ช่วงต้นเดือนนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ประกาศข่าวใหญ่กับผู้ถือหุ้นถึงการก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารภายในสิ้นปี 2025 โดยจะส่งไม้ต่อให้กับเกร็ก เอเบล (Greg Abel) รองประธานกลุ่มที่ไม่ใช่ธุรกิจประกัน ซึ่งจะรับหน้าที่บริหารเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ (Berkshire Hathaway) ต่อ ส่วนตัวบัฟเฟตต์จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการต่อไป
แต่ล่าสุด นักลงทุนสาย VI ต้องจับตาอีกครั้ง เมื่อบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ได้ส่งสัญญาณปรับพอร์ตครั้งใหญ่ในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยขายหุ้นธนาคารรายใหญ่หลายแห่ง พร้อมเพิ่มน้ำหนักหุ้นในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ มีการเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงไตรมาสแรก ขาย Citigroup จำนวน 14.6 ล้านหุ้น ออกทั้งหมด แบบเกลี้ยงไม่เหลือติดพอร์ต ขณะเดียวกัน มีการลดสัดส่วนการถือหุ้น Bank of America ลง 48.6 ล้านหุ้น หรือลดลงราว 7% และลดการถือหุ้น Capital One ลงอีก 300,000 หุ้น หรือประมาณ 4%
ไม่เพียงแค่นั้น เบิร์กเชียร์ยังขายหุ้น Nu Holdings ออกทั้งหมด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Nubank ธนาคารดิจิทัลจากบราซิล ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นหนึ่งในความหวังของเบิร์กเชียร์ในกลุ่ม FinTech รุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนบริษัทกำลังออกจากความเสี่ยงในกลุ่มการเงินไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อหุ้น Constellation Brands (STZ) ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างหนัก โดยซื้อเพิ่มกว่า 6.38 ล้านหุ้น ทำให้สัดส่วนการถือครองเพิ่มขึ้นถึง 113% รวมเป็น 12 ล้านหุ้น ถือเป็นดีลซื้อที่ใหญ่ที่สุดที่เซอร์ไพรส์ตลาดในรอบไตรมาสนี้
ส่วนหุ้น Apple ที่เคยเป็นหัวใจของพอร์ต ก็ยังคงสถานะเดิมไว้ที่ 300 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 25% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมดของเบิร์กเชียร์ โดยในไตรมาสนี้ไม่มีการขยับเพิ่มหรือลดใด ๆ
ทั้งนี้ในไตรมาสล่าสุด เบิร์กเชียร์มียอดขายหุ้นสุทธิมากกว่าซื้อ โดยขายหุ้นไปมูลค่า 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 155,100 ล้านบาท) และซื้อเพียง 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 105,600 ล้านบาท) ส่งผลให้เม็ดเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในมือเบิร์กเชียร์พุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 3.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 11 ล้านล้านบาท
โดยการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแบบฟอร์ม 13F ที่นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ต้องยื่นต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทุกสิ้นไตรมาส แม้จะเป็นข้อมูลย้อนหลังและไม่เปิดเผยสถานะ Short Position แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตากลยุทธ์ของนักลงทุนรายใหญ่