ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังโตช้า และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดูเหมือนว่าคนไทยจะปรับตัวเข้าสู่ “โหมดระมัดระวัง” อย่างเต็มรูปแบบ กรุงศรี คอนซูเมอร์ ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2568 ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนตัวเลขยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 286,300 ล้านบาท แต่ยังฉายภาพพฤติกรรมที่น่าสนใจของผู้บริโภคในยุค “รัดเข็มขัด” ได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลชี้ว่า ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลง และหันมาเน้นการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น รวมถึงการวางแผนระยะยาวมากขึ้น
“จำเป็น” อยู่ก่อน “ฟุ่มเฟือย” ไว้ทีหลัง
เมื่อเจาะลึกใน 5 อันดับหมวดใช้จ่ายสูงสุด (เรียงตามยอดใช้จ่าย) จะเห็นภาพที่ชัดเจนว่าคนไทยให้ความสำคัญกับอะไร:
- ประกันภัย
- ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ
- ปั๊มน้ำมัน
- ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน
- ช้อปออนไลน์
สามอันดับแรกคือการ “ตั้งรับ” กับชีวิต ทั้งความมั่นคง (ประกัน) ปากท้อง (ซูเปอร์มาร์เก็ต) และการเดินทาง (น้ำมัน) สะท้อนการวางแผนที่รัดกุม
ส่อง 5 หมวด “โตแรง” สวนกระแส
แต่ในขณะที่ยอดใช้จ่ายรวมดูเหมือนจะ “ระมัดระวัง” ข้อมูลอีกด้านกลับน่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นคือ 5 อันดับหมวดใช้จ่ายที่มี “อัตราเติบโตสูงสุด” ซึ่งเผยให้เห็นว่าคนไทย “เลือก” ที่จะใช้เงินกับอะไร:
- โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน
- แอปดิลิเวอรี
- กองทุนรวม
- ตัวแทนท่องเที่ยว
- ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ
การเติบโตนี้สะท้อนเทรนด์ชัดเจนว่า แม้จะประหยัดเรื่องอื่น แต่คนไทยยอมจ่ายเพื่อ “ความสะดวกสบายทางดิจิทัล” (แอป, ดิลิตเวอรี) “ความมั่นคงในอนาคต” (กองทุนรวม) และ “การเยียวยาจิตใจ” (การท่องเที่ยว)
ผลงานกรุงศรีฯ Q3/68: โตเหนือตลาด บริหารหนี้รัดกุม
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ในภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 422,800 บัญชี ยอดสินเชื่อใหม่ 68,400 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 134,300 ล้านบาท ซึ่งยังเติบโตได้ดีกว่าตลาด
จุดแข็งที่สำคัญคือการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม โดยสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจ โดยอยู่ที่ 1.3% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.2% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล
กลยุทธ์ Q4: ปรับผลิตภัณฑ์-อัดโปรฯ รับไฮซีซัน
แม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่สูงและความเชื่อมั่นที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่กรุงศรี คอนซูเมอร์ ยังมองเห็นปัจจัยบวกในไตรมาส 4 ทั้งฤดูกาลท่องเที่ยวและการจับจ่าย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐอย่าง “คนละครึ่งพลัส” และ “เที่ยวดีมีคืน” ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในระบบ และส่งผลดีทางอ้อมต่อธุรกิจบัตรเครดิต
บริษัทจึงปรับกลยุทธ์เพื่อ “โตอย่างมีคุณภาพ” โดยเน้นการบริหารต้นทุน และผนึกกำลังบัตรเครดิตในเครือจัดโปรโมชัน “กรุงศรีช่วยคุณเปย์เซฟ” มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% ในหมวดที่คนใช้จ่ายเป็นประจำ (เช่น ร้านอาหาร, ท่องเที่ยว, เติมน้ำมัน)
นอกจากนี้ยังมีการ “ยกเครื่อง” ผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เช่น:
- บัตรกดเงินสดเฟิร์สช้อยส์: ชูจุดเด่น “อนุมัติไว…เข้าใจคนรอ”
- บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน: พลิกโฉมแบรนด์และเพิ่มสิทธิประโยชน์ “T1 Dynamic Points”
- บัตรเครดิตโลตัส: ปรับใหม่สู่ “โลตัสมันนี่คอยน์” โปรแกรมสะสมคะแนนแบบใหม่
- บัตรเครดิต กรุงศรี (เรือธง): ปรับโฉมและยกระดับสิทธิประโยชน์ ช้อป เที่ยว กิน ภายใต้แนวคิด ‘Life Worth Living’
จากการปรับกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ กรุงศรี คอนซูเมอร์ ประเมินว่าภายในสิ้นปี 2568 จะสามารถสร้างยอดใช้จ่ายผ่านบัตรได้ 400,000 ล้านบาท มียอดสินเชื่อใหม่ 94,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 143,000 ล้านบาท