วันนี้แบไต๋มีหูฟังเข้าชกกันถึง 3 รุ่นด้วยกันคือ

  • Apple AirPods Max น้องใหม่ล่าสุดที่หวังท้าชิง ราคา 19,990 บาท
  • Sony WH-1000XM4 หูฟังครอบหูเจ้าตลาดที่กวาดรางวัลมามากมาย ราคา 11,990 บาท
  • Bang & Olufsen Beoplay H9 3rd Gen หูฟังไฮเอนด์จาดเดนมาร์ก ราคา 21,900 บาท

ยกที่ 1 ดีไซน์ตัวหูฟัง

Apple AirPods Max

  1. วัสดุหลักเป็นโลหะ โครงเป็นสแตนเลสสตีล ตัวครอบหูเป็นอลูมิเนียม 
  2. โฟมรองหูเป็นผ้าหุ้มเมโมรี่โฟม ให้สัมผัสดี ใหญ่พอที่ครอบทั้งใบหูเข้าไปได้สบาย ๆ ใส่นาน ๆ ไม่รู้สึกว่าหูอับ ไม่ร้อน
  3. สัมผัสแรกคือหนัก ตัวหูฟังหนักถึง 385 กรัม แต่ใส่ ๆ ไปแล้วจะชินเพราะน้ำหนักกดลงมาตรงๆ แต่ถ้าก้มหัวหรือเงยหน้าจะรู้สึกว่าถ่วง
  4. แป้นหูฟังใหญ่กว่าหูฟังอื่น ๆ ชัดเจน คือถ้าไม่ชอบก็คงเกลียดความใหญ่โตของหูฟังนี้
  5. แต่เป็นหูฟังที่มีสีให้เลือกมากที่สุดถึง 5 สี (เทา, เงิน, ชมพู, เขียว, สกายบลู) แถมแป้นโฟมนี้ซื้อสีอื่นมา Mix and Match ได้อีก ถือว่าเป็นหูฟังปรับแต่งดีไซน์ตามชอบได้มากที่สุดแล้ว

Sony WH-1000XM4

  1. วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี ให้สัมผัสว่าเป็นของแพง ถึงจะไม่พรีเมี่ยมเท่าโลหะหรือหนังก็เถอะ
  2. โฟมรองหูเป็นหนังหุ้มเมโมรีโฟม มีแป้นที่ใหญ่มากพอที่ห่อทั้งหูได้ ฟังนาน ๆ ไม่ร้อนมาก แต่ก็อับกว่า AirPods Max
  3. น้ำหนักหูฟังไม่เยอะ ออกแบบรองรับสรีระหูได้ดี ใส่นาน ๆ ไม่มีเมื่อย
  4. ดีไซน์โดยรวมดูแล้วโมเดิร์น ดูเป็นหูฟังไฮเทค
  5. มีให้เลือก 2 สีเท่านั้น คือสีดำตัดทองแดงแบบนี้ และสีเทาอ่อน ก็เป็นหูฟังที่มีสีให้เลือกน้อยที่สุดในการประชันครั้งนี้

B&O Beoplay H9 3rd Gen

  1. วัสดุหรูหรา ด้านบนนี้เป็นหนังวัว ด้านในเป็นผ้า โครงก็เป็นสแตนเลสสตีล
  2. โฟมรองหูเป็น Memory foam หุ้มด้วยหนังแกะที่นุ่มมาก ๆ ใส่สบาย แต่เบ้าหูฟังเล็กกว่าหูฟังคู่แข่งอีก 2 รุ่น ทำให้มีการทับใบหูบ้าง และใส่นาน ๆ ก็มีอาการร้อนหูบ้าง
  3. น้ำหนักหูฟัง 285 กรัม ให้สัมผัสพอดี ๆ ไม่หนักเกินไป
  4. ดีไซน์หูฟังดูคลาสสิกที่สุด เป็นหูฟังที่เน้นรูปร่างของวงกลมที่ดูแปลกตากว่าหูฟังทั่วไป
  5. มีสีให้เลือกเยอะ สีชมพูที่รีวิวนี้คือ Peony Limited Edition แล้วก็มีสีดำด้าน, Grey Mist, Argilla Bright (สีส้มๆ ทองๆ), anthracite (สีดำอีกเฉด)

สรุปเรื่องดีไซน์หูฟัง อันนี้แล้วแต่คนชอบเลย แต่เรื่องใส่สบาย AirPods Max ที่ค่อนข้างโปร่งสบายหู หนักนิดหน่อยก็รับได้ ส่วน Sony WH-1000XM4 ที่น้ำหนักเบา ใส่สบาย แต่อับกว่า และร้อนกว่า AirPods Max ส่วน B&O H9 อันนี้หรู นุ่มมาก แต่ใส่นาน ๆ ไม่สบายเท่าไหร่เพราะเบ้าหูเล็กสุด

เพราะฉะนั้น AirPods Max ชนะจ้า

ยกที่ 2 การพกพาและอุปกรณ์

Apple AirPods Max

  1. ให้ Smart Case ที่ด้านนอกเหมือนเป็นยาง ๆ ใส่ด้านในเหมือนบุด้วยำมะหยี่นุ่ม ๆ
  2. แต่ Case ยกทรงนี้ไม่ป้องกันหูฟังจากการตก แรงบีบในกระเป๋า และรอยขีดข่วน ถ้าใส่กระเป๋าแล้วตัวแป้นโลหะขีดเป็นรอยขึ้นมามีร้อง ตัวก้านด้านบนก็ไม่ได้ปกป้องเลย
  3. ผู้ใช้ AirPods Max จึงน่าจะมีทางเลือก 2 ทางคือ เสียเงินซื้อเคสแข็งมาใส่ทับอีกที หรือพกพาแบบระวังมาก ๆ ไม่เอาไปรวมในกระเป๋าแน่น ๆ ใส่ถุงอีกชั้นเพื่อกันรอยขีดข่วน
  4. อุปกรณ์เสริมที่ให้มาก็มีแค่สายชาร์จ USB-C เป็น Lightning ไม่มีสายสัญญาณเสียง เอาสาย USB-C to lighting ไปต่อกับอุปกรณ์ USB-C ก็เสียงไม่ออกที่หูฟัง ใครที่จะฟังเพลงแบบมีสายก็ต้องซื้อสาย 3.5 mm to Lightning อีก 1,290 บาท 
  5. ไม่มีหัวแปลงสำหรับใช้บนเครื่องบินมาให้ด้วย
  6. สรุปดีไซน์แพ็กเกจของ AirPods Max สวยงามและแตกต่าง แต่ใช้จริงก็ลำบากผู้ใช้ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มอีก

Sony WH-1000XM4 

  1. ให้เคสแข็งที่กดดูก็มั่นใจว่ามันจะลุยอยู่ในกระเป๋าแน่น ๆ ของเราได้แน่ ๆ โดยที่หูฟังจะไม่เป็นอันตราย ไม่โดนขีดข่วนด้วย
  2. อุปกรณ์เสริมที่อยู่ในกล่องก็ครบมาก ทั้งสายชาร์จแบบ USB-C, สาย AUX ต่อฟังเพลงแบบสาย 3.5 mm ได้ แถมยังมีหัวแปลงสำหรับใช้บนเครื่องบินให้ด้วย
  3. คือซื้อ Sony WH-1000XM4 แล้วจบเลย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอะไรอีก

B&O Beoplay H9 3rd Gen

  1. ก็ไม่รู้ว่าทำไมหูฟังแพง ๆ หรู ๆ ชอบไม่แถมเคสแข็งกันนะครับ B&O H9 นี่ก็เหมือนกัน ในกล่องมีแค่ถุงใส่หูฟังนิ่ม ๆ แบบนี้
  2. แต่ถ้าถามว่ามันดีกว่า Smart Case ของ AirPods Max ไหม ก็ต้องบอกว่าดีกว่า อย่างน้อยมันก็กันรอยขีดข่วนทั้งตัวหูฟังได้ ถึงจะไม่กันแรงบีบ แรงกระแทกก็เถอะ
  3. และ B&O H9 ยังให้สายมาครบ ทั้งสายชาร์จแบบ USB-C, สาย Aux แบบ 3.5 mm แล้วก็หัวแปลงสำหรับใช้บนเครื่องบิน ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก

สรุปยกนี้ Sony WH-1000XM4 ชนะไปใส ๆ สวย ๆ ด้วย Hard Case ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่จิตตกเวลาพก และของแถมครบ ไม่ต้องเสียเงินอีกครับ

ยกที่ 3 การควบคุมและการใช้งาน

Apple AirPods Max

  1. การควบคุมของ AirPods Max ถือว่าเป็นนวัตกรรมเลย เพราะมี Digital Crown ปุ่มหมุน ๆ ที่กดได้ สามารถทำงานได้สารพัดประโยชน์มาก ๆ
  2. คือในแง่ของการปรับเสียงเจ้า Digital Crown สามารถหมุนๆ เพื่อปรับเสียงได้ละเอียดมาก และทำงานได้ดี ไม่มีอาการสั่งว่าว เร่งเสียงไม่ขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถกดลงไปเพื่อเล่นเพลง-หยุดเพลง กด ๆ เพื่อเปลี่ยนเพลงก็ได้ กดค้างก็เรียก Siri ได้
  3. แล้วยังมีอีกปุ่มเพื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน หรือเปิดระบบฟังเสียงภายนอก
  4. เมื่อเวลาถอดหูฟังออกจากหู เพลงก็จะหยุดเองด้วย (แต่เราทดสอบกับ Walkman มันไม่ยอมหยุดเองให้นะ)
  5. นอกจากนี้เมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple ก็จะใช้ง่ายมาก ไปหยิบอุปกรณ์ไหนก็พร้อมสลับไปใช้กับอุปกรณ์นั้นได้ตลอดเวลาในทันที ไม่ต้องเปิด ๆ ปิด ๆ Bluetooth เครื่องเก่าก่อนจะลิงก์กับเครื่องใหม่
  6. ส่วนถ้าเอาไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Walkman ตัวนี้เป็น Android ก็ใช้งานไม่ยาก แค่กดปุ่มตัดเสียงค้างเอาไว้ก็จะเข้าโหมด Pair แล้วให้อุปกรณ์อื่น ๆ มาจับได้เลย
  7. แต่การใช้งานแบบนอกรีตแบบนี้จะใช้ยากหน่อย ต้องคอยปิด ๆ เปิด ๆ Bluetooth เวลาสลับอุปกรณ์ แล้วหูฟังไม่มีปุ่มปิด ต้องเอาใส่เคสเท่านั้น ก็อาจจะต้องเอาเข้า ๆ ออก ๆ เคสบ่อยหน่อย แถมยังไม่สามารถเรียก Google Assistant มาใช้แทน Siri ได้นะ

Sony WH-1000XM4

  1. การควบคุมด้วยระบบสัมผัสและปุ่ม คือแป้นด้านขวานี้สามารถปัดขึ้นลงเพื่อเร่งเสียง-ลดเสียงได้ ปัดหน้า-ปัดหลังเพื่อเปลี่ยนเพลง แตะค้างเพื่อดึงเสียงภายนอกเข้ามาก็ได้ แต่ก็มีข้อสังเกตว่าเราอาจจะสั่งว่าวได้ ถ้านิ้วแตะแล้วรูดไม่ตรงกับที่เซนเซอร์จะรับรู้
  2. นอกจากนี้ก็มีปุ่ม เปิด-ปิด และเข้าโหมด Pair และอีกปุ่มสำหรับปรับรูปแบบการตัดเสียงรบกวนหรือดึงเสียงภายนอก หรือจะตัดให้เรียกใช้ Google Assistant/Siri ก็ได้
  3. หูฟังรุ่นนี้ยังสามารถเปิดโหมดเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน 2 ตัวได้ เช่นเชื่อมมือถือกับคอมพร้อมกัน ก็สามารถสลับเสียงจากมือถือและคอมไปมาได้ ไม่ต้องมีระบบสาวกแบบแอปเปิ้ลก็สลับได้ไม่ยากเหมือนกัน
  4. ทีเด็ดของหูฟังโซนี่คือความอัจฉริยะในการควบคุม หูฟังจะหยุดเพลงและเปิดเสียงภายนอกเข้ามาเองเมื่อเราพูด ทำให้เราสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะหูฟัง และไม่ต้องถอดหูฟังด้วย ส่วนเมื่อถอดหูฟังเพลงก็จะหยุดให้เองได้
  5. แล้วเมื่อเราเดินทาง หูฟัง Sony ยังทำงานร่วมกับแอปในมือถือเพื่อปรับระดับการตัดเสียงรบกวน และการดึงเสียงภายนอกให้เหมาะสมกับรูปแบบการเดินทางของเราได้เองด้วย
  6. ซึ่งตัวแอปสามารถปรับหูฟังได้อีกเพียบ ทั้งการจูนรูปแบบเสียงให้เข้ากับหูของเรา ปรับระดับเสียงให้เข้ากับแรงกดอากาศตอนนั้น คืออยู่บนเครื่องบินก็ไม่มีคำว่าเสียงไม่ดี ปรับ EQ ก็ได้ ปรับรูปแบบการแก้ไขเสียงเพลงหรือ DSEE ก็ได้

B&O Beoplay H9 3rd Gen

  1. เป็นอีกหนึ่งหูฟังที่มีการควบคุมที่แปลกประหลาด คือถ้าเราจะเพิ่มลดเสียงให้เอานิ้วหมุนวงกลม ๆ ที่หูฟังด้านขวานี้ครับ ส่วนการเล่นเพลง หยุดเพลงก็ใช้นิ้วแตะตรงกลางวงนี้
  2. ส่วนจะเอาเสียงภายนอกเข้ามาให้ลากนิ้วขึ้น ถ้าจะปิด ANC ให้ลากนิ้วลง
  3. ก็ถือเป็นการควบคุมที่เข้าใจยากและต้องใช้ความจำมากกว่าหูฟังรุ่นอื่น ๆ ครับ โดยเฉพาะเรื่องการเอาเสียงภายนอกเข้าและปิด ANC ที่ใช้ไปใช้มาก็จะงง ว่าหูฟังอยู่โหมดอะไรกันแน่ เพราะหูฟังก็ไม่ได้พูดบอกว่าอยู่โหมดอะไรแล้ว
  4. หูฟังรุ่นนี้ไม่สามารถหยุดเพลงเองได้เมื่อถอดหูฟังออก
  5. นอกจากนี้ที่หูฟังยังมีปุ่มเรียกใช้ Google Assistant หรือ Siri ได้อย่างรวดเร็ว
  6. ในตัวแอป B&O ก็สามารถปรับรูปแบบโทนเสียงให้ถูกใจมากขึ้นได้ สั่งเปิด-ปิด ANC หรือโหมด Transparency นอกจากนี้ยังใช้อัปเดต Firmware ได้

สรุป ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ของ Apple เจ้า AirPods Max จะเหมือนพาคุณขึ้นสู่สวรรค์เลยครับ ควบคุมง่ายไปหมด สลับเครื่องง่ายมาก ส่วนถ้าคุณไม่ได้ใช้ Apple เจ้า AirPods Max ก็ยังใช้ง่ายอยู่ดี รูปแบบการควบคุมนั้นง่ายมากและ Sony WH-1000XM4 ก็ควบคุมง่าย มีระบบอัจฉริยะมากมาย ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์

รอบนี้จึงให้ AirPods Max เสมอกับ Sony ไปจ้า ส่วน B&O การควบคุมยังเข้าใจ จำยากไปหน่อยนะ

ยกที่ 4 คุณภาพเสียง

ยกนี้เราจะเปลี่ยนวิธีการเล่าเล็กน้อยนะครับ จะเทียบไปทีละประเด็นเลย

1. เรื่องเทคนิค

  1. AirPods Max – รองรับ Codec เสียง SBC และ AAC ไม่รองรับเสียง Hi-Res ผ่าน Bluetooth เพราะดีไซน์เพื่อใช้กับอุปกรณ์แอปเปิ้ลที่ใช้ AAC เป็นหลัก เลยไม่ต้องแคร์อะไรอีก
  2. Sony WH-1000XM4 – รองรับ Codec เสียง SBC, AAC และ LDAC รองรับเสียง Hi-Res ผ่าน Bluetooth พร้อมระบบ DSEE Extreme เพื่อคืนรายละเอียดให้เสียงที่ถูกบีบอัด
  3. B&O H9 Gen 3 – รองรับ Codec เสียง SBC, AAC และ aptX ไม่รองรับเสียง Hi-Res ผ่าน Bluetooth
  4. เพราะฉะนั้นในแง่สเปก Sony ชนะไป

2. ลักษณะเสียง

  1. AirPods Max – ให้เสียงใสเคลียร์ สะอาด รายละเอียดดี เบสสวย ไม่เยอะเกินไป
  2. Sony WH-1000XM4 – ให้เสียงเบสเยอะที่สุดในบรรดาหูฟังทั้ง 3 ตัว เสียงโปร่ง รายละเอียดดี
  3. B&O H9 Gen 3 – ให้เบสลงลึกแต่กระชับ เสียงโปร่งใสเอกลักษณ์ของ B&O ที่จะหลงรักได้ง่าย ๆ
  4. ลักษณะเสียงนี่ตัดสินไม่ได้ คือหูฟังระดับราคาเกินหมื่นมันให้เสียงดี รายละเอียดครบหมด แล้วแต่ชอบจริง ๆ คือชอบใส ๆ โปร่ง ๆ ไม่ชอบเบสเยอะก็ AirPods Max, ชอบเบสเยอะๆ เสียงแน่นๆ ก็ Sony ส่วนอยากได้เบสลึก เสียงเอกลักษณ์ ก็ต้อง B&O

3. ระบบตัดเสียงรบกวนหรือ ANC

  • ทุกตัวที่หยิบมาวันนี้เป็นแนวหน้าเรื่องการตัดเสียงหมด ถ้าเปิดเพลงฟังแล้วเปิด ANC แทบจะไม่ได้ยินภายนอกทั้งหมด
  • จุดนี้จึงต่างกันไม่เยอะ จึงเสมอกันหมด

4. ระบบดึงเสียงภายนอก (Transparency)

  1. AirPods Max – โหมด Transpancy เป็นธรรมชาติที่สุด แยกทิศทางเสียงได้ชัดเจน ไม่มีเสียงเหมือนอยู่ในถ้วย
  2. Sony WH-1000XM4 – โหมด Transpancy จะเหมือนอยู่ในถ้วย เสียงคีย์บอร์ดไม่ค่อยมา ได้ยินเสียงรอบข้างชัดน้อยกว่าหูฟังรุ่นอื่นๆ ฟังแล้วรู้สึกเป็นเสียงประดิษฐ์
  3. B&O H9 Gen 3 – โหมด Transpancy จะมีเสียงก้องๆ เหมือนอยู่ในถ้วยอยู่นิดๆ แต่ไมค์ก็สามารถเก็บเสียงภายนอกมาแสดงได้มากกว่า Sony
  4. เพราะฉะนั้น AirPods Max ชนะเรื่องดึงเสียงภายนอกไป

5. คุณสมบัติพิเศษ

  1. AirPods Max – เสียงแบบ Spatial Audio เสียง 3 มิติที่เหมาะมากสำหรับการดูหนัง ให้เสียงเซอร์ราวนด์ แถมล็อกเสียงให้ตรึงกับจอได้ด้วย แต่เฉพาะแอปที่รองรับอย่าง Apple TV ส่วน Netflix ยังไม่รองรับ
  2. Sony WH-1000XM4 – ระบบ 360 Reality Audio เสียง 3 มิติสำหรับดนตรี ซึ่งมีเพลงรองรับพอสมควรแล้วผ่าน Tidal ให้อารมณ์เสียงเหมือนเราไปนั่งอยู่กลางวงดนตรี
  3. B&O H9 Gen 3 – ไม่มีโหมดเสียงพิเศษจ้า
  4. เพราะฉะนั้น AirPods Max กับ Sony WH-1000XM4 เสมอจ้า

สรุปเรื่องเสียง อันนี้เราแนะนำให้ไปฟังแล้วเลือกให้ถูกใจ แต่เราขอลำเอียงเลือกให้ B&O H9 Gen 3 ชนะไป เพราะเสียงเบสแน่น ๆ กับความกลมกล่อมของมัน อ้าว ไม่ได้เหรอ ถ้าตัดสินตามคำแนนย่อย 5 อันที่เล่าไป AirPods Max ก็เสมอกับ Sony อีกแล้ว

ยกที่ 5 ไมค์

  • ต้าไปยืนอัดเสียงผ่านหูฟังอยู่ริมถนนใน RCA แล้วซิงก์เสียงจากหูฟังให้ฟังทีละอัน
  • พูดว่า “รีวิวครบจบที่แบไต๋ แต่หน้าตาดีจบที่ต้าเอง”
  • สรุปว่าเสียงไมค์ของ AirPods Max ดีที่สุด ให้เสียงพูดใสที่สุด

ยกที่ 6 ความคุ้มค่า

  • Apple AirPods Max ราคา 19,990 บาท
  • Sony WH-1000XM4 ราคา 11,990 บาท
  • Bang & Olufsen Beoplay H9 3rd Gen ราคา 21,900 บาท
  • หัวข้อนี้ให้ Sony WH-1000XM4 ไปเถอะ ราคาถูกกว่าคู่แข่งที่จับมาชกกันเกือบเท่าตัว เสียงดีไม่ต่างกันมาก อุปกรณ์เสริมครบสุดแล้ว

สรุป

  • ยกที่ 1 ดีไซน์ตัวหูฟัง – AirPods Max
  • ยกที่ 2 การพกพาและอุปกรณ์ – Sony WH-1000XM4
  • ยกที่ 3 การควบคุมและการใช้งาน – AirPods Max เสมอ Sony (แต่ถ้าใช้ Android ใช้ Sony ดีกว่า)
  • ยกที่ 4 คุณภาพเสียง – B&O H9 เพราะชอบเสียง เอ้ย AirPods Max เสมอ Sony
  • ยกที่ 5 ไมค์ – AirPods Max
  • ยกที่ 6 ความคุ้มค่า – Sony WH-1000XM4
  • สรุป AirPods Max เสมอกับ Sony WH-1000XM4 คือชนะ 2 เสมอ 2 เท่ากัน แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ระบบของแอปเปิ้ล ไป Sony จะดีกว่า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส