วันที่ 3 สิงหาคม 2565 รายงานงบการเงินไตรมาสที่ 2 ของ MicroStrategy เปิดเผยว่าบริษัทขาดทุนจากการถือบิตคอยน์ไป 918,000,000 เหรียญ (ราว 33,000 ล้านบาท) เข้าไปแล้ว เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 428,800,000 เหรียญ (ราว 16,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีประกาศว่า ผวง เหลอ (Phuong Le) ประธานบริษัท จะมาดำรงตำแหน่งประธานบริหาร (CEO) แทน ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริหารมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 1989 อีกด้วย ซึ่งเซย์เลอร์จะดำรงตำแหน่งเป็นประธานบอร์ดบริหารแทนหลังจากนี้

ถึงแม้บริษัทที่ถือบิตคอยน์เยอะเป็นอันดับ 2 อย่างเทสลา จะทำการขายบิตคอยน์ไปแล้ว 75% แต่ MicroStrategy ก็ยังคงยืนหยัดที่จะถือบิตคอยน์ต่อไป แม้ราคาจะร่วงลงมามากแค่ไหนก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทยังซื้อบิตคอยน์เพิ่มขึ้น 480 บิตคอยน์อีกด้วย

MicroStrategy ถือบิตคอยน์อยู่ 129,699 บิตคอยน์ โดยมีต้นทุนอยู่ราว 4,000 ล้านเหรียญ (ราว 144,000 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับราคาบิตคอยน์ปัจจุบัน มูลค่าบิตคอยน์ที่บริษัทถืออยู่ตอนนี้มีประมาณ 3,200 ล้านเหรียญ (ราว 115,000 ล้านบาท) ซึ่งขาดทุนไปเกือบ 1,000 ล้านเหรียญ (ราว 36,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ที่มา: Coindesk

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส