ล่าสุดวงบริทร็อคชื่อดังจากประเทศอังกฤษที่เพิ่งมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในเมืองไทยไปสดๆร้อนๆอย่าง Coldplay ก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดออกมา โดยซิงเกิลใหม่นี้มีชื่อว่า "All I Can Think About Is You" ซึ่งจะถูกบรรจุไว้ใน Kaleidoscope EP ที่จะปล่อยให้ฟังแบบดิจิตอลดาวน์โหลดในวันที่ 14 กรกฎาคมที่จะถึงนี้  ส่วนซีดีและไวนิล ต้องรอถึงวันที่ 4 สิงหาคม https://www.youtube.com/watch?v=KnLNG0WnGsI ตัวเพลงที่ปล่อยมาในตอนนี้เป็น Lyric Video กำกับโดย I saw john first ทำออกมาเป็นแอนิเมชั่นได้สวยงามมาก เราเห็นภาพตั้งแต่เซลส์ที่ก่อตัวกลายเป็นสัตว์จากนั้นเป็นมนุษย์ก่อนที่ท้ายสุดจะพาเราไปสู่อวกาศกันเลยทีเดียว เรียกว่าเริ่มจากจุดเล็กสุดไปสู่สิ่งกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต  เสียงเพลงเปิดมาด้วยเสียงเบสหนึบๆของกาย เบอร์รีแมน ที่คลอไปกับจังหวะกลองแน่นๆของ วิล แชมเปี้ยน ก่อนที่เสียงกีตาร์ใสๆลอยๆของจอนนี่ บัคแลนด์จะแซมเข้ามา ต่อด้วยเสียงร้องพาล่องลอยของคริส มาร์ตินเพลงยังคงมีกลิ่นอายของ Coldplay ในสไตล์ที่สืบต่อจากงานชิ้นก่อนๆ เพลงนี้ให้ความรู้สึกกลางๆไม่เศร้า และก็ไม่ชวนโยกใดๆ ไปเรื่อย แต่ดีงามตรงที่ค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นของอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพีค ภาพก็พาเราออกไปนอกโลกสู่อวกาศอันมีสีสัน สอดคล้องกับท่วงทำนองของเพลง ท่ามกลางเนื้อหาที่บรรยายถึงความวุ่นวาย และปัญหาที่รายล้อม แต่ไม่ว่าชีวิตมันจะวุ่นวายแค่ไหน จะแก้ไขได้หรือไม่ได้ สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ในเวลานี้ก็คือ "คิดถึงคุณ"…

เชื่อว่าหลายคนคงมีอารมณ์แบบดูเอ็มวีแล้วประทับใจพระเอก-นางเอกในเอ็มวีจัง แต่ทว่าเอ็มวีไม่เหมือนหนังเหมือนละครที่จะคอยดูชื่อนักแสดงตอนเครดิตวิ่งเอาไว้ติดตามข่าวต่อได้ง่าย ๆ  ถ้าโดนใจคนไหนก็ต้องใช้ความพยายามตามหาตัวตนของพวกเธอกันเอาเอง วันนี้ WTF ขอนำท่านสู่วาร์ปนางเอกเอ็มวีที่น่ารักสุด ๆ ในช่วงนี้ เอาไว้กดฟอลโลว์ติดตามให้สบายตาชุ่มฉ่ำหัวใจไม่ต้องหัวร้อนตามหาเอาเองกันเลย THE TOYS - จดหมาย น่าจะเป็นปีทองของศิลปินอย่าง ทอย ธันวา บุญสูงเนิน ลูกชายของนักร้องมากคุณภาพ นิตยา บุญสูงเนิน เพราะเพลงหน้าหนาวที่แล้วดังกระหึ่มทั่วบ้านทั่วเมืองทีเดียว ส่วนเพลงจดหมายนี้ก็ไม่ธรรมดาอีกเช่นกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคงเป็นภาพบรรยากาศห้วงอารมณ์ปริศนาระหว่างสองเพื่อนสาวนักศึกษาที่ชวนให้หลงใหลเคลิบเคลิ้มเสียเหลือเกิน และเราก็ตามหาเจอว่าทั้งสองคนนี้ก็คือ ฟ้า เพียงฟ้า กล้าผจญ สาวการบินหน้าหวานและ มีนา นักเรียนลูกครึ่งเกาหลีห้าวซ่าแต่เซ็กซี่ ที่ต่างคนก็ต่างสไตล์แต่ก็สวยสะดุดหยุดสายตาจริง ๆ ฟ้า ig: fahdabble มีนา ig: Mena_jng Room 39 - เป็นทุกอย่าง เอ็มวีไตรภาคของ Room 39 ที่มาถึงตอนสุดท้ายกับเรื่องราวแอบรักเพื่อนต่อเนื่องมาจากเพลง ความจริง และ อย่าให้ฉันคิด ก็มาถึงตอนจบสุดท้ายที่กลายเป็นที่กล่าวขานตำนานความนกของนางเอกเอ็มวีในที่สุด และสาวนกคนนั้นตัวจริงก็คือ แนน (Nan Whale) ซึ่งเป็นปริศนาเสียเหลือเกินว่าเธอคือใครกันแน่ เรารู้แค่เพียงเธอเป็นบัณฑิตจบใหม่หมาด ๆ จากรั่วธุรกิจบัณฑิตเท่านั้นเอง บางคนขนานนามให้เธอคือ งักกี้ อารางากิ ยูอิ เมืองไทยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าอันนี้ใครสนใจก็ลองไปตามได้…

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เต๋อ นวพล  ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับขวัญใจเด็กแนว ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คของตนว่า หลังจากนั้น  เต๋อ ก็โพสต์บทเพลงจากอัลบั้มทั้ง 2 และมิวสิควีดิโอจากเกิร์ล (มหา)กรุ๊ป AKB48 ตามลำดับ โดยมี keyword ในแต่ละโพสต์คือ การให้อภัย . , rainbow . และ  crying lightning .  ด้วยความสงสัย เราก็เลยเกิดความอยากรู้ว่า 2 อัลบั้ม 1 บทเพลงนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานภาพยนตร์เรื่องนี้ของเต๋อ ได้อย่างไร  บทความนี้เราก็เลยจะพาไปสำรวจตรวจสอบดูว่า 2 อัลบั้ม 1 บทเพลงนี้เป็นเช่นไร มีความดีงามอย่างไร แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับโปรเจ็คส์ Die Tomorrow นี้กันก่อนดีกว่า Die Tomorrow เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวลำดับที่ 5 ของ เต๋อ นวพล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3…

วันที่ 15 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ภาพยนตร์เรื่อง KISEKI Sobito of that day หรือในชื่อไทยคือ 4 ทันตะ หัวใจดนตรี จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของวงดนตรีวงหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยหน้าตามาเป็นเวลากว่า 10 ปี!!!

 "เมื่ออดีตและความทรงจําถูกปะติดปะต่อกับปัจจุบัน"  หลังจากที่ Greasy Cafe หรือ เล็ก-อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร ทิ้งช่วงห่างจากอัลบั้มที่แล้ว The Journey without Maps มาเป็นเวลากว่า 5 ปี ล่าสุดเขากลับมาอีกครั้งพร้อม “ปะติดปะต่อ”  ซิงเกิลแรกจากสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ที่ใช้ชื่อว่า Technicolor “ปะติดปะต่อ” มาพร้อมกับสำเนียงแฝงแววหม่นเศร้าแต่ลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Greasy Cafe  ซึ่งทำหน้าที่แต่งคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงดนตรีด้วยตนเอง ส่วนสิ่งที่เป็นทิศทางใหม่ในงานเพลงของ Greasy Cafe ก็คือท่วงทำนองของเพลงที่มีการใช้เสียงสังเคราะห์จากซินธิไซเซอร์และเสียงแอมเบียนต์เป็นหลัก สะท้อนห้วงอารมณ์แห่งความสับสนวุ่นวายภายในจิตใจ โดยลดบทบาทของเครื่องดนตรีสดชิ้นอื่นๆไป ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากงานเพลงเก่าๆที่มีความเข้มข้นในสัดส่วนของภาคดนตรีอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจและน่าจับตามองต่อไปว่าเพลงที่เหลือในอัลบั้ม Technicolor นั้นจะเป็นอย่างไร ถ้าหากความทรงจำต้องการเก็บเราในนั้น ก็จงอย่าปล่อยให้มันมารบกวนปัจจุบันได้หรือเปล่า เนื้อหาของบทเพลง ถ่ายทอดห้วงอารมณ์ของความสับสนในชีวิตของคน ในเวลาที่เราได้พบกับการเปลี่ยนแปลงและพยายามที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แต่หลายครั้งเรากลับพบว่ามันเหมือนกับเรากำลังเดินถอยหลังกลับไปยังอดีต คนบางคนเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อตามหาสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่กับบางคนก็อาจเลือกที่จะเดินทางกลับสู่อดีตเพื่อซึมซับมันใหม่อีกครั้ง สิ่งที่เราตามหาอยู่นั้นเป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต หรือมันยังคงเป็นเรื่องราว ความทรงจำเก่าๆ ที่เรายังคงหยิบมาบอกเล่าใหม่ที่บางส่วนใน วันนั้นอาจยังแอบอาศัยอยู่ในวันนี้ การ 'ปะติดปะต่อ' เรื่องราว…

เพิ่งแนะนำกันไปกับเพลงใหม่ของ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข กับเอ็มวีที่เป็นผลงานของทีม Hello Filmmaker ที่เคยมีผลงานเด่น ๆ มาแล้วทั้งงานเอ็มวี งานไวรัล งานหนังสั้น งานโฆษณา และยังเป็นการกลับมาร่วมงานกับแสตมป์อีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้เคยทำเอ็มวีเพลง ให้ตายสิพับผ่า กันมาแล้ว ความน่าสนใจของเอ็มวีใหม่นี้คงเป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่า พลังของสิ่งที่มองไม่เห็น และสัญญะต่าง ๆ ที่สอดแทรกตลอดการเล่าเรื่อง วันนี้ WTF เลยเอาสัญญะที่เห็นมาตีแผ่แบบสุดสยิวกัน https://www.youtube.com/watch?v=99ux7N2JZ8c การปรากฏตัวของ ทู สิราษฏร์ อินทรโชติ พระเอกจากหนังสั้น The Only One ที่น่าจะเป็นภาพจำหนึ่งของทีม Hello Filmmaker ก็มาเป็นคามิโอ แสดงลายเซ็นของทีมงานนั่นเอง นอกจากนี้การจ้องมองยังถูกเอามาใช้อย่างต่อเนื่องในเอ็มวีนี้ ก็เป็นการแสดงนัยยะทางเพศที่กระทำต่อเพศตรงข้ามด้วย นางเอกปรากฏตัวในชุดสีแดง ที่ใคร ๆ ต้องเหลียวมองในความสวย สีแดงในหนังยังถูกใช้เพื่อแสดงถึงความดึงดูดทางเพศ ความรัก ความลุ่มหลง แล้วยังหมายถึงความอันตรายได้อีกด้วย ผู้ชายที่สะดุดบันไดเลื่อนขณะเลื่อนขึ้น แสดงถึงการเจริญขึ้นด้วยปัญญาแต่ก็ต้องถูกขัดขวางด้วยอุปสรรค ผู้ชายที่นั่งเล่นมือถือตรงบันไดก็เช่นกัน แสดงถึงความสวยงามของเธอนั้นสามารถดึงความสนใจไปจากมือถือที่คนปัจจุบันสนใจมากที่สุด จนเกิดเป็นสังคมก้มหน้าได้ด้วย แสตมป์นั่งมองดูมอนิเตอร์ ถึงกับตะลึงมอง ตรงนี้มุมกล้องเลือกพยายามซ่อนแหวนแต่งงานที่มือซ้ายด้วย อืม...ไม่เอา ๆ อย่าแปลเลย เดี๋ยวพี่แสตมป์จะมีปัญหาครอบครัว 555 แต่สแตมป์ก็เป็นตัวแทนของคนมีครอบครัวที่เป็นแฟมิลี่แมนได้ด้วยล่ะนะ แกฟเฟอร์…

The Devil เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มภาษาอังกฤษของแสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ที่เพิ่งปล่อยออกมาแบบสดๆร้อนๆ เป็นบทเพลงที่มีความน่าสนใจทั้งในตัวเพลงเองและในมิวสิควีดิโอ ในส่วนของบทเพลงนั้นบรรเลงด้วยกีตาร์อะคูสติกเคล้าคลอไปด้วยเสียงเครื่องสายอันประกอบไปด้วยไวโอลิน วิโอลาและเชลโลช่วยขับกล่อมห้วงอารมณ์ละมุนดั่งต้องมนต์ ผนวกกับเสียงร้องเบาสบายจากแสตมป์ยิ่งทำให้บทเพลงนี้ชวนหลงไหลยิ่งนัก อีกทั้งยังได้ คริสโตเฟอร์ ชู (Christopher Chu) ฟรอนท์แมนแห่งวงอินดี้ร็อค POP ETC มาเป็นคนโปรดิวซ์ให้ โดยแสตมป์ได้กล่าวว่า ซิงเกิลก่อนหน้านี้คือ Don’t You Go นั้นเปรียบเหมือนกับการรวมร่างของแสตมป์  นะ Polycat และคริส ในสไตล์ของการทำเพลงในยุคปัจจุบันของคริสที่มีความเท่ เก๋ และโมเดิร์น ส่วน The Devil นั้นเป็นการรวมร่างกันของแสตมป์กับคริสในสมัยที่ยังเป็นวง The Morning Benders ที่เรียบง่าย จริงใจ แต่งดงามน้ำตาไหล เนื้อหาของเพลงเพลงนี้ พูดถึงเสน่ห์ของหญิงสาวที่สวยระดับนางฟ้าคงไม่พอ ต้องสวยระดับ “ปีศาจ” ซึ่งถ้าหากปีศาจเป็นแบบเธอ มีรูปร่างแบบเธอ ยิ้มแบบเธอ ให้ความรู้สึกแบบเธอ และหากความมืดมิดเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ฉันได้อยู่ใกล้เธอ ฉันจะติดตามเธอไป (โอ้ว) “ Does every…

Long Gone เป็นเพลงล่าสุดจากอัลบั้ม Manchild อัลบั้มแรกในชีวิตของหนุ่มโฟล์คหน้ามน คนมากความสามารถ "ภูมิ วิภูริศ (Phum Viphurit)" ที่ถูกนำมาทำเป็น Official Music Video โดยเพลงนี้ ภูมิได้เขียนขึ้นในขณะที่กำลังเล่นอยู่กับเอฟเฟคลูปเปอร์บนมัลติเอฟเฟคกีตาร์ของเขา โดยท่วงทำนองของเพลงนี้เป็นเพลงที่สนุกสนาน ชวนขยับแข้งขยับขา บนสไตล์ของอัลเทอเนทีฟโฟล์คที่มีท่วงทำนองอันงดงาม ท่ามกลางเสียงร้องอันมีเสน่ห์ของภูมิ ที่ยากจะหาใครเหมือนได้ โดย Long Gone ถือว่าเป็นเพลงที่แตกต่างจากแทร็คอื่นในอัลบั้มอยู่พอสมควร เพราะมีการใช้เสียงสังเคราะห์และเพอร์คัสชั่นในรูปแบบต่างๆ เข้ามาเป็นสีสัน ส่วนเนื้อหาของเพลงนั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แต่ที่รู้ๆ ในวันนี้เธอกับฉันเรามาเต้นรำกันมาทำให้มันเป็นวันของเรา ซึ่งเนื้อเพลงเพลงนี้ถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษเช่นเดียวกันกับงานเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม ซึ่งเขียนโดย ภูมิเอง ส่วนในมิวสิควีดิโอนั้น ภูมิ (ผู้ซึ่งเป็นคนกำกับและตัดต่อเอง) ตั้งใจทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงความชื่นชอบต่อชุดผ้าเดนิมและทรงผมแบบแสกกลางในปลายยุค 90's   ภูมิ วิภูริศ เป็นศิลปินอินดี้ คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง โดยงานเพลงในอัลบั้ม Manchild ของเขามีกลิ่นอายของความเป็นอัลเทอเนทีฟโฟล์คที่ชัดเจนและเปี่ยมเสน่ห์ ยิ่งมีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดบวกกับสำเนียงการร้องของภูมิแล้วยิ่งทำให้มันดูมีความเป็นสากลมากๆ หากได้ฟังโดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นงานของคนไทย ย่อมหลงคิดไปว่าเป็นงานสากลอย่างแน่นอน ซึ่งงานเพลงในอัลบั้มนี้ภูมิได้มีส่วนในการเขียนเนื้อร้องและทำนองเองทั้งหมด โดยทำงานภายใต้สังกัด Rats Records ค่ายเพลงอินดี้คุณภาพอีกค่ายหนึ่งของวงการเพลง  นับได้ว่า…

ว่ากันว่า.. ในช่วงชีวิตหนึ่งๆ เราทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์กับสายฝนกันบ้าง อาจจะเป็นช่วงเด็กๆ ที่เราแอบหนีแม่ไปเล่นน้ำฝนกับเพื่อนข้างบ้าน หรือจะเป็นตอน ม.ต้น ที่ติดฝนอยู่กับรุ่นพี่ที่แอบชอบ หรือจะเป็นตอนมหาวิทยาลัย ที่ถือร่มเดินกลางสายฝนกับแฟนคนแรก หรือจะเป็นช่วงที่อกหัก แล้วต้องเดินกลางสายฝนเพื่อกลบน้ำตา ฯลฯ และความทรงจำเหล่านั้น มันก็มักจะถูกย้อนกลับเข้ามาในความคิดของเราทุกครั้งเวลาที่ฝนตก.. ราวกับว่าสายฝน คือเครื่องมือที่ทำให้เราเผลอย้อนกลับไปคิดถึงความทรงจำที่ผ่านมา

ล่าสุด 25hours ได้ปล่อย "ฟ้าเป็นใจ" ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มล่าสุดที่มีชื่อว่า Night in Heaven ออกมา ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ที่ออกกับทาง Genie Records โดยภาพรวมของงานเพลงใหม่นี้ มีภาคดนตรีที่หนักแน่นขึ้นอย่างชัดเจน มีส่วนผสมของความเป็นร็อค ในทางของ Genie Records มากขึ้นบวกกับเสน่ห์ในเสียงร้องของแหลม สมพล รุ่งพาณิชย์ ฟรอนท์แมนของวงที่ยังคงรักษาลายเซ็นของตนและ 25hours เอาไว้เป็นอย่างดี เพียงแต่เติมความเข้มข้นและหนักแน่นในแบบของดนตรีร็อคลงไป ซึ่งใน Music Video ที่ปล่อยออกมา ได้เผยให้เห็นทิศทางใหม่ ลุคใหม่ของวง ที่มีความขรึมขลังและจริงจังมากขึ้น มีความดาร์คในแบบของวงร็อคอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแตกต่างจากลุคที่มีสีสันสดใสและดูขี้เล่นจากอัลบั้มก่อนๆ อย่างเช่น Color in White หรือ Mom & Pop Shop ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการที่แปลกใหม่ เติบโตขึ้น แข็งแรงขึ้น ซึ่งมีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว สำหรับวงที่มีผลงานเพลงมาอย่างต่อเนื่องอย่าง 25hours   ส่วนเนื้อหาของเพลงเป็นการให้กำลังใจ สำหรับคนที่มีฝันให้ก้าวเดินต่อไป อย่าท้อ…

 “…สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมก็คือ ทำเพลงให้เสร็จแล้วกลับไปทัวร์คอนเสิร์ต และทำในสิ่งที่ผมต้องทำซึ่งก็คือการร้องเพลง และขับเคลื่อนผู้คน  มากกว่าที่จะนั่งอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย เอาแต่ปากเสียในทวิตเตอร์ไปวันๆ” นี่คือถ้อยวาทะของ ป๋าเลียม หรือ เลียม กัลลาเกอร์ (Liam Gallagher) อดีตฟรอนท์แมนของวงบริทร็อคในตำนาน Oasis อันเป็นเหตุผลของการลุกขึ้นมา ทำงานเพลงใหม่อีกครั้งหลังจากล่าสุดที่เขาได้ทำงานเพลงในนามของวง Beady Eye แต่ครั้งนี้ เลียมได้กลับมาใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวพร้อมบทเพลงที่มีชื่อว่า “Wall of Glass” ซิงเกิลเปิดตัวจากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเลียม ที่ใช้ชื่อว่า As You Were  อันมีเสน่ห์ของความเป็นเลียม และกลิ่นอายของวง Oasis อย่างชัดเจน ทำให้เป็นบทเพลงที่แฟนๆของเลียมจะไม่รู้สึกผิดหวังโดยเด็ดขาด อีกทั้งยังได้ เกร็ก เคิร์สทิน ( Greg Kurstin ) โปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานร่วมกับดีว่าสาวอย่าง Adele  มาร่วมแต่งเพลงนี้ด้วย ซึ่งถือว่า เกร็ก มีความเข้าใจในตัวตนของเลียมอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=YdJc7-ZEuT0 Wall of Glass ถูกถ่ายทอดผ่านท่วงทำนองแห่งบริทป็อป อันมีส่วนผสมของภาคดนตรีที่เข้มข้นที่แต่ละส่วนของดนตรีได้ถูกคลุกให้เข้ากันอย่างกลมกล่อม ผสมกับเสียงร้องอันเป็นเสน่ห์ของเลียม…

หลังจากห่างหายจากการทำเพลงไปนานถึง 5 ปี จากอัลบั้มล่าสุด “ PALMY 5” ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับ single ใหม่ “นวด” เพลงรักที่นำเรื่องราวการนวดแผนไทยมาเปรียบเปรยกับความรักได้อย่างคมคายและโดนใจยิ่งนัก โดยเชื่อมโยงเรื่องราวของความรักกับเรื่องของเส้น คือมีความตึง ความหย่อน ความเกร็ง ความผ่อน เหมือนกับความสัมพันธ์ของคู่รักที่บางครั้งก็ต้องมียืดหยุ่น มีกระตุ้น เฆี่ยนบ้าง ให้กระชับ เพื่อให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น ซึ่งครั้งนี้ปาล์มมี่ได้ทำงานกับทางบ้านหลังใหม่ซึ่งก็คือ Genie Records นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=g0mb4akeYIg นวด นวด หยุด หยุด นวดเส้น กดจุด เดี๋ยวตึง เดี๋ยวหย่อน เดี๋ยวเกร็ง เดี๋ยวผ่อน นวด นวด หยุด หยุด ถึงใจถึงจุด เดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวมันก็หาย โดยเพลง “นวด” มีจุดเริ่มต้นจากร้านนวดใกล้บ้านของปาล์มมี่ ซึ่งเธอเล่าว่า​“ตลอด2-3 ปีที่ผ่านมามี่ยังคงทำเพลงมาตลอด โดยส่วนใหญ่เพลงที่เสร็จจะเป็นเพลงกลางๆ แต่ยังขาดเพลงสนุกที่ใช้สำหรับเปิดตัว ที่ทุกคนจับต้องได้ โดยมี่เป็นคนชอบนวดมาก…

สื่อต่างชนิดกันก็เป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันได้เสมอ เช่นเดียวกับ วงการหนัง และวงการเพลงที่คงแยกกันไม่ขาด ถ้ามีเพลงที่ช่วยให้เกิดบทหนังดี ๆ ได้ ก็มีหนังดี ๆ ที่กลายมาเป็นเอ็มวีโดนใจอยู่เหมือนกัน วันนี้ ถอยหนังลง Song จะเลือกเอา อันดับเอ็มวีสุดเจ๋งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังกันครับ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

หน้าฝนแบบนี้จะไปไหนมาไหนทีก็ลำบาก ไหนจะฝนตก รถติด น้ำท่วม สู้นอนฟังเพลงอยู่บ้านดีกว่า ไหนๆ ก็ถึงฤดูนี้แล้ว ประเทศไทยนานๆ ที จะมีฝนตกลงมาสร้างบรรยากาศ เหงาๆ แต่เคล้าไปด้วยเสน่ห์แบบนี้ [su_quote]"ฝน" สัมพันธ์กับหลายมิติแห่งความรู้สึกของเรา ไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่รู้สึกเหงา คิดถึงใครบางคน มีความสุข มีความเศร้า และหลายครั้งฝนมักจะนำพาความทรงจำในวันเก่าๆ กลับมาย้ำเตือนให้เราคิดถึงมันอยู่เสมอ[/su_quote] ว่าไปแล้วเราก็หาเพลงมาฟังให้มันเคล้าคลอไปกับบรรยากาศสีเทาๆ จะเปิดดัง หรือ เปิดเบา คลอไปกับเสียงฝนนอกหน้าต่างนั่นได้เลย งั้นเรามาเริ่มที่เพลงแรกกันเลยดีกว่าครับ ๑) ฝนตกที่หน้าต่าง - เสก โลโซ https://www.youtube.com/watch?v=SXy-v1KbF4k “วันนี้ฝนตกไหลลงที่หน้าต่าง เธอคิดถึงฉันบ้างไหมหนอเธอ” เปิดกันด้วยบทเพลงจากพี่เสก โลโซ กับเพลงร็อคแบบน่ารักๆ ขับกล่อมด้วยเสียงฟิงเกอร์ปิ๊กกิ้งกีตาร์ หวานๆในบรรยากาศแบบอะคูสติกกับการคิดถึงใครบางคนในวันที่ฝนตก ๒) ฝน - เบิร์ดกะฮาร์ท https://www.youtube.com/watch?v=9fovX2noeUY “อยากจะลืมใครสักคน เมื่อหยาดฝนพร่างพรมพริ้วมา...” หลายครั้งที่สายฝนนำพาเรากลับไปยังความทรงจำเมื่อครั้งอดีต เมื่อแรกมีรักสายฝนเย็นชุ่มฉ่ำใจ แต่เมื่อยามรักร้าว สายฝนก็เปลี่ยนเป็นมรสุม โหมกระหน่ำ ความรักจากลาทิ้งไว้เพียงหยดน้ำตา และเพียงเราท่ามกลางสายฝน เพลงนี้มีเวอร์ชั่นนี้ด้วย ไพเราะไม่แพ้กันเลยทีเดียว…

วันนี้เราจะมานำเสนอ 10 อันดับเอ็มวีเพลงเศร้า ที่จะเรียกน้ำตาของคุณออกมาแบบไม่รู้ตัว ต้องขอเกริ่นก่อนว่าปัจจุบันเอ็มวีเพลงเศร้าในโลกนี้มีอยู่มากมาย แต่ที่ยกมาในวันนี้เป็น 10 อันดับเอ็มวี ที่แอดมินรู้สึกว่ามันมีอิมแพ็คกับจิตใจของแอดมินมาก เรียกได้ว่าฟังจบปุ๊ปมันจะรู้สึกตึงๆ ที่หน้าหน่อยเหมือนจะร้องไห้ คล้ายๆ ชีวิตของแอดมิน (เศร้า) เราไปดูกันดีกว่าว่า เอ็มวีเพลงที่แอดมินจะนำมาให้ดูวันนี้จะเศร้าและซึ้งขนาดไหนไปดูกันเลย!!! อันดับที่ 10 เธอเก่ง (Still) - Jetset'er [Official MV] https://www.youtube.com/watch?v=sAf5zzY2EH8 สำหรับเพลงนี้ตัวเอ็มวีจะเล่าถึงเรื่องหนุ่มวัยทำงานคนหนึ่ง ที่ชีวิตคู่ของเขาต้องจบลงแต่ความรู้สึกนั้น ยังคงไม่เคยเลือนหายไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่าๆ ที่เคยทำด้วยกัน ร้านอาหารที่เคยไป ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แก่กัน มันยังค้างคาอยู่ในใจ สิ่งพวกนี้ที่กล่าวมามันกำลังกัดกินหัวใจของเขา ทำให้เอ็มวีเพลงนี้มันช่างตรงกับความรู้สึกของใครหลายๆ คน ที่ยังไม่ลืมคนรักเก่า ยังไม่ลืมความทรงจำดีๆ ที่มีให้แก่กัน!! อันดับที่ 9 Calories Blah Blah - แพ้คำว่ารัก (Official MV) https://www.youtube.com/watch?v=EylQUt1t3DI สำหรับเพลงนี้ต้องบอกเลยว่าตอนจบพีคสุดๆ จริงๆ จากใจแอดมินเลยครับ โดยเอ็มวีนี้เปิดด้วยการโชว์ตัวละครหนุ่มวัยทำงานที่ดูเป็นคนเนิร์ดๆ เรื่องสาวๆ นี่คงไม่ต้องพูดถึง และแล้ววันหนึ่งก็มีสาวสุดเซ็กซี่ เข้ามาในชีวิตเขา…

จริงๆ ที่เลือกเขียนศิลปินคนนี้ต้องบอกว่าแอดมินเป็นสาวกของ ฮิวโก้ (Hugo) จริงๆ คนอะไรจะเท่ขนาดนี้ แอดมินเห็นยังชอบเลย ทั้งสไตล์การแต่งตัว ทั้งเพลงของพี่แกด้วย บทความนี้จะพาไปเจาะลึกอดีตเบื้องลึกของศิลปินนามว่า ฮิวโก้ ที่หลายๆ คนรู้จัก ว่าแท้จริงแล้วเขาผู้นี้ มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา จะเป็นยังไงนั้นลองติดตามเรื่องราวอันลึกลับของศิลปินคนนี้ในบทความกันได้เลย!!!