ท่ามกลางกระแสข่าวการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ล่าสุดสนามบินนานาชาติดับลิน (Dublin Airport) ในไอร์แลนด์ต้องเผชิญกับสถานการณ์โกลาหลเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

หลังระบบเช็คอินและระบบจัดการสัมภาระที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้สายการบินจำนวนมากต้องหันมาใช้ระบบแบบแมนนวล ส่งผลให้เที่ยวบินดีเลย์และยกเลิกเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัท Collins Aerospace ซึ่งเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ MUSE ที่ให้บริการระบบเช็คอินและระบบจัดการสัมภาระแก่หลายสายการบินในยุโรป ยอมรับว่าระบบของพวกเขาถูกโจมตีทางไซเบอร์

จนทำให้ระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสารที่สนามบินดับลิน รวมถึงสนามบินใหญ่อื่นๆ ในยุโรปอย่าง ลอนดอนฮีทโธรว์ (London Heathrow), บรัสเซลส์ (Brussels) และเบอร์ลิน (Berlin)

ทางโฆษกของสนามบินดับลินออกมายืนยันว่า ณ เวลาเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินถูกยกเลิกไปแล้วถึง 13 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 9 เที่ยวบินและขาออก 4 เที่ยวบิน โดยสายการบิน Aer Lingus เป็นสายการบินหลักในไอร์แลนด์ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุด ซึ่งทางสายการบินได้แนะนำให้ผู้โดยสารเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อลดความแออัดและลดความล่าช้าภายในสนามบิน

เหตุการณ์นี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความเปราะบางของระบบเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการบินที่ต้องพึ่งพาระบบเหล่านี้ในการทำงานหลัก เมื่อระบบใดระบบหนึ่งล่ม ก็สามารถส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่พร้อม ๆ กันได้