จากรายการหนุ่ย Talk & Chill รอบนี้เราได้ดีเจภูมิ – ภูมิใจ ตั้งสง่า มานั่งคุยแบบชิล ๆ เกี่ยวกับชีวิตตั้งแต่ตอนเริ่มเป็นดีเจ จนผันตัวมาเป็น YouTuber ยาวไปถึงเรื่องความรักและความสุขจากวิถีชีวิตแบบ ‘บ้าน ๆ’ ‘ยั่งยืน’ ของดีเจภูมิในวัยที่ผ่านประสบการณ์การทำงานในวงการมากว่า 20 ปี 

หนุ่ย Talk & Chill EP. นี้นอกจากเราจะได้เห็นมุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของดีเจภูมิ เรายังได้ทริกดี ๆ ในการปั้นคลิปจากดีเจภูมิด้วย น่าสนใจและสนุกแค่ไหน BT ได้สรุปมาไว้ให้แล้ว เลื่อนลงมาอ่านได้เลย

ดีเจภูมิ กับจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็น YouTuber 

ดีเจภูมิ – ภูมิใจ ตั้งสง่า นับเป็นผู้บุกเบิกในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์และ YouTuber ชาวไทยยุคแรก ๆ การเปลี่ยนบทบาทครั้งสำคัญนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่มีรากฐานมาจากประสบการณ์ในวงการสื่อที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มต้นการทำงานจากการเป็นดีเจทางช่อง MTV Thailand ซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีทักษะด้านการสื่อสารและการใช้คำพูดได้อย่างเชี่ยวชาญ และเมื่อมีโอกาสทำงาน หลังกล้องมากขึ้น เขาก็ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องเทคนิคการตัดต่อด้วยตัวเอง ทำให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการผลิตวิดีโอมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง แต่ดีเจภูมิก็รู้สึกว่าเขาต้องอยู่ในกรอบที่สังคมหรือลูกค้ากำหนดอยู่เสมอ การเข้ามาใน YouTube จึงกลายเป็น ‘โอกาส’ สำคัญที่ทำให้เขาได้ ‘เป็นตัวเองอย่างแท้จริง’ ปลดปล่อยความเป็นตัวตนที่เคยถูกปิดกั้น และเผยให้ผู้คนได้เห็นดีเจภูมิที่เรียลที่สุด ซึ่งการแสดงออกอย่างเปิดเผยนี้เอง กลับทำให้ผู้ชมและสังคม ‘โอบกอด’ และเข้าใจในตัวเขามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้น การผันตัวมาเป็น YouTuber ของดีเจภูมิ จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่เป็นการใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนอย่างอิสระที่สุด

ไอเดียปั้นคลิป ฉบับดีเจภูมิ

มาถึงแก่นสำคัญของบทความนี้ ซึ่งดีเจภูมิก็ได้สอดแทรกแนวทางการปั้นคลิปให้ออกมาดีในแบบของตัวเองเอาไว้ตลอดขณะที่กำลังคุยกับคุณหนุ่ย และเราก็สรุปมาได้ 4 ทริกเด็ด ดังนี้

  1. ปรับตัวตามโลกที่เปลี่ยนไปสู่คลิปสั้น โลกของคอนเทนต์วิดีโอเปลี่ยนจากรูปแบบยาว (Long Form) ไปเป็นรูปแบบสั้น (Short Form) เพราะสมาธิของผู้ชมสั้นลงมาก จนแม้แต่คลิป 2-3 นาทีก็อาจถือว่ายาวเกินไปแล้ว ซึ่งการทำคลิปสั้นนั้นมีความท้าทายและยากกว่ารูปแบบยาว ทั้งนี้ดีเจภูมิให้แนะนำว่าการติดตามรูปแบบการทำคลิปมันสำคัญ เพราะมีผลต่อผู้ชมและ engagement มาก โดยเฉพาะในสมัยใหม่ที่เขาเองก็คาดการณ์ว่าอาจจะมีครีเอเตอร์กลับไปทำคลิปแบบยาวมากขึ้นในอนาคต 
  1. ใช้ Hook (จุดดึงดูด) ที่น่าสนใจในคลิปสั้น เทคนิคการเปิดคลิปเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมในทันทีคือการใช้ ‘ฮุกที่ดึงดูด’ หรือคำพูดที่ดูขัดแย้งแบบขำ ๆ เช่น เปิดด้วยการบอกว่า ‘ร้านนี้ไม่อร่อยเลย’ แล้วตามด้วยการนำเสนอในทางตรงกันข้าม ฟีล ๆ คลิกเบตนิด ๆ แต่รีวิวอย่างจริงใจ หรือสำหรับคลิปที่มีสปอนเซอร์ก็จะทำให้รู้ไปเลยว่าลูกค้า ซึ่งพอทำแบบนี้ก็จะเป็นการแจ้งให้ผู้ชมทราบว่ามีสปอนเซอร์อย่างแนบเนียนและสร้างกิมมิกให้คนอยากติดตามมากขึ้น
  1. สร้างคาแรกเตอร์ที่ ‘กวน ๆ’ และเข้าถึงง่าย ดีเจภูมิมีการสร้างคาแรกเตอร์ในจอที่แตกต่างจากชีวิตจริง คือมีความเป็น ‘คนกวน ๆ’ ‘เรียล ๆ’ แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิบัติต่อผู้ชมเหมือนเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ที่พูดคุยกันอย่างเข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่ขายได้และสร้างความใกล้ชิดกับผู้ชม ซึ่งสำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มพูดแบบไหน ใช้คำประมาณไหน การสร้างคาเรกเตอร์อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่แย่เลย 
  1. ให้ผู้ชมเห็น ‘ตัวตนที่แท้จริง’ การเป็นตัวเองอย่างที่ควรจะเป็นจริง ๆ บนแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ทำให้สังคมโอบกอดและเข้าใจในตัวตนของเขาอย่างแท้จริง เพราะการที่ผู้คนได้เห็นมุมมองที่เรียลและ ‘ความอ่อนแอ’ ที่เป็นธรรมชาติของตัวเองในคอนเทนต์จะทำให้คนรู้สึกเชื่อมโยง (Relate) ได้มากและรักในสิ่งที่เขาเป็น การแสดงความอ่อนแอของตัวเองบ้างมันจะเป็นจุดเชื่อมโยงที่ดีกับผู้ชม และก็จะเกิดความประทับใจกันได้ง่าย 

ทั้ง 4 ทริกนี้ รวมไปถึงการนำประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ ใช้ประสบการณ์ที่มีในวงการมานานกว่า 20 ปี ทั้งจากการเรียนรู้เรื่องการใช้คำตั้งแต่สมัยอยู่ MTV และความเข้าใจเรื่องการตัดต่อมาผสมผสานกับการนำเสนอต่อผู้ชมและลูกค้า ทำให้ดีเจภูมิเป็นอีกหนึ่งคนที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์

สูตรการมีความสุขจากธรรมชาติและการใช้ชีวิตแบบ ‘บ้าน ๆ ‘

นอกจากทริกข้างต้น ในคลิปเราจะได้เห็นมุมมองของการใช้ชีวิตแบบ ‘ยั่งยืน’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของดีเจภูมิ ซึ่งจากประสบการณ์ที่มากมายในชีวิต ดีเจภูมิก็มองว่าความสุขที่แท้จริงเริ่มต้นจากการ มองทุกอย่างเป็นสายกลาง และเห็นความสุขในทุกเรื่อง เพราะชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องปกติ อย่างเช่น การออกกำลังกายที่ผ่อนคลายลงเมื่อการงานมั่นคงขึ้น การพยายามใช้ชีวิตอย่างสมดุลนี้ช่วยลดความเครียดได้มาก 

ดีเจภูมิมีความรู้สึกว่าในอนาคตอันใกล้อาจจะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่และแม้กระทั่งสงครามโลก เขาจึงตั้งใจที่จะนำหลักการความยั่งยืน (Sustainability) อย่างหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มาทำเป็นคอนเทนต์ที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจและนำไปปรับใช้จริง ซึ่งเขาเริ่มลงมือทำที่บ้านของแฟนจนประสบความสำเร็จจริง ๆ เพราะเชื่อว่า โซเชียลมีเดียคือห้องเรียนที่ดีที่สุด สำหรับผู้คน นอกจากนี้เขายังมองว่า ชีวิตเรียบง่ายคือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะในระบบทุนนิยมสุดโต่ง การที่มีคนรวยขึ้นย่อมหมายถึงการมีคนเสียเปรียบ ดังนั้น ทรัพยากรธรรมชาติจึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรมี เขาจึงเชื่อว่าแนวทางที่เหมาะสมคือการใช้ชีวิตแบบ ‘ทุนนิยมครึ่งหนึ่ง’ และมีเรื่องความยั่งยืนเข้ามาในชีวิตเพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น

สุดท้ายนี้ ดีเจภูมิยังทิ้งท้ายอีกว่าความสุขที่ตอบโจทย์ที่สุดคือชีวิตที่เรียบง่ายและการได้เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งดีกว่าการสร้างภาพลักษณ์หรูหราที่สังคมคาดหวัง การได้ใช้ชีวิตง่าย ๆ กับครอบครัวและคนที่รักคือหัวใจสำคัญ และเมื่อเรายอมรับและโอบกอดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ โลกก็จะเปิดใจและรักในสิ่งที่เราเป็นเช่นกัน 

Play video