ในยุคที่ทุกอย่างต้องเร็วทันใจ การโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันมือถือกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะจ่ายค่ากาแฟ, โอนให้เพื่อน หรือจ่ายบิลก็ทำได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส

แต่ความสะดวกสบายนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “การโอนเงินผิดบัญชี” ซึ่งแม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อย หากเกิดขึ้นแล้วก็สร้างความปวดหัวให้กับทั้งคนโอนและคนรับได้ไม่น้อย

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าธนาคารมีอำนาจที่จะดึงเงินกลับมาได้ทันทีที่แจ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธนาคารไม่สามารถทำแบบนั้นได้หากยังไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของบัญชีปลายทาง เพราะเมื่อเงินเข้าบัญชีไปแล้ว เงินนั้นก็ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของบัญชีนั้นๆ ตามกฎหมาย

ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจึงต้องอาศัยขั้นตอนที่ถูกต้องและอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย บทความนี้จะมาสรุปทุกเรื่องที่คุณควรรู้ ทั้งกรณีที่เราเผลอโอนผิด และกรณีที่ใครไม่รู้โอนมาให้เรา

เราจึงต้องมีสติและทำตามขั้นตอนอย่างใจเย็น เพราะการจัดการที่ผิดพลาดอาจทำให้เราเสียทั้งเงินและเสียเวลาในการดำเนินคดีที่ยุ่งยากตามมาได้

เมื่อเราเป็นคนโอนผิดไปให้คนอื่น

ถ้าคุณเป็นคนที่โอนเงินผิดบัญชีไปแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือตั้งสติให้ดี อย่าเพิ่งตื่นตระหนก สิ่งที่ต้องทำทันทีคือรวบรวมหลักฐานและรีบไปติดต่อธนาคารของคุณ (ธนาคารต้นทาง) เพื่อแจ้งปัญหา หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้คือข้อมูลวัน-เวลา, จำนวนเงิน, ช่องทางการโอน และที่สำคัญที่สุดคือใบสลิปการโอนเงิน ไม่ว่าจะเป็นสลิปจริงจากตู้ ATM หรือ e-slip จากแอปพลิเคชันมือถือ

เมื่อธนาคารได้รับเรื่องแล้ว พวกเขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อติดต่อบัญชีปลายทางและขอความยินยอมในการโอนเงินคืนให้ ซึ่งหากเจ้าของบัญชีปลายทางมีเจตนาดีและยินยอมโอนเงินคืนให้ การดำเนินการก็จะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและคุณจะได้เงินคืนอย่างครบถ้วน

แต่ถ้าโชคร้ายที่ธนาคารติดต่อแล้วแต่ผู้รับโอนไม่ยอมคืนเงิน หรือไม่สามารถติดต่อได้เลย ขั้นตอนนี้จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ธนาคารจะให้หลักฐานการติดต่อกับคุณ จากนั้นคุณจะต้องนำหลักฐานดังกล่าวไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตำรวจออกคำสั่งทางกฎหมายให้ธนาคารของบัญชีปลายทางอายัดบัญชีหรือเปิดเผยข้อมูลเพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

เมื่อมีคนโอนเงินผิดเข้ามาในบัญชีของเรา

ในทางกลับกัน ถ้าคุณตื่นเช้ามาแล้วพบว่ามีเงินปริศนาโอนเข้ามาในบัญชีของคุณ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าโอนเงินกลับไปเองเด็ดขาด!” เพราะมีกรณีที่มิจฉาชีพใช้บัญชีของเราเป็นทางผ่านในการฟอกเงิน หรือที่เรียกกันว่า “บัญชีม้า” โดยมิจฉาชีพอาจจะมาหลอกให้เราโอนเงินกลับไปให้ในอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นคนละชื่อหรือคนละธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ถ้าทำแบบนั้นเราอาจกลายเป็นผู้กระทำความผิดโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น หากพบเงินแปลกๆ เข้ามา ให้รีบติดต่อธนาคารของคุณโดยตรงทันที เพื่อให้ธนาคารเป็นคนตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นการโอนเงินผิดพลาดจริงหรือไม่ หากใช่ ก็ให้ความยินยอมแก่ธนาคารในการโอนเงินกลับคืนไปให้เจ้าของที่ถูกต้องได้เลย การทำตามขั้นตอนนี้จะช่วยปกป้องตัวคุณเองจากมิจฉาชีพและยังเป็นการแสดงความสุจริตใจอีกด้วย

และสิ่งที่ควรตระหนักไว้เสมอคือ เงินที่โอนผิดมาไม่ใช่ “ลาภลอย” ของคุณ ตามกฎหมายแล้ว หากคุณเพิกเฉยหรือนำเงินที่ได้รับมาไปใช้จ่าย เจ้าของเงินที่แท้จริงสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับคุณได้ในที่สุด

ปัญหาเรื่องการโอนเงินผิดบัญชีเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนจะกดยืนยันการโอนเงินทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัญชีหรือพร้อมเพย์, ชื่อบัญชี, ชื่อธนาคาร และจำนวนเงิน หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นแล้วจริงๆ ให้ตั้งสติและจำไว้เสมอว่าต้องรีบติดต่อธนาคารต้นทางทันที และไม่ควรหลงเชื่อใครง่ายๆ จนยอมโอนเงินกลับเองโดยไม่ผ่านธนาคาร การทำตามคำแนะนำจากธนาคารคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ