BYD ได้ประกาศว่า Yangwang U9 Track Edition ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 472.41 กม./ชั่วโมง ซึ่งเป็นการสร้างสถิติความเร็วใหม่สำหรับรถ EV ในจีน

การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญสำหรับ Yangwang U9 หลังจากที่เคยสร้างสถิติความเร็วรถ EV ในจีนได้ที่ 391.94 กม./ชั่วโมง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยสถิติล่าสุดนี้ถือเป็นการเพิ่มความเร็วขึ้นถึง 20.53%

ที่ความเร็ว 472.41 กม./ชม. ทำให้ Yangwang U9 กลายเป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก (ที่นับเฉพาะรถ EV เท่านั้น)​ และยังทำความเร็วเกาะกลุ่มรถไฮเปอร์คาร์ชั้นนำของโลก ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป อย่าง 

  • Koenigsegg Jesko Absolut จะทำความเร็วได้ถึง 531 กม./ชม.
  • Bugatti Chiron Super Sport 300+ ทำได้ 490 กม./ชม.
  • SSC Tuatara ที่ทำสถิติไว้ที่ 474.8 กม./ชม. 

จากสถิติจะเห็นว่าความเร็วของ Yangwang U9 Track Edition ก็ถือว่าใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปสมรรถนะสูง

สิ่งที่ทำให้ความสำเร็จนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นคือความแตกต่างด้านราคา รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ระดับท็อปที่กล่าวมามักมีราคาสูงกว่า 10 ล้านหยวน (ประมาณ 50 ล้านบาท) และบางรุ่นอาจสูงถึง 30 ล้านหยวน (ประมาณ 150 ล้านบาท) ในขณะที่ Yangwang U9 Track Edition ซึ่งเป็นรถ EV ระดับพรีเมียมเช่นกัน แต่มีราคาอยู่ที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท) เท่านั้น

ตามรายงานจากสื่อจีน Sanyan Tech รถ EV อย่าง Yangwang U9 Track Edition คันแรกถูกส่งมอบเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมปีที่แล้ว และตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีการส่งมอบไปแล้วทั้งหมด 149 คัน ทำให้เป็นซูเปอร์คาร์จีนรุ่นแรกที่มียอดส่งมอบเกินร้อยคันเลยทีเดียว

และแน่นอนว่า Yangwang U9 Track Edition คือรถ EV ไฟฟ้าที่ถูกวางขายและวิ่งบนถนนได้ที่เร็วที่สุดของจีน แต่ถ้านับรถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก ก็ยังเป็นสถิติของ Venturi Buckeye Bullet 3 ซึ่งสร้างโดยทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ohio State University แต่เป็นรถ EV เฉพาะทาง ที่สร้างมาเพื่อวิ่งทดสอบอย่างเดียว ไม่ใช่รถที่วางขาย 

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยระบุว่า “ทีมนักศึกษา Venturi Buckeye Bullet 3 จากมหาวิทยาลัย Ohio State University และนักขับ Roger Schroer ได้ร่วมกันผลักดันรถ EVไฟฟ้าคันนี้ให้ทำความเร็วเฉลี่ยสองทิศทางได้สูงสุดถึง 341.4 ไมล์ต่อชั่วโมง (549.4 กม./ต่อชั่วโมง) เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2016”

สถิติใหม่ของ Yangwang U9 Track Edition ไม่เพียงสะท้อนถึงสมรรถนะที่ทัดเทียมกับซูเปอร์คาร์ระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีน อีกทั้งยังมาพร้อมกับความคุ้มค่า จนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดโลก และเป็นเครื่องยืนยันว่าจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญที่พร้อมแข่งขันในระดับแนวหน้าแล้ว