วันที่ 12 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นวันที่ 2 ว่า ภาพรวมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเป็นบรรยากาศที่ดี มีความสร้างสรรค์ และจัดสรรเวลาได้ดี รวมถึงมีบางข้อเสนอที่รัฐบาลพร้อมนำไปพิจารณา

สำหรับนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า เงื่อนไขการใช้งานในรัศมี 4 กิโลเมตรอาจไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ในชนบท ซึ่งรัฐบาลจะขอดูรายละเอียดอีกครั้ง และปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่

ในเรื่องของกรอบระยะเวลา 6 เดือนนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท มีความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ที่มีความสำคัญ ผ่านการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทุกคนควรเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปใช้จ่ายที่นั่น และกระตุ้นการจับจ่ายในท้องถิ่น

สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า เมื่อเข้ากระทรวงการคลังแล้ว จะมีการประชุมลงลึกในรายละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ตนพร้อมรับข้อเสนอเรื่องการแก้ไขการหักหัวคิว ซึ่งตนเข้าใจถึงปัญหาและจะต้องนำไปเขียนไว้ในข้อบังคับ

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นวันที่ 2

ภายในวันเดียวกัน (12 ก.ย. 66) นายเศรษฐาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกในวันที่ 13 กันยายน 2566 รัฐบาลจะออกมาตรการหลายอย่างในการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน เช่น การลดค่าไฟฟ้า การลดราคาน้ำมัน ซึ่งรายละเอียดนั้นขอให้รอฟังหลังการประชุม ครม.

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส