JATO Dynamics บริษัทข่าวกรองด้านยานยนต์ได้รายงานข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในยุโรปจาก 28 ประเทศของเดือนเมษายน ซึ่งระบุว่า BYD ผู้ผลิตรถยนต์ของจีน มียอดขายรถยนต์ในยุโรปเพิ่มขึ้น 359% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว รวมทั้งมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 7,231 คัน เพิ่มขึ้น 169% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และสามารถแซงหน้าคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Tesla ที่มียอดขาย 7,165 คัน ได้เป็นครั้งแรก ทั้งที่ BYD เจอภาษีรถยนต์ BEV ที่ผลิตในจีนมากกว่าด้วย

การเอาชนะ Tesla ของ BYD เกิดขึ้นเนื่องจาก Tesla มียอดขายลดลงอีกครั้งในเดือนเมษายน ซึ่งลดลงมา 49% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุมาจากกระแสการประท้วงต่อต้านซีอีโอ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และบริษัท Tesla ในยุโรปเช่นเดียวกับในสหรัฐฯ หลังจากมัสก์รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงาน DOGE ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) รวมทั้งความแข็งแกร่งจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ BYD ทั้งที่ถูกสหภาพยุโรปขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่ผลิตในจีนเมื่อเดือนตุลาคม เพื่อตอบโต้การอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน 

บริษัทรถยนต์ที่ผลิตรถยนต์ในจีนโดนขึ้นภาษีนำเข้าในยุโรปกันทั่วหน้า ซึ่ง Tesla ถูกเรียกเก็บ 7.8% ส่วน BYD ถูกเรียกเก็บ 17%, Geely 18.8% และ SAIC 35.5% รวมทั้งยังมีภาษีนำเข้ามาตรฐาน 10%

นักวิเคราะห์ของ JATO เผยว่า BYD มียอดขายมากกว่า Tesla ค่อนข้างเล็กน้อยแค่ 66 คัน แต่ก็มีผลกระทบที่มหาศาล ซึ่งสามารถเอาชนะ Tesla ผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายุโรปมายาวนาน แต่ BYD พึ่งเข้าสู่ตลาดยุโรปเมื่อปี 2022 นี่เอง นอกจากนี้ BYD ยังมียอดขายชนะแบรนด์ดั้งเดิมในยุโรปอย่าง Fiat และ Seat ในฝรั่งเศสอีกด้วย

จีนไม่ได้เป็นผู้นำระดับโลกเพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำด้านรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอีกด้วย ซึ่งการบุกตลาดยุโรปของ BYD ก็มีข้อดีตรงที่ยุโรปไม่ได้ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด แถมความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้น 31% ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรปยังไม่สูงมากพอ ที่จะทำให้ตลาดยุโรปไม่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากจีน ถ้าให้ดีต้องเก็บภาษีถึง 55%

เดือนมีนาคม 2025 Tesla ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ซึ่งมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่รวมทั้งปีน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ (NEV) ของ BYD โดยรวมยอดขายทั้งรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จึงบ่งบอกว่าความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกของ Tesla กำลังถูกแทนที่โดย BYD