วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,500.97 จุด และเคลื่อนไหวในแดนบวกที่ระดับ 1,503.09 จุด คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 6.13 จุด หรือ 0.41% สะท้อนว่านักลงทุนยังคงเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง และรอฟังผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้

ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. กรณีถือครองหุ้นสื่อไอทีวี และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในตลาดหุ้นไทย โดยหุ้นกลุ่มทุนใหญ่ เช่น GULF และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น GPSC, BGRIM, EGCO และ GUNKUL ปรับตัวบวกทั้งหมดอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.30 น. หุ้นไทยเริ่มปรับตัวลดลง เนื่องจากการโต้กลับของเลขาธิการพรรคก้าวไกลที่ระบุว่า มติดังกล่าวของ กกต. ดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งอาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

นอกจากนี้ มติดังกล่าวของ กกต. ยังทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองที่สำคัญ ทำให้เกิดการนัดชุมนุมของมวลชนในหลายจังหวัด และมีบางส่วนที่ทยอยเดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา เพื่อรอฟังผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค. 66)

ล่าสุด หุ้นไทยปิดตลาดในแดนลบที่ระดับ 1,491.14 คิดเป็นการปรับลดลง 5.82 จุด หรือ – 0.39% รวมมูลค่าการซื้อขาย 52,288.15 ล้านบาท

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส