กาแฟ เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดฮิตของวัยทำงาน ทุกเช้าจะต้องดื่มก่อน 1 แก้ว จึงจะออกไปทำงานอย่างสดใสได้ ว่ากันว่าการได้ดื่มกาแฟที่ดี มีกลิ่นหอม รสชาติถูกใจในยามเช้าเป็นเหมือนการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ และจะทำให้คุณมีพลังไปตลอดทั้งวัน 

ปัจจุบันกาแฟมีหลากหลายชนิดให้เลือกสรรแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน แต่รู้หรือไม่ว่าการดื่ม ‘กาแฟดำ’ ที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือน้ำตาลเพิ่มเติม นอกจากจะช่วยให้คุณรู้สึกมีพลังงานในการใช้ชีวิต หรือช่วยทำให้หายง่วงระหว่างวันได้แล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย 

ข้อดีของการดื่มกาแฟ

1.เพิ่มระดับพลังงาน

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ากาแฟมีคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและเพิ่มระดับพลังงาน กระตุ้นการทำงานของสมองทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงดื่มกาแฟแล้วรู้สึกตื่นตัวและไม่ง่วงนั่นเอง

2.ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2

การศึกษาหลายชิ้นพบว่าการดื่มกาแฟในทุกวันจะทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ลดลงได้ 6% คาดว่าเป็นเพราะกาแฟมีฤทธิ์ในการรักษาการทำงานของเบตาเซลล์ในตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ผลิตอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  

นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและอาจส่งผลต่อความไวของอินซูลิน การอักเสบ และการเผาผลาญอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับสาเหตุของโรคเบาหวานประเภท 2 

3.ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางสมอง

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพาร์กินสันได้น้อย ยิ่งไปกว่านั้นการดื่มกาแฟยังช่วยชะลอการลุกลามของโรคพาร์กินสันเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วย 

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่บอกว่า ยิ่งคนดื่มกาแฟมากเท่าไหร่ความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น 

4.ช่วยควบคุมน้ำหนัก

จากงานวิจัยพบว่ากาแฟสามารถเปลี่ยนแปลงการสะสมไขมันและบำรุงสุขภาพของลำไส้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนัก โดยมีการศึกษาหลายชิ้นสรุปไว้ว่าการบริโภคกาแฟที่สูงอาจสัมพันธ์กับไขมันในร่างกายที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย 

นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน มีแนวโน้มที่จะมีระดับการออกกำลังกายสูงเมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่ม 1 แก้วต่อวัน และการออกกำลังกายในระดับที่สูงขึ้นสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น

5.ลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า

จากงานวิจัยพบว่ากาแฟทำให้ความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าลดลง 8% และการดื่มกาแฟอย่างน้อย 4 แก้วต่อวัน ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการดื่มเพียง 1 แก้วต่อวันอีกด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาในคนมากกว่า 200,000 คน แสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายที่ลดลงด้วย

6.ช่วยป้องกันโรคตับ

งานวิจัยหลายชิ้นแนะนำว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยบำรุงตับและป้องกันโรคตับได้ โดยพบว่าการดื่มกาแฟมากกว่า 2 แก้วต่อวัน เชื่อมโยงกับอัตราการเกิดแผลเป็นในตับ ทำให้มะเร็งตับในผู้ป่วยลดลง และยิ่งดื่มกาแฟมากเท่าไหร่ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคตับเรื้อรังก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น การดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยงลดลง 15% ในขณะที่การดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยงลดลงถึง 71% 

7. บำรุงสุขภาพหัวใจ

งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟอาจส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ โดยพบว่าการดื่มกาแฟ 3-5 แก้วต่อวัน ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ 15%  และยังลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองถึง 21% 

นอกจากนี้ การศึกษาในคนมากกว่า 21,000 คน ยังพบว่าการดื่มกาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลวได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม คาเฟอีนอาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิต ดังนั้นผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรควบคุมปริมาณการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชนิดอื่น ๆ ด้วย

8.ดื่มกาแฟทำให้อายุยืน

งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ากาแฟสามารถช่วยทำให้อายุยืนได้ เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เห็นได้จากงานวิจัยที่บอกว่าการดื่มกาแฟ 2-4 แก้วต่อวัน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สถานะน้ำหนัก และการดื่มแอลกอฮอล์ 

นอกจากนี้ การดื่มกาแฟอย่างน้อย 1 แก้วต่อวัน ยังช่วยให้ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลดลงอีกด้วย และที่น่าสนใจคือ การศึกษาในหลอดทดลองชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่ากาแฟสามารถยืดอายุของยีสต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าสิ่งนี้สามารถนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ได้หรือไม่

9.เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นกีฬา

มีการศึกษารายงานว่าการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความอดทนและลดการรับรู้ของการออกแรง ช่วยให้เหนื่อยยากขึ้น และการศึกษาในผู้สูงอายุ 126 คน พบว่าการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับสมรรถภาพทางกายที่ดีขึ้น ช่วยให้เดินได้เร็วขึ้น แม้ว่านักวิจัยจะปรับเปลี่ยนตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ไขมันหน้าท้อง และระดับของกิจกรรมทางกายแล้วก็ตาม  อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจึงตั้งข้อสังเกตว่าคาเฟอีนอาจส่งผลต่อผู้คนแตกต่างกันไป 

แม้การดื่มกาแฟ 3-4 แก้วต่อวัน จะส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้านตามที่เราได้ยกตัวอย่างมา แต่สำหรับกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือต้องให้นมบุตร เด็กและวัยรุ่น ยังคงต้องควบคุมปริมาณการดื่มให้เหมาะสมกับช่วงวัยและภาวะสุขภาพของตนเอง

ที่มา 1 , ที่มา 2

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส