การเอาอกเอาใจผู้อื่น ความสมบูรณ์แบบ และการให้ความสำคัญกับผู้อื่นเป็นอันดับแรก แม้จะดูเหมือนเป็นคุณสมบัติที่ดี และเป็นการทำให้คนส่วนมากรักในตัวคุณ แต่ความจริงแล้วคุณสมบัติเหล่านี้อาจหันกลับมาทำลายความสุขที่แท้จริงของคุณได้

Good Girl Syndrome คืออะไร?

แนวคิดเรื่อง Good Girl Syndrome ไม่ได้เกิดขึ้นจากการแพทย์ แต่เป็นผลผลิตของวัฒนธรรมสมัยนิยม ซึ่งเป็นวลีที่คุณมักจะพบเห็นในฟีดโซเชียลมีเดีย ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญก็ได้กล่าวว่าแนวคิดนี้ถือเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์ และช่วยให้ผู้หญิงหลายคนที่ประสบกับอาการดังกล่าวได้รู้เท่าทัน และหาวิธีแก้ต่อไป

โดยผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า อาการของ Good Girl Syndrome เป็น “การสำแดงลักษณะที่มีคุณค่าหรือน่ายกย่องในตัวผู้หญิง เกี่ยวพันกับการที่ครอบครัวรวมถึงผู้คนภายนอกครอบครัว เช่น ครู มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กผู้หญิงอย่างไร และปฏิสัมพันธ์เหล่านั้นส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้หญิงแต่ละคนอย่างไร”

ให้ลองนึกถึงคำว่า “ผู้หญิงดี”  ในภาพจินตนาการทุกคนจะนึกถึงภาพของสาวสวยเงียบ ๆ เชื่อฟังและคอยดูแลผู้อื่น ไม่สร้างปัญหา สิ่งนี้มีรากฐานมาจากความคาดหวังแบบเหมารวมของสังคมว่าผู้หญิงควรเป็นอย่างไรและมีบทบาทอย่างไร  

เมื่อผู้ที่เป็น Good Girl Syndrome เบี่ยงเบนไปจากพฤติกรรม “คนดี” ที่ว่าแล้ว พวกเธอจะรู้สึกผิด หรือกลัวที่จะถูกตัดสินในแง่ลบ


สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็น Good Girl Syndrome

Good Girl Syndrome ไม่ใช่ภาวะสุขภาพจิตที่สามารถวินิจฉัยได้ มันเหมือนกับการรวมกลุ่มของลักษณะพฤติกรรมบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเมื่อพฤติกรรมเหล่านั้นถูกนำมาใช้อย่างไม่มีลิมิต ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะมองตัวเองในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณได้ปฏิบัติตนในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของคุณจริง ๆ หรือไม่

หากความจำเป็นในการเป็น “ผู้หญิงที่ดี” ส่งผลต่อสุขภาพจิตและความสุขในชีวิตประจำวัน รวมถึงความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง อาจถึงเวลาที่คุณต้องหยุดมัน!

สำหรับคนที่มีอาการ  Good Girl Syndrome จะมีคุณลักษณะ 6 ประการ ดังนี้

1.ต้องการความสมบูรณ์แบบ

การเป็นทุกสิ่งสำหรับทุกคนนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่หลายคนก็ยังไม่หยุดพยายามที่จะเป็นทุกสิ่ง การมีความคาดหวังต่อตนเองสูง จะช่วยทำให้คุณมีทิศทางและระเบียบวินัยที่ชัดเจนก็จริง แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อคุณยึดถือความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองจากสิ่งที่คุณทำสำเร็จ หรือหากคุณกำลังเผชิญกับกลุ่มอาการ Good Girl Syndrome ความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก็จะก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่คนอื่นมองคุณ 

2.ต้องเป็นที่ถูกใจของคนอื่น

การทำให้ผู้คนพอใจเป็นอีกอาการหนึ่งของ Good Girl Syndrome และมักจะเก่งในการคาดการณ์สิ่งที่คนอื่นต้องการ รู้สึกถึงความปลอดภัย รวมถึงความคุ้มค่าเมื่อได้ตอบสนองความต้องการของคนอื่นได้สำเร็จ แต่ผลเสียก็คือคุณจะไม่พูด หรือโต้แย้งใด ๆ หากถูกคนเหล่านั้นปฏิบัติอย่างโหดร้าย หรือสั่งให้คุณทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ 

ถือว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่คุณรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ต่อผู้อื่นเท่านั้น ผู้ที่เป็น Good Girl Syndrome จะจ้องไปที่การเติมเต็มความต้องการที่ใหญ่โตและยากที่จะควบคุมได้ เช่น การเป็นคู่ชีวิตในอุดมคติ เป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด 

3.ให้ความสำคัญกับคนอื่นก่อน

คุณเคยได้ยินคำว่า “การละทิ้งตนเอง” บ้างไหม ? มันหมายถึงการเสียสละเพื่อผู้อื่น บางทีคุณอาจละทิ้งงานที่คุณรักเพื่อเลี้ยงลูกเพราะคนรักของคุณไม่เต็มใจที่ทำสิ่งนี้ บางทีคุณอาจตกลงที่จะไปร้านอาหารกลางวันจานโปรดของเพื่อนร่วมงาน แม้ว่าคุณจะอยากลองร้านอาหารใกล้ ๆ ก็ตาม บางทีคุณอาจขับรถไปกลับ 3 ชั่วโมง เพื่อเยี่ยมพ่อแม่ทุกสุดสัปดาห์ แม้ว่าพี่สาวของคุณจะยังอาศัยอยู่แถวบ้านก็ตาม

ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผู้ที่เป็น Good Girl Syndrome จะให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอ

4.ปัญหาเกี่ยวกับภาพลักษณ์ร่างกาย

ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกว่าตนเองต้องมีลักษณะบางอย่างเพื่อทำให้ผู้อื่นพอใจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความผิดปกติของการรับประทานอาหาร กับกลุ่มคนที่มีอาการ  Good Girl Syndrome จึงมักมาคู่กัน

คนที่เป็น Good Girl Syndrome อาจทำสิ่งที่ทำลายตนเองภายใต้เงื่อนไขของความงามเช่นกัน คุณอาจทำศัลยกรรมเพื่อให้ดูเหมือนคนอื่น ใช้เงินมากมายเพื่อซื้อกระเป๋าหรู ใช้สารหรือยาในทางที่ผิดเพื่อพยายามเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง

5.ปัญหาทางเพศ

ปัญหาทางเพศเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ Good Girl Syndrome ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่าผู้หญิงเหล่านี้มักถูกมองว่าไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ ซึ่งทำให้เกิดภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อพวกเธอต้องถูกตัดสินด้วยเรื่องทางเพศ โดยอาการจะมีดังนี้

  • กลัวหรือรู้สึกผิดเกี่ยวกับการมีความต้องการเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกิจกรรมทางเพศที่คุณต้องการไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ทั่วไปของผู้หญิงที่ดี
  • เกิดความยากลำบากในการทำความเข้าใจความต้องการและความปรารถนาทางเพศของตัวเองเพราะคุณให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของคู่คุณก่อนเสมอ
  • การประหม่าเกี่ยวกับร่างกายหรือสิ่งอื่นที่ขัดขวางไม่ให้คุณมีความสุขอย่างเต็มที่กับคู่นอน
  • ความกดดันต่อเรื่องเพศหรือกิจกรรมทางเพศที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่กล้าเอ่ยปาก

6.บาดแผลจากอดีต

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ผู้ที่ต่อสู้กับอาการ Good Girl Syndrome ในรูปแบบที่รุนแรงมักจะประสบกับบาดแผลทางใจในวัยเด็ก บางครั้งพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการนี้ เช่น บุคคลที่เติบโตมาในครอบครัวที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกาย พวกเธออาจจะเงียบขรึม ยอมตาม และเอาแต่ใจตัวเอง พวกเธออาจพยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดู “สมบูรณ์แบบ” เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และพวกเธออาจได้รับการฝึกฝนให้ซ่อนอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง 

การที่ต้องอยู่ในความรู้สึกกลัว วิตกกังวล จากประสบการณ์ในอดีตอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) และความวิตกกังวล ระบบประสาทของคุณมีความตื่นตัวมากเกินไปเพราะต้องการให้คุณปลอดภัยจากอันตรายที่เคยประสบมา นี่เป็นวิธีที่สมเหตุสมผลสำหรับสมองในการตอบสนองต่อบาดแผลเก่า ๆ แต่การตื่นตัวตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน จะทำให้เกิดความเครียดอย่างมากต่อร่างกายและสมองของคุณ

Good Girl Syndrome ส่งผลต่อสุขภาพจิต

การทำดีต่อผู้อื่นหรืออยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนดีไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรรู้ว่าการบังคับตัวเองให้ทำบางอย่างเพื่อความสุขของผู้อื่นเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ดีต่อสุขภาพจิตของคุณอย่างยิ่ง

กลุ่มอาการ Good Girl Syndrome เป็นอุปสรรคต่อหลายสิ่งที่คุณใฝ่ฝัน เนื่องจากคุณมักจะกังวลเกี่ยวกับตัวเอง เช่น คำพูดหรือการกระทำของคุณจะทำให้คุณผิดหวังในตัวเองหรือคนอื่นอาจต้องผิดหวังในตัวคุณ นั่นเป็นสาเหตุที่กลุ่มอาการนี้มักทำให้คุณเติบโตได้ยาก โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์

ในความเป็นจริงคุณไม่จำเป็นต้องบังคับและทรมานตัวเองเพื่อพิสูจน์ความดี ดังนั้น ปลดปล่อยตัวเองจากแรงกดดันทางสังคม ก่อนที่ความกดดันเหล่านั้นจะทำให้สุขภาพจิตคุณแย่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

เอาชนะการเป็น Good Girl Syndrome 

หากคุณเห็นตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการตามที่กล่าวมา ให้ลองปรับตัวดังนี้

1.พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อระบุและตรวจสอบความรู้สึกของตัวเอง

เมื่อคุณเป็น Good Girl Syndrome สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่คุณจะต้องดำเนินการในการบำบัดคือการระบุและยืนยันความรู้สึกของตัวเอง

คนที่เป็น Good Girl Syndrome มักจะดูมีความสุขตลอดเวลา ลึก ๆ แล้วอาจรู้สึกโกรธ เดือดดาล ขุ่นเคือง จึงจำเป็นต้องปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมา

2.เรียนรู้ที่จะกำหนดขอบเขต

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามความรู้สึกเหล่านั้นและฝึกกำหนดขอบเขต เช่น พวกเขาอาจช่วยให้คุณเรียนรู้ที่จะพูดว่า “ไม่” กับคนอื่นโดยไม่รู้สึกว่าคุณกำลังทำอะไรผิด แม้ว่าบางครั้งการยืนหยัดเพื่อตัวเองอาจทำให้คนรอบตัวคุณมีปฏิกิริยาเชิงลบก็ตาม สิ่งสำคัญคือคุณควรถามตัวเองว่า “ฉันกำลังตอบสนองความต้องการของตัวเอง หรือเป็นเพียงการตอบสนองความต้องการของผู้อื่นเท่านั้น ? 

3.ทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง

เมื่อคุณไม่ฟังสัญชาตญาณของตัวเอง มันจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือตกอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายมาก หากคุณกลัวที่จะหยาบคาย คุณอาจไม่ฟังสัญชาตญาณของตัวเองและถอยห่างจากคนที่เป็นพิษหรือเป็นอันตราย ซึ่งความจริงแล้วคุณอาจกำลังพยายาม “แก้ไข” พวกเขาหรือเอาชนะใจพวกเขาให้ได้ บางทีการทำตามความรู้สึกและสัญชาตญาณความต้องการของตัวเองก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์หรือฝืนทำอะไรเพื่อเป็นการเอาชนะใจผู้อื่น

Good Girl Syndrome จะเกิดขึ้นเมื่อเด็กผู้หญิงและผู้หญิงวัยทั่วไปยึดหลักวัฒนธรรมเกี่ยวกับวิธีที่พวกเธอ “ควร” ประพฤติตนเพื่อเป็นผู้หญิงที่ดี พฤติกรรมเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ส่วนตัวของคุณได้ อย่าลืมว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้เสมอ

และแม้ว่าจะไม่ใช่ภาวะทางการแพทย์ที่สามารถวินิจฉัยได้ แต่ Good Girl Syndrome ก็สามารถเป็นอันตรายได้เช่นเดียวกัน และมักต้องได้รับความช่วยเหลือจากนักบำบัดเพื่อเอาชนะอาการนี้ เพราะการเลิกพฤติกรรมที่ต้อง “เป็นคนดี” ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คุ้มค่ากับความพยายามเพื่อสุขภาพจิตของตัวคุณเอง 

ที่มา clevelandclinic , cxomedia

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส