สตูดิโอ Shift Up ผู้สร้างเกมมือถือเด่นในเรื่อง Live 2D สุดโด่งดัง อย่าง Destiny Child และ Nikke สู่เกม RPG Souls Like ในรูปแบบ 3D เต็มรูปแบบ โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นแบบ Demo บน PS5 วันที่ 29 มีนาคมนี้ ซึ่งทีมงานได้รับเชิญให้ไปทดสอบตัวเกมก่อนเปิดให้เล่นอย่างทั่วกัน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 26 เมษายนนี้ หลังจากที่ตัวเกมเปิดตัวมาตั้งแต่เป็น Project EVE ประมาณ 4 ปีที่แล้ว และในปี 2024 นี้ เราก็จะได้เล่นเกมนี้กันแล้วในชื่อใหม่ ‘Stellar Blade’

เนื้อเรื่องของ Stellar Blade จะเป็นเนื้อเรื่องของหน่วยพลร่มที่ 7 หน่วยที่ถูกส่งกลับช่วยเหลือดาวโลก หลังโลกถูกทอดทิ้งจนร้างไปแล้ว โดยจะโฟกัสไปที่ตัวละครเอกของเราที่ชื่อว่า Eve ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของทั้งกองกำลัง ซึ่งได้ไปพบเจอกับ Adam หนุ่มผู้รอดชีวิต ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ โดยที่ Eve ต้องช่วยเหลือมนุษย์ชาติของโลก ​ณ ตอนนี้ ด้วยการออกไปต่อกรกับเหล่าสิ่งมีชีวิตต่างดาว “เนติบา” เนื้อเรื่องดูมีปริศนามากมาย และน่าติดตามเลยทีเดียว ยังไงพาร์ตนี้คงไม่ได้เจาะลึกมากมาย เพราะ Demo เราก็ทราบเนื้อเรื่องประมาณนี้เช่นเดียวกัน

เกมเพลย์เดือด สะใจ ตายวน

เกมเพลย์ของ Stellar Blade ผมพูดได้เลยว่าเป็นการรวมร่างของเกม Action RPG และ Soul Like ที่ลงตัวมาก อีกหนึ่งสิ่งที่อยากให้หลายคนได้โฟกัสมากกว่าบั้นท้ายของตัวละครหลักคือพาร์ตนี้แหละ เกมเพลย์มีความเป็นเกม Souls สูงมาก ทั้งระบบที่จุดพัก เพื่ออัปเกรด การเก็บแต้มมาอัปพลังไปเรื่อย ปลดล็อกความสามารถ การนั่งพักที่จุดพักแล้วมอนเกิดใหม่ รวมไปถึงการดีไซน์ Boss Fight ให้ยาก และท้าทาย

แต่ความเจ๋งของ Stellar Blade คือการให้เราไปโฟกัสกับจังหวะการโต้กลับ หรือการ Perfect Timming ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่แปลกเปลี่ยนไปจากทางเกมโซลที่หลายคนอาจจะติดภาพ โดยเกมนี้มีระบบที่ค่อนข้างบังคับให้เราชินกับการ Perfect Timming กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการ Block การ Parry หรือการ Dodge แปลว่าเราต้องสู้กับมอนสเตอร์นั้น ๆ หรือบอสนั้น ๆ จนรู้จังหวะการโจมตีของมัน

แต่ตัวเกมก็ไม่ได้ถึงกับบังคับว่าต้องทำ แค่ระบบค่อนข้างเอื้อต่อการทำแบบนั้น เช่นระบบ Guage ที่จะบอกจำนวนที่เราต้อง Perfect Block ให้ได้ ซึ่งถ้าเราทำได้หนึ่งครั้งก็จะลดลงหนึ่งขีด และหากเราทำได้จนขีดหมด เราจะใช้ท่าโจมตีพิเศษได้ และทำดาเมจได้สูงมาก ซึ่งหากเราไม่แม่นเรื่องการ Perfect Block เราก็ต้องตีธรรมดาไปเรื่อย ๆ และจะอดได้ดาเมจพิเศษในส่วนนี้ แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ต้องทำตลอด แค่ทำได้จนทำท่าโจมตีได้ มันจะเป็นความเท่ สมใจ

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ผมชอบสิ่งที่มีอยู่ในเกมนี้มากกว่าเกม Soul อื่น ๆ เหมือนมาเติมเต็ม ‘หนึ่งจุด’ คือท่าทางที่ Stylish Action มากกว่า และให้ความรู้สึกสะใจมากกว่า ตัวเกมมีท่าทางการโจมตี และท่าทางในการทำดาเมจพิเศษที่สะใจมาก เลือดเป็นเลือด แรงเป็นแรง ให้มันสมกับที่เราอุส่าห์กด Block ได้ กด Parry ได้ หรือท่า Finisher ที่รู้สึกแบบว่า “โว้ยยยย ฆ่ามันได้สักที” ด้วยท่า Action แบบเสียบเนื้อ เลือดกระฉูด เน้นสะใจ

อาร์ตดีไซน์ที่เคยเด่นเรื่อง Live 2D คราวนี้พี่ออกแบบให้เต็มตา

เรื่องอาร์ตดีไซน์ของเกมนี้ไม่น่าจะต้องพูดถึงมากมายแล้ว จากผู้สร้าง Destiny Child และ Nikke ที่มีจุดโดดเด่นในด้านการทำ Live 2D และตัวละครต่าง ๆ มากมายที่มีเอกลักษณ์ และมีกระแสกันอยู่ตลอด กระโดดมาทำเกม Action 3D แบบนี้ ถือว่ารูปแบบการดีไซน์ตัวละคร และอาร์ตไดเร็กชันยังมีความโดดเด่นเฉพาะตัวอยู่มาก รวมไปถึงกราฟิกที่ทางทีม SHIFT UP เลือกเป็น Unreal Engine ก็ทำออกมาได้สวยงามสมกับเป็นเกม Next Gen ทั้งรายละเอียดตัวละคร รวมไปถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทำได้สวยงาม และสมูธอย่างมาก

เพลงประกอบน้ำดี เพลงตี (บอส) มันส์ไปไหน

ปฏิเศษไม่ได้เลยว่า Stellar Blade มีไวบ์ของเกมอย่าง NieR Automata อยู่หลายอย่าง ซึ่งก็ตรงกับที่คุณ Kim Hyung Tae ทีมพัฒนาของค่าย SHIFT UP เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มทำโปรเจกต์ของเกมนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มที่ยังเป็น Project EVE เลย ในพาร์ตของเพลงประกอบ เพียงแค่ใน Demo ก็เรียกได้ว่าใส่มาจัดเต็ม เพราะมีให้ฟังเยอะมาก แต่ละเพลงมีสไตล์ที่ฟังแล้วคุณต้องชอบอย่างแน่นอน แต่ละเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบเวลาคุณพักอยู่ในจุดพัก เพลง Boss เพลงคล้อยตามไปกับเนื้อเรื่อง แต่ละเพลงเสริมการเล่าเรื่องได้ดีมาก โดยเฉพาะเพลงเวลาเราตะลุม Boss เนี่ย โคตรมันส์ โคตรเดือด ให้สมกับความเดือดของเกมเพลย์

ในส่วนของซีนแอกชันก็ทำออกมาได้ดี คัตซีนมีความเท่ มีความเป็นอนิเมะแบบขายความเท่สูง บวกกับกราฟิกที่สวยงาม มันดูดีมาก ซึ่งตัวเกมดูจะเน้นไปที่การทำซีนแอกชันเท่ ๆ โดยพอสมควร ซึ่งมันออกจะล้อไปกับที่ตัวเกมก็พยายามเป็นเกมแบบ Stylish Action ด้วยในขณะเดียวกัน

ถึงแม้ฝั่งเนื้อเรื่องจะไม่ได้เล่ามาก เพราะเนื้อเรื่องใน Demo มีให้เล่นประมาณ 30-40 นาทีก็หมดแล้ว แต่การเล่าเรื่องของเกมนี้ก็มีจุดที่น่าสนใจ การนำเสนอผ่านเควสต์ การนำเสนอผ่านคัตซีน พร้อมกับปมของเนื้อเรื่องที่คลุมเคลือ รอคอยให้เราได้ไปพบเจอเพื่อเข้าใจเนื้อหา และปริศนาที่ซ่อนอยู่มากมาย

ส่งท้าย ที่มิใช่บั้นท้าย

โดยรวม Stellar Blade เป็นเกมที่มี potential อย่างมาก จนไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเกมฟอร์มยักษ์ AAA ตัวแรกจากค่ายที่ทำเพียงแค่เกมมือถือมาอย่างยาวนาน ระบบคอมแบตเดือด บอสไฟต์ดีไซน์มาดี ดีไซน์ดีงาม เพลงประกอบก็ดี ไม่อยากจะเข็นเกมนี้แต่ต้น ๆ แต่ว่าก็อดพูดไม่ได้ว่าเกมนี้มัน outstanding อย่างมาก เมื่อเทียบกับเกมในช่วงต้นปีทั้งหมดที่เปิดตัวมา ส่วนเกมเต็มจะคงระดับความประทับใจอันนี้เอาไว้ไปได้จนจบหรือไม่ ต้องมาติดตามกัน

อ้อ ตัวเกมมีภาษาไทยด้วยนะ แปลไทยได้ดีพอสมควรเลย ใครไม่ช่ำภาษาอังกฤษ ไม่ต้องห่วงไป

Stellar Blade จะเปิดให้ทดสอบบนเครื่อง PS5 เวลา 3 ทุ่มไทยวันที่ 29 มีนาคมนี้ครับ ใครเป็นแฟนของเกม Nikke หรือ NieR หรือ Destiny Child แบบผม ผมพูดได้แค่ห้ามพลาดจริง ๆ โดยตัวเกมเต็มจะเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 26 เมษายน นี้ครับ สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้แล้วผ่าน PlayStation Store