นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายเดวิด หลี่ (David Li) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด โดยระบุว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมของหัวเว่ยจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม

ปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมมีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศ อาทิ การพัฒนาท่าอากาศยานและท่าเรือให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

นายสุริยะกล่าวว่า การขนส่งในประเทศจะมุ่งเน้นไปที่การขนส่งจากทางถนนเป็นทางรางมากยิ่งขึ้น เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ซึ่งขณะนี้ประเทศมีสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP ประมาณ 14% ซึ่งสูงกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีสัดส่วนอยู่ที่น้อยกว่า 10% ของ GDP

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) มาใช้งาน จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุง และอำนวยความสะดวกให้การเดินทางของประชาชนมีความรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยปรับปรุงมาตรฐานด้านระบบราง เพื่อพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศอย่างยั่งยืน ตลอดจนการบูรณาการในการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลแบบเรียล์ไทม์ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านการขนส่งอย่างใกล้ชิด

นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวเสริมว่า หัวเว่ยมีความยินดีในการสร้างความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม ทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้ในระบบคมนาคมขนส่ง การพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมบุคลากรด้านเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างการขนส่งอัจฉริยะของประเทศไทย

ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานอัจฉริยะ ท่าเรืออัจฉริยะ ท่าเรือบก (Dry Port) การพัฒนารถไฟในเมืองอัจฉริยะ และและการพัฒนาถนนอัจฉริยะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส