‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ได้เข้าฉายในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้ว โดยทำรายเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปมากถึง 185 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถิติรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ สูงสุดประจำปี 2022 นี้ แซงหน้า ‘The Batman’ ที่ทำรายได้เปิดตัวไ 134 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท

ทั้งนี้เว็บไซต์ Deadline ยังได้รายงานว่า ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ กวาดรายได้ทั่วโลกรวมกันไปแล้วถึง 450 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 15,500 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถิติรายได้เปิดตัวทั่วโลกสูงสุดลำดับที่ 2 ในช่วงที่ Covid-19 ระบาดนี้ รองจาก ‘Spider-Man: No Way Home’ (2021)

นอกจากนี้ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ยังเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 4 ของแฟรนไชส์ MCU (Marvel Cinematic Universe) รองจาก ‘Avengers: Endgame’ (2019), ‘Spider-Man: No Way Home’ (2021) และ ‘Avengers: Infinity War’ (2018)

Doctor Strange in the Multiverse of Madness

‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ เป็นการสานต่อเรื่องราวจาก ‘Spider-Man: No Way Home’ และซีรีส์ “WandaVision” ซึ่งเป็นการผลักดันเฟสที่ 4 ของแฟรนไชส์ MCU เข้าสู่เส้นเรื่อง Mutiverse อย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ยังเป็นการนำผู้กำกับ แซม ไรมี (Sam Raimi) จาก ‘Spider-Man’ ไตรมาสแรกที่นำแสดงโดย โทบีย์ แมไกวร์ (Tobey Maguire) เข้าสู่จักรวาล MCU อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกอีกด้วย

อ้างอิง(1), อ้างอิง(2)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส