เทสลา (Tesla) ได้ปรับขึ้นราคารถยนต์ซีดานไฟฟ้าสุดหรูรุ่น Model S Long Range จากราคาก่อนหน้า 84,990 เหรียญ (2,816,99 บาท) เพิ่มขึ้นอีก 5,000 เหรียญ (165,750 บาท) เป็น 89,990 บาท เหรียญ (2,982,718 บาท) และผู้ซื้อในสหรัฐฯ จะต้องจ่ายค่าจัดส่งอีก 1,200 เหรียญ (39,768 บาท) รวมแล้วต้องจ่ายทั้งหมด 91,190 เหรียญ (3,022,036 บาท)

ลูกค้าของเทสลาคงจะงงว่าขึ้นราคาอีกแล้วเหรอนี่ เพราะเดือนที่ผ่านมาเทสลาพึ่งได้ขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้าสุดหรู Model S Long Range จากราคาก่อนหน้า 79,990 เหรียญ (2,647,109 บาท) เพิ่มขึ้นอีก 5,000 เหรียญ (165,750 บาท) เป็น 84,990 เหรียญ (2,816,99 บาท) และได้เพิ่มราคา Model X ขึ้น 5,000 เหรียญด้วยเช่นกัน

เดือนที่ผ่านมาเทสลาก็ได้ปรับขึ้นราคา Model S Plaid ก่อนเปิดงานส่งมอบเป็น 129,900 เหรียญ (4,045,995 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นมาถึง 10,000 เหรียญ (311,500 บาท) หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกแผนการผลิตรถยนต์ซีดานไฟฟ้าสุดหรูตัวท็อป Tesla Model S Plaid Plus โดยให้เหตุผลว่าแค่รุ่น Model S Plaid ก็ดีเพียงพอแล้ว ซึ่งไม่แปลกที่ Model S Plaid ได้ขยับมาเป็นตัวท็อปแล้วอยู่ที่ราคานี้เพราะตอนเปิดตัวเคยตั้งราคาไว้ที่ 139,000 เหรียญ (4,329,989 บาท) ด้วยซ้ำไป

เทสลาไม่ได้เปิดเผยเหตุผลการปรับขึ้นราคาของ Model S Long Range ในครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของเทสลาได้เผยเหตุผลในการปรับขึ้นราคาของรถยนต์รุ่นยอดนิยม Model 3 และ Model Y เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแรงกดดันด้านราคาในห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญทั่วทั้งอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์โดยเฉพาะวัตถุดิบ หรือสรุปง่าย ๆ ว่าเพราะการขาดแคลนวัตถุดิบในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด – 19

นอกจากปรับขึ้นราคาแล้วผู้ซื้อจะต้องรอรับรถยนต์ Model S Long Range ในระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน 2022 ส่วน Model S Plaid จะต้องรอรับระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2022

ที่มา : cnet.com