สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวคนวงในว่า เทสลา (Tesla) มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในราคา 25,000 ยูโร (950,000 บาท) ที่โรงงานจิกะเบอร์ลิน ซึ่งซีอีโอ อีลอน มัสก์ เคยกล่าวถึงแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในราคาไม่แพงมากมานานแล้ว แต่ในปี 2022 ก็ได้ล้มเลิกแผนนี้ไป ทั้งนี้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยและราคารถยนต์ไฟฟ้าที่สูง ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางผู้บริโภคในยุโรปและสหรัฐฯ เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงมากจะช่วยขยายตลาดได้ในวงกว้าง

แหล่งข่าวเผยว่าเดือนกันยายนที่ผ่านมา เทสลาเข้าใกล้ความสำเร็จในการหล่อส่วนล่างของรถยนต์ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดให้เป็นชิ้นเดียว ซึ่งจะช่วยเร่งการผลิตและลดต้นทุนได้อย่างมาก เมื่อพิจารณาดูแล้วมีความสอดรับกับเป้าหมายที่จะเพิ่มการส่งมอบรถยนต์เป็น 20 ล้านคันภายในปี 2030 ซึ่งหากเทสลาจะทำยอดสูงเท่านี้จำเป็นจะต้องเจาะตลาดมวลชน (Mass market) ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ข้อมูลครึ่งปีแรกของ 2023 ราคารถยนต์ไฟฟ้าในจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 31,000 ยูโร (1,180,000 บาท) แต่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเฉลี่ยมากกว่า 65,000 ยูโร (2,475,000 บาท) สรุปง่าย ๆ ว่าถ้าทำราคาได้ที่ 25,000 ยูโร ก็จะสามารถแข่งขันกับจีนและบุกตลาดมวลชนได้

วันศุกร์ที่ผ่านมา มัสก์ได้เข้าเยี่ยมชมจิกะเบอร์ลิน และได้ขอบคุณพนักงานสำหรับการทำงานหนัก ในวันเดียวกันก็ได้มีการประชุมกับทีมงานถึงแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในราคา 25,000 ยูโร โดยจะเพิ่มการผลิตเป็น 2 เท่า เป็น 1,000,000 คันต่อปี ซึ่งเดิมทีตั้งแต่เดือนมีนาคมโรงงานแห่งนี้ผลิตรถยนต์ได้ 5,000 คันต่อสัปดาห์หรือประมาณ 250,000 คันต่อปี และเป็นแหล่งผลิต Model Y ที่ขายดีที่สุดในยุโรป

ที่มา : reuters.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส