แมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่มีความน่ารักและลักษณะนิสัยเฉพาะตัวจนทำให้คนเลี้ยงแมวบางคนเปลี่ยนสถานะผู้เลี้ยงแมวสู่ทาสแมว และสถาปนาแมวเหมียวให้กลายเป็นเจ้านาย ซึ่งการเลี้ยงแมวนอกจากจะทำให้คลายเหงาแล้ว การสำรวจและข้อมูลทางการศึกษาจำนวนไม่น้อยพบว่าการเลี้ยงแมวส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต

Hack for Health เลยขออาสาพาทาสแมวหรือคนที่กำลังตัดสินใจอยากเลี้ยงแมวมารู้จักกับประโยชน์ต่อสุขภาพและเรื่องสุขภาพบางเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงแมว

การเลี้ยงแมวกับประโยชน์ต่อสุขภาพกาย

คนเลี้ยงแมวหลายคนน่าจะประสบปัญหากับอาการ ‘แพ้ขนแมว’ หรือก็คือโรคภูมิแพ้รูปแบบหนึ่งที่เยื่อบุจมูกไวต่อสิ่งกระตุ้น ในที่นี้ก็คือขน รังแค และตัวไรของน้องแมวด้วย

แต่การศึกษาจาก University of Alberta ในแคนาดากลับพบว่าเด็กทารกที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง ทั้งแมว สุนัข และสัตว์ขนปุยชนิดอื่น ๆ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์จนกระทั่งอายุ 3 เดือนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้และโรคอ้วนต่ำกว่าเด็กทั่วไป เนื่องจากมีแบคทีเรีย Ruminococcus ในลำไส้ที่ส่งผลดีต่อการอักเสบของร่างกาย และแบคทีเรีย Oscillospira ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนได้

และอย่างที่รู้กันดีว่าการเลี้ยงสัตว์ช่วยบรรเทาความเครียดได้ เนื่องจากว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์จะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด หลังเล่นกับแมวร่างกายอาจรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ความดันโลหิตลดต่ำลง ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่พบว่าคนที่เลี้ยงแมวมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (Heart Attack) ได้น้อยกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

การเลี้ยงแมวกับประโยชน์ต่อสุขภาพใจ

การมีพื่อนขนปุยขี้อ้อนมาคลอเคลียอยู่ทุกวันก็น่าจะช่วยผ่อนคลายได้ไม่น้อย แต่เจ้านาย (แมว) บางบ้านก็ดูเย่อหยิ่งและไม่สนใจทาส (ผู้เลี้ยง) สักเท่าไหร่ ยกเว้นตอนให้อาหาร แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ของผู้เลี้ยงกับแมวจะเป็นแบบไหน แต่การเลี้ยงแมวนั้นดีต่อสุขภาพจิตกว่าที่คิด

จากข้อมูลพบว่าคนที่เลี้ยงแมวมักมีสุขภาพจิตดีกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยง โดยการเลี้ยงแมวสามารถช่วยบรรเทาความเครียดและบรรเทาภาวะวิตกกังวล ซึ่งก็ย้อนกลับไปส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจอย่างที่ได้เล่าไป

และการเลี้ยงแมวยังอาจส่งผลดีต่อคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือคนที่เสี่ยงต่อโรคนี้ได้ อย่างบรรเทาความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เป็นอาการหลักของผู้ป่วยซึมเศร้า นอกจากนี้ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะช่วยลดความโศกเศร้าในช่วงที่ต้องสูญเสียคนสำคัญของชีวิตได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางส่วนพบว่าบางครอบครัวที่เลี้ยงแมวกลับมีสมาชิกบางคนในบ้านเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าและภาวะวิตกกังวลได้สูงกว่าครอบครัวที่ไม่เลี้ยงแมว หรือบางข้อมูลก็บอกว่าแมวไม่ได้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าแต่อย่างใด

Fun Fact: นักวิจัยจาก University of Colorado Boulder ในสหรัฐอเมริกาพบว่าโปรโตซัว Toxoplasmosis Gondii ในแมวสามารถเพิ่มความรู้สึกกล้าได้กล้าเสียในมนุษย์ และอาจทำให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุนหรือการเสี่ยงโชคได้

ปัญหาสุขภาพจากการเลี้ยงแมว

แม้การเลี้ยงแมวจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เพราะก็มีโรคจำนวนไม่น้อยที่เกิดจากการสัมผัสกับน้องแมว เช่น

  • โรคเชื้อราแมว ที่เกิดจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง เกิดผื่นแดงคัน ลักษณะเป็นวงกลม ติดต่อจากคนสู่คนได้
  • โรคแมวข่วน (Cat Scratch) เกิดจากการถูกแมวกัดหรือข่วน ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย เกิดผื่นแดง เป็นตุ่ม แผลมีลักษณะเป็นหลุม ต่อมน้ำเหลืองโต
  • โรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่เกิดจากการถูกข่วน ถูกกัด หรือถูกน้ำลายแมวสัมผัสกับบริเวณที่เป็นแผล ส่งผลให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและเกิดอาการผิดปกติตามมา อย่างโรคพิษสุนัขบ้า บาดทะยัก และแผลติดเชื้อแบคทีเรีย
  • โรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) เกิดจากการได้รับโปรโตซัว Toxoplasmosis Gondii ในอุจจาระของแมว ซึ่งส่งผลต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้

ด้วยปัญหาสุขภาพเหล่านี้ ทาสแมวทั้งหลายจึงควรดูแลความสะอาดของแมวอยู่ตลอด พาไปฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสม และควรดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย อย่างการล้างมือหลังเล่นกับแมว สวมถุงมือและหน้ากากอนามัยเมื่อต้องจัดการกับอุจจาระแมว ซักผ้าปูที่นอนปลอกหมอนเป็นประจำ และคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรเลี่ยงการสัมผัสกับแมวโดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์

การเลี้ยงแมวอย่างถูกวิธีและเหมาะสมดูจะส่งผลดีต่อสุขภาพได้มากกว่าผลเสีย เพราะฉะนั้นบรรดาทาสแมวทั้งหลายจงซาบซึ้งและเตรียมอาหารเปียกไว้ให้เจ้านายขนฟูที่บ้านด้วย

ที่มา1, ที่มา2, ที่มา3, ที่มา4

ภาพปก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส