Audi ประเทศไทย เปิดแผนยุทธศาสตร์ ยกระดับการบริการด้วยคอนเซปต์ EAP ที่จะทำให้สาวก Audi ตื่นเต้นกับบริการสุดพิเศษและขบวนรถยนต์ไฟฟ้า 100% และปลั๊กอินไฮบริดกว่า 20 รุ่น นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป โดยตัวอักษร EAP แต่ละตัวมีความหมายต่างกัน ดังนี้

E ตัวแรกย่อมาจาก Electrification หรือพลังงานไฟฟ้า ซึ่ง Audi เปิดตัว e-tron รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2019 และในปีนี้ Audi ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบ BEV และ PHEV อีก 20 รุ่นตามออกมา คิดเป็นสัดส่วน 80% ของรถยนต์ Audi ทั้งหมดภายในปี 2025 หลังจากนั้น Audi จะหยุดการผลิตรถยนต์สันดาปทั้งหมดลงในปี 2027 เป็นต้นไป เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ Net Zero หรือคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050

A ตัวอักษรต่อไปย่อมาจาก Aftersale Service ซึ่ง Audi ใช้คอนเซปต์ 7 – 10 หรือการเปิดบริการตั้งแต่เวลา 7.00 – 22.00 น. ตลอด 7 วัน เริ่มต้นปี 2024 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มจำนวนพนักงานและขยายพื้นที่คลังสินค้าอีกเท่าตัวให้เพียงพอกับการบริการลูกค้า ไปจนถึงการตั้ง EV Center แห่งแรกของไทยที่สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ ตลอดจนขยายดีลเลอร์อีก 3 แห่ง ได้แก่ โคราช, เชียงใหม่และหาดใหญ่ ภายในไตรมาสแรกของปี 2024 อีกด้วย

ตัวอักษรสุดท้ายคือ P หรือ Product หมายถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่สายพานการผลิต ซึ่งจะมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 100% และปลั๊กอินไฮบริด ทั้งหมด 20 รุ่นนี้จะเป็นรถนำเข้า CBU ในราคาจับต้องได้กว่าเดิม

ทั้งนี้ Audi ประเทศไทย ประเดิมกลยุทธ์ EAP ด้วยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Q8 e-tron และ Q8 e-tron Sportback ที่เปิดตัวในต่างประเทศไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วน Audi Q8 e-tron เป็นรุ่นต่อยอดมาจาก Audi e-tron เดิม ที่มีการเปลี่ยนชื่อรุ่นให้เข้ากับไลน์ของรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ มีให้เลือกทั้งรูปแบบเอสยูวีและ Sportback ไปจนถึงขนาดแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน

Q8 e-tron 50 quattro

สำหรับรุ่นเล็ก ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-quattro All-Wheel Drive มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 95 kWh วิ่งไกลสุด 530 กม. และ 542 กม. (ในรุ่น Sportback) ตามมาตรฐาน NEDC ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 150 kW จาก 10 – 80% ภายใน 31 นาที

Q8 e-tron 55 quattro

ในขณะที่รุ่นใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-quattro All-Wheel Drive เช่นกัน มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 114 kWh วิ่งไกลสุด 621 กม. และ 636 กม. (ในรุ่น Sportback) ตามมาตรฐาน NEDC ให้กำลังสูงสุด พละกำลัง 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 170 kW จาก 10 – 80% ภายใน 31 นาที

Audi Q8 e-tron และ Audi Q8 e-tron Sportback ราคาเริ่มต้น 4,699,000 – 5,799,000 บาท นอกจากจะมีการปรับปรุงแบตเตอรี่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพดีขึ้นแล้ว ยังเพิ่มกำลังการชาร์จไฟ AC ที่สูงขึ้นเป็น 22 kW ซึ่งรุ่น Audi Q8 e-tron Sportback จะพร้อมส่งมอบภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนรุ่น Audi Q8 e-tron จะส่งมอบได้ต้นปี 2024

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส