเป็นความจริง โดยซีรีส์นี้จะมีความยาว 7 ซีซัน เทียบเท่าตามจำนวนภาคในหนังสือ

Daniel Radcliffe Harry Potter and the Deathly Hallows - Part 1

ในฉบับซีรีส์ จะดำเนินเรื่องราวทั้ง 7 ซีซันที่จะกินระยะเวลาการออกอากาศประมาณ 10 ปี โดยจะมีการแคสติงนักแสดงชุดใหม่ทั้งหมดโดยที่ไม่ได้อิงจากฉบับหนัง และเจ้าของบทประพันธ์อย่าง เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) จะเข้ามารับหน้าที่เป็น Executive Producer ให้กับซีรีส์ด้วย

ซึ่งข่าวอัปเดตล่าสุดเผยว่า ซีรีส์ชุดนี้ยังอยู่ในกระบวนการขั้นต้น ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมผู้สร้างกำลังรับฟังไอเดียที่เสนอโดยนักเขียนบทจำนวนมาก และยังไม่ได้มีการออดิชันตัวนักแสดงแต่อย่างใด ซึ่ง เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) CEO ของ Warner Bros. Discovery เผยว่า ซีรีส์เรื่องนี้น่าจะได้ชมซีซันแรกในช่วงประมาณปี 2026 หากไม่มีอะไรผิดพลาด

การพยายามรักษาระยะห่างของแรดคลิฟฟ์ กับซีรีส์ ‘Harry Potter’ มีมาโดยตลอด เขายังคงหนักแน่นเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเปิดเผยเรื่องนี้กับ ComicBook ที่เขาหวังว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นเรื่องราวของ ‘Harry Potter’ เวอร์ชันใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉบับหนังอีกต่อไป

“สิ่งที่ผมเข้าใจก็คือ พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะเริ่มต้นใหม่ และผมก็แน่ใจว่า ใครก็ตามที่เป็นคนสร้างสิ่งเหล่านี้ก็คงต้องการจะสร้างเอกลักษณ์ของตนเองเอาไว้ และคงไม่ต้องการจะคิดหาวิธีที่จะทำให้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ แก่ ๆ มาเป็นแขกรับเชิญตรงไหนสักที่ในซีรีส์เรื่่องนี้”

“ผมไม่ได้โหยหาถึงมันเลยครับ ผมแค่หวังว่าพวกเขาจะโชคดี และผมเองก็ตื่นเต้นมากที่ได้ส่งไม้ต่อ แต่ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นจะต้องไปปรากฏแบบตัวเป็น ๆ ในนั้นหรอก”