เรียกได้ว่าในปัจจุบันแหล่งแร่ลิเทียมนั้นเป็นทรัพยากรที่มีทั่วโลกนั้นต่างเฟ้นหาเพื่อนำมาผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถือว่าเป็นข่าวดีของประเทศไทยได้เลย! รัฐบาลไทยเผยพบแหล่งแร่ลิเทียม-โซเดียมขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางผลิตแบตเตอรี่ EV ภูมิภาค

เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา นางรัดเกล้า อินทวงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ทำการสำรวจ และพบแหล่งแร่ลิเทียมที่มีศักยภาพจำนวน 2 แหล่งได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติ และแหล่งบางอีตุ้มในพื้นที่จังหวัดพังงารวมกว่า 14.8 ล้านตัน (Million Tonne: Mt) ทำให้ประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลกเป็นรองจากประเทศโบลิเวีย และอาร์เจนตินา

นอกจากพบแหล่งแร่ขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพังงากระทรวงอุตสาหกรรมก็ยังค้นพบแหล่งแร่โซเดียมปริมาณสำรองในพื้นที่ภาคอีสานอีกด้วย ซึ่งแร่ลิเทียม และโซเดียมทั้ง 2 นี้ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทั่วโลกต่างต้องการ

จากข้อมูลของโฆษกรัฐบาลยังได้เปิดเผยว่าความต้องการของแร่ลิเทียมของทั่วโลกนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าภายในปี 2568 และต้องการเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ล้านตันภายในปี 2573

กระทรวงอุตสาหกรรมชี้ความเข้าใจคลาดเคลื่อน

เพิ่มเติมข้อมูลจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ระบุว่า กรมได้ออกใบอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษจำนวน 3 แปลงเพื่อสำรวจแหล่งแร่ลิเทียมในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่าจังหวัดพังงาได้พบ หินอัคนีเนื้อหยาบมากสีขาว หรือหินเพกมาไทต์ที่เป็นหินต้นกำเนิดแร่เลพิโดไลต์สีม่วง ซึ่งแร่นี้เป็นองค์ประกอบของลิเทียมตกผลึกที่กลายเป็นแหล่งแร่ลิเทียมที่มีศักยภาพ 2 แหล่งได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติมีปริมาณสำรองประมาณ 14.8 ล้านตัน คิดเป็นเกรดแร่ลิเทียมออกไซด์เฉลี่ยทั้งหมด 0.45% และแหล่งบางอีตุ้มยังอยู่ในช่วงประเมิน

โดยปริมาณของแร่เบื้องต้นนี้สามารถนำไปผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาด 50kWh ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน

ทางด้าน ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ก็ได้โพสต์แสดงความคิดบน Facebook ส่วนตัวว่า จากปริมาณแหล่งแร่ลิเทียมล่าสุดในประเทศไทยนั้นหากคำนวณ 0.45% ของเกรดแร่ลิเทียมออกไซด์ในแหล่งเรืองเกียรติจะมีแร่ลิเทียมเพียงแค่ประมาณ 66,600 ตันเท่านั้นเอง ซึ่งจากตัวเลขปริมาณแร่นั้นไทยก็อาจจะไม่ใช่อันดับที่ 3 ของโลก เพราะข้อมูลของปริมาณแร่ในประเทศต่าง ๆ คิดคำนวณจากการถลุงแร่ลิเทียมออกมาจริง ๆ

5 อันดับประเทศที่มีแหล่งแร่ลิเทียมมากที่สุดในโลก

  1. โบลิเวีย 21 ล้านตัน
  2. อาร์เจนตินา : 20 ล้านตัน
  3. ชิลี : 11 ล้านตัน
  4. ออสเตรเลีย : 7.9 ล้านตัน
  5. จีน : 6.8 ล้านตัน

ต่อมาเรื่องของค้นพบของแหล่งแร่โซเดียมสำรองในภาคอีสานนั้นก็จะเป็นผลดีมากสำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่อาจจะมีราคาถูกขึ้นเพราะ แบตเตอรี่ชนิดโซเดียมไอออนนั้นมีต้นทุนที่ถูกกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในสเกลเท่ากันถึง 30-40% เลยทีเดียว และแบตเตอรี่ชนิดนี้ก็มีความปลอดภัยที่สูงกว่าอีกด้วย

ในปัจจุบันก็เริ่มมีหน่วยงานที่กำลังวิจัยแบตเตอรี่โซเดียมไอออนก็คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้เริ่มวิจัย และผลิตมาตั้งแต่ปี 2565 โดยใช้แหล่งทรัพยากรผลิตแบตเตอรี่ในภูมิภาค และปริมาณสำรองของภาคอีสานมากถึง 18 ล้านล้านตัน ซึ่งโครงการวิจัยผลิตนี้ประเทศไทยก็เป็นประเทศแรกที่ทำสำเร็จในภูมิภาคอาเซียน

แร่ลิเทียมในปัจจุบันนั้นถูกนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมายเช่น แบตเตอรี่รถยนต์ BEV, HEV และอื่นๆ, แบตเตอรี่สมาร์ตโฟน, แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานกริดจากการผลิตพลังงานไฟฟ้า, แก้ว-เซรามิก, จาระบี, ยารักษาโรค และอื่น ๆ

ซึ่งผลผลิตจากแบตเตอรี่ทั้งหมดนี้ก็ต้องแลกจากการทำเหมืองแร่ที่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามมามากมายเช่น แหล่งน้ำในพื้นที่แห้งแล้งเนื่องจากต้องมีการสูบน้ำบาดาลเพื่อดึงแร่ธาตุโซเดียมออกมา, มีสารเคมีกรดซัลฟิวริก หรือโซเดียมไฮดรอไซด์ปนเปื้อนในดิน และน้ำใต้ดินที่คนในพื้นที่ไม่สามารถนำมาอุปโภค-บริโภคได้

ที่มา : Thaigov, World Population Review, KKU, Mining Technology, กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่, Facebook Jessada Denduangboripant, USGS

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส