“การออกกำลังกาย” ถือเป็นหนึ่งในปณิธานที่ผู้คนนิยมตั้งเป็นเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้สำเร็จ เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองในแต่ละปีมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่พลาดเป้าปีแล้วปีเล่า เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำนั้น ต้องอาศัยทั้งความพยายาม อดทน บวกกับกำลังใจที่เข้มแข็ง รวมไปถึง ความมีวินัยที่ต้องลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

…สำหรับใครที่พลาดเป้าที่ผ่านมา ไม่เป็นไร เพราะการออกกำลังกายสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอครับ

บทความนี้จะพาคุณเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างจริงจังไปพร้อม ๆ กัน ด้วยการศึกษาถึงเทรนด์การออกกำลังกายที่กำลังมาแรงในปี 2024 นี้ 

โดยในปี 2023 ที่ผ่านมานั้น ผู้คนเริ่มกลับมาเข้าฟิตเนสอีกครั้ง หลังการซบเซาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจฟิตเนสมาอย่างต่อเนื่องกว่า 3-4 ปี ซึ่งการกลับมาเข้ายิมหรือฟิตเนสครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดเป็นคอมมูนิตี้ของฟิตเนส และเกิดการออกกำลังกายแบบผสมผสานขึ้น เช่น พิลาทิสกับการฝึกความแข็งแกร่ง การออกกำลังกายแบบ HIIT การใช้บาร์ และการวิ่งพร้อมฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เป็นต้น

สำหรับการออกกำลังกายในปี 2024 นี้ การออกกำลังกายของคุณจะง่ายกว่าเดิม เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และวิทยาศาสตร์การกีฬา เทรนด์การออกกำลังกายจึงเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและความสะดวก ง่ายต่อการเข้าถึง โดยผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับการออกกำลังกายแบบดั้งเดิม ซึ่งปีนี้มีเทรนด์การออกกำลังกายที่น่าจับตามอง ที่แนะนำโดย ซาแมนธา เคลย์ตัน รองประธานฝ่ายสมรรถภาพการกีฬาและฟิตเนสระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ ไว้ 5 ข้อดังนี้

  1. การใช้อุปกรณ์การติดตามการออกกำลังกาย (Fitness tracking)

เช่น สมาร์ตวอตช์ แหวน หรือแอปพลิเคชันฟิตเนสแทร็กเกอร์ ในการติดตามผลของแคลอรี ระยะทาง ความเร็ว อัตราเต้นของหัวใจ และด้านสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบผลลัพธ์ ตั้งเป้าหมาย และปรับเปลี่ยนโปรแกรมการออกกำลังกายให้เหมาะสม

ที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้ว่าอัลกอริธึมของอุปกรณ์เหล่านี้ จะไม่ได้แม่นยำสมบูรณ์แบบ 100% แต่กลับพบว่าคนที่ใช้อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายนั้น มีความรับผิดชอบและออกกำลังกายมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกใช้อุปกรณ์ตามความเหมาะสมกับรูปแบบการออกกำลังกายของแต่ละคนนะครับ

  1. การออกกำลังกายแบบพิลาทิส (Pilates)

เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี 2023 ที่ผ่านมา และในปี 2024 นี้ พิลาทิสก็จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และถือว่ามีประสิทธิภาพมากจนกลายเป็นเทรนด์ที่ยังอยู่เป็นแนวหน้าของโลกแห่งฟิตเนส ทั้งยังได้รับการขนานนามว่า เป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้แก่ร่างกาย และสร้างความมั่นคงของกล้ามเนื้อ โดยปราศจากแรงกระแทกอีกด้วย 

นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังได้เห็นการผสมผสานความสนุกสนานระหว่างการชกมวยและพิลาทิส (Piloxing) เวทเทรนนิ่งกับพิลาทิส รวมถึง คลาสผสมที่ใช้ทั้งเสื่อและเครื่องออกกำลังกาย reformer เพื่อให้ผู้เล่นได้ฝึกฝนและเพลิดเพลินไปกับประโยชน์ของพิลาทิสได้จากที่บ้านผ่านชั้นเรียนออนไลน์ หรือเข้าร่วมกับเพื่อน ๆ ที่สตูดิโอใกล้บ้านได้

แม้คลาสพิลาทิสจะดูทันสมัย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้วการออกกำลังกายแบบพิลาทิสนี้ มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1920 นั่นคือ มีอายุมากว่า 100 ปีแล้วนั่นเองครับ

  1. การวิ่ง (Running)

การวิ่ง เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ดีสำหรับสร้างสมรรถภาพหัวใจ หลอดเลือด สร้างความทนทานของกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงของร่างกาย ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอารมณ์

ที่สำคัญคือ การวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด มีเพียงแค่รองเท้า 1 คู่ กับร่างกายและจิตใจที่พร้อมจะออกกำลังกาย เราทุกคนก็สามารถสร้างสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรงได้แล้วครับ หรือหากใครชอบเดินก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะการเดินก็ให้ประโยชน์ที่น่าทึ่งพอ ๆ กับการวิ่งเลยครับ

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดการวิ่ง จึงเป็น 1 ในเทรนด์การออกกำลังกายของทุกปี และเป็น 1 ในใจผู้คนเสมอมา ใช่ไหมครับ

  1. การออกกำลังกายแบบกลุ่ม (Group Exercise)

ช่วยให้การออกกำลังกายของคุณมีความสนุกสนานยิ่งขึ้น ซึ่งการได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ นั้น จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ลดความเบื่อหน่าย ทั้งยังช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ดีขึ้นอีกด้วย

เนื่องจากการออกกำลังกายแบบกลุ่ม หรือการตั้งคอมมูนิตี้ฟิตเนส เช่น การปั่นจักรยาน การเข้าคลาสโยคะ หรือคลาสเต้นรำนั้น ผู้คนในคอมมูนิตี้หรือในคลาส ต่างมีส่วนช่วยสร้างความรับผิดชอบ ช่วยกันเสริมแรงจูงใจ และคอยสนับสนุนให้ทุกคนได้ทำตามแผนการออกกำลังกายที่วางไว้ไปพร้อม ๆ กัน

และคุณรู้หรือไม่ว่า ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการออกกำลังกายแบบกลุ่มจนกลายเป็นคอมมูนิตี้นี้ ไม่ได้ส่งผลดีแค่เรื่องการออกกำลังกายเท่านั้น หลาย ๆ ครั้งยังขยายผลความสัมพันธ์ไปคอยดูแลทั้งเรื่องอาหารการกินและเรื่องจิตใจแก่สมาชิกในกลุ่มออกกำลังกายอีกด้วย เรียกได้ว่า ช่วยให้สุขภาพดีทั้งกายและใจเลยละครับ

  1. การใช้ AI เพื่อออกแบบความต้องการเฉพาะบุคคล (AI Fitness / AI Fitness Coach)

ประสบการณ์การออกกำลังกายแบบเฉพาะบุคคล จะเป็นเทรนด์สำคัญต่อเนื่องไปอีกหลายปี เมื่อเราใช้งานอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย (Fitness tracking) ร่วมกับ AI ซึ่งจะเป็นการปฏิวัติโปรแกรมการออกกำลังกายแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคน บนเส้นทางสุขภาพที่เราสามารถเลือกเองได้ ทั้งยังช่วยนำทางไปสู่เป้าหมายการออกกำลังกายที่เหมาะสมในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งในปัจจุบัน AI กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถแนะนำผู้ใช้ผ่านกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนและเหมาะสมกับแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้น

นี่คือเทรนด์หรือแนวโน้มการออกกำลังกายของปี 2024 นี้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายคือ การใช้ชีวิตให้สมดุลทั้งการออกกำลังกายให้เหมาะสม กินอาหารแต่พอดี และพักผ่อนให้เพียงพอ… อย่าลืมเลือกเทรนด์ที่เหมาะกับคุณ แล้วเริ่มต้นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีในปี 2024 ไปด้วยกันนะครับ