BT beartai ชวนไปดูความเร้าใจที่ทรงพลังของยนตรกรรมสปอร์ตแบบไฟฟ้าจาก Porsche โดยในงานนี้ได้ใช้ Porsche Macan ใหม่แบบไฟฟ้าล้วน ๆ บนเส้นทางทดสอบ กรุงเทพฯ-ระยอง ที่มีระยะทางมากกว่า 450 กิโลเมตร เพื่อพิสูจน์ว่านี่คือรถ EV ที่ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่เทคโนโลยี แต่ทุกอณูยังคงเต็มไปด้วยความสปอร์ตแบบ Porsche อย่างแท้จริง

4 สัมผัสเด่นจาก Macan Electric

  • สัมผัสแรกที่ BT beartai สัมผัสได้คือ Performance สายพันธุ์สปอร์ตแท้ที่หาได้ยากจากยานยนต์ไฟฟ้าอื่น ด้วยแรงบิดอันมหาศาลที่มาเต็มตั้งแต่กดคันเร่ง รวมไปถึงการเร่งแซงที่มั่นใจได้ในทุกช่วงความเร็ว เสมือนการขับรถไฟฟ้า แต่ก็ได้ความเร้าใจแบบรถเครื่องยนต์สันดาป ที่สำคัญคือการตอบสนองที่ทำได้ดีมากในทุกช่วงจังหวะของการขับขี่ เรียกได้ว่ามาเต็มและต่อเนื่องจริง ๆ
  • สัมผัสที่สอง Technology อันชาญฉลาด ด้วยความที่ Macan Electric ได้เลือกใช้แพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE) และระบบชาร์จเร็วที่เหนือระดับ (800V architecture) ทำให้หมดความกังวลเรื่องของระยะทางในการขับขี่ เพราะด้วยความสนุกสนานของการขับขี่ เมื่อคุณเผลอเร่งอย่างต่อเนื่องจนแบตฯ ใกล้หมด ก็สามารถแวะชาร์จได้ ซึ่งสามารถชาร์จจาก 10% ไปจนถึง 80% โดยใช้เวลาเพียงแค่ 21 นาทีเท่านั้น

    ถือว่าเป็นการแก้ Pain Point ของรถ EV ทั่วไป และทำให้การเดินทางไกลของยานยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องต้องกังวลอีกต่อไป โดย Macan Electric ใหม่มีประสิทธิภาพในการชาร์จเร็วสูงถึง 270 กิโลวัตต์ จึงถือว่าเป็นยุคใหม่ของ EV อย่างแท้จริง
  • สัมผัสที่สาม Experience ที่เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับ คงจะพูดได้ว่า หายากที่จะให้ความรู้สึกนี้กับยานยนต์แบบไฟฟ้าอื่น เพราะ Macan Electric ได้ผสมผสานความรู้สึกของผู้ขับเข้าไปกับตัวรถจนเป็นหนึ่งเดียว ทั้งเรื่องของการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำ ตอบสนองได้แบบฉับไว ช่วงล่างถุงลมที่ให้ความแน่น หนึบ และสามารถปรับตัวไปตามเส้นทางการขับขี่ จนทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในสนามแข่งขัน จึงยากที่ค่ายรถอื่นจะทำได้
  • สัมผัสที่สี่ DNA Porsche ที่ชัดเจน ด้วยดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกที่คงเอกลักษณ์จาก Stuttgart ทำให้ภายนอกยังดูเป็น Sport SUV ที่ดูดุดัน สุขุม และเฉียบคมในทุก ๆ อณู ตั้งแต่ด้านหน้าไปจรดท้าย ทำให้ดูสปอร์ตทรงพลัง โดย Macan Electric ใหม่มีความยาว 4,784 มิลลิเมตร กว้าง 1,938 มิลลิเมตร และสูง 1,623 มิลลิเมตร ทำให้มีตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน

    ส่วนของไฟหน้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ชุดไฟเดย์ไลต์แบบ 4 จุด ฝังอยู่ในปีก ช่วยเน้นความกว้างของตัวรถ โมดูลไฟหน้าหลักพร้อมเทคโนโลยี LED เมทริกซ์ที่เป็นอุปกรณ์เสริม จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงเล็กน้อยที่ด้านหน้า เส้นสายหลังคาแบบ Porsche Flyline ผสานเข้ากับกระจกหลังแบบราบเรียบ เมื่อผสานกับประตูไร้ขอบและเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ของ Macan จึงทำให้ตัวรถดูเรียบหรูและสปอร์ต บั้นท้ายรถโดดเด่นด้วยเส้นสายที่แข็งแรง

    สำหรับห้องโดยสารภายใน Macan ถูกออกแบบให้สัมผัสได้ถึงความเป็น Porsche ที่ชัดเจน แต่ดูมีความทันสมัยมากขึ้น โดยตัวชุดคอนโซลยังคงเน้นตัวผู้ขับเป็นศูนย์กลาง มีจอสัมผัสแบบดิจิทัลตรงกลางขนาด 10.9 นิ้ว และมีหน้าปัดแบบโค้งอันโดดเด่นขนาด 12.6 นิ้ว อีกด้วย

    ซึ่งทางวิศวกรออกแบบได้บอกกับเราว่า Porsche ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในบางส่วนของห้องโดยสารของ Macan ไฟฟ้ารุ่นนี้ นอกจากนั้น ยังเป็นครั้งแรกที่ Porsche นำเสนอการแสดงผลภาพบนกระจกหน้ารถ (Head-up Display) ที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เป็นครั้งแรก โดยสามารถแสดงข้อมูลเสมือนจริง เช่น ลูกศรนำทาง ซ้อนทับกับภาพจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยภาพจะปรากฏขึ้นที่ระยะห่าง 10 เมตรจากผู้ขับขี่ โดยทั้งหมดนี้คือ Porsche Driver Experience แนวคิดเพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจแก่ผู้ขับขี่

** ข้อมูลเสริม มาคันน์ (Macan) รุ่นแรกที่ติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลังและช่วงล่างแบบวาล์วคู่ เป็นครั้งแรกที่ Porsche ได้ใส่ระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เป็นอุปกรณ์เสริมให้สามารถเลือกติดตั้งได้ โดยมีมุมบังคับเลี้ยวสูงสุด 5 องศา ที่ช่วยให้รถยนต์สามารถเลี้ยวกลับรถได้ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 11.1 เมตร

ซึ่งขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความเสถียรในการขับขี่ที่ความเร็วสูง และทำงานสัมพันธ์กันกับระบบเลี้ยวล้อหน้า มาคันน์ 4 และมาคันน์ เทอร์โบ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ Porsche Traction Management (ePTM) สามารถกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังได้เร็วกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเดิมถึง 5 เท่า และสามารถตอบสนองต่อการลื่นไถลได้ภายใน 10 มิลลิวินาที

นอกจากนี้ ระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ความเสถียร และการควบคุมตัวรถได้อย่าง แม่นยำ และยังมีช่วงล่างแบบถุงลมที่มาพร้อมกับระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งเป็นช่วงล่างที่สามารถปรับเลเวลความนุ่มนวลได้ โดยใช้ระบบไฟฟ้าควบคุม

ระบบ PASM ใหม่ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของระบบช่วงล่างแบบ 2 วาล์ว ที่มอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถมอบความนุ่มนวล รวมถึงการแสดงสมรรถนะในการยึดเกาะกับพื้นผิวถนน ระบบนี้จะทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสการตอบสนองของช่วงล่างในแต่ละโหมดการขับขี่ได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าเคย