[รีวิว]ทาสปีศาจ The Blue Whisper : แฟนตาซีดราม่า ที่ตับพังแบบตะมุตะมิ

Our score

8.4

กำกับ

Chu Yui Bun

เขียนบท

Li Jing Ling

จำนวนตอน

42 ตอน

วันเวลาออกอากาศ

ทุกวันศุกร์ เวลา 10.00 น. (อาทิตย์ละ 5 ตอน)

ช่องทางรับชม

MONOMAX

Our score

8.4

[รีวิว]ทาสปีศาจ The Blue Whisper : แฟนตาซีดราม่า ที่ตับพังแบบตะมุตะมิ

จุดเด่น

1. คอสตูมงานดี สมแล้วที่เป็นฝีมือของคอสตูมดีไซเนอร์มือทองแห่งวงการ
2. เคมีพระนางลงตัวและคาแร็กเตอร์เป๊ะปัง ใครเป็นแฟนนิยายเชื่อว่าไม่ค้านสายตาใด ๆ ทั้งสิ้น
3. ดำเนินเรื่องลื่นไหลน่าติดตาม ไร้จุดน่าเบื่อใด ๆ ทั้งสิ้น

จุดสังเกต

1. โปรดักชันอลังการ ไม่ถึงกับว้าวอะไรมากเพราะไม่ได้หลุดจากมาตรฐานของซีรีส์แฟนตาซีจีน ถึงจะไม่เนียนเต็ม 100 แต่ความสวยงามที่รังสรรค์ถือว่ามองข้ามความบกพร่องในบางฉากไปได้

• บท

  8.0

• โปรดักชัน

  8.0

• การแสดง

  8.0

• ความสนุกตามแนวซีรีส์

  9.0

• ความคุ้มค่าในการรับชม

  9.0

ในยุคที่โลกนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์ แต่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่าอัศจรรย์ มีทั้งมนุษย์ สัตว์และพืชแปลกประหลาดอยู่มากมาย โดยเฉพาะเมื่อฟ้าดินให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต 2 เผ่าคือ เซียนสวรรค์และเซียนพิภพ เซียนสวรรค์เที่ยงธรรมดูแลความเป็นระเบียบ เซียนพิภพทะนงตนและมักละเมิดข้อห้าม เซียนสวรรค์จึงคัดเลือกผู้มีความสามารถมาเป็น ‘ผู้บัญชาการปีศาจ’ เพื่อสั่งสอนเซียนพิภพที่ทะนงตน หรือที่บรรดาเซียนสวรรค์ต่างเรียกพวกเขากันว่า ‘ปีศาจ’ และมีกฎข้อห้ามอยู่ว่าผู้บัญชาการปีศาจห้ามมีความรักกับปีศาจเหล่านั้น

‘จี้อวิ๋นเหอ’ (ตี๋ลี่เร่อปา) เป็นผู้บัญชาการปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นบุปผา หนึ่งใน 4 เกาะที่สามารถใช้พลังควบคุมปีศาจได้ สามารถนำปีศาจมาเป็นทาสรับใช้ได้ แต่ต่อให้จี้อวิ๋นเหอจะเก่งกาจแค่ไหนเธอก็ไร้ซึ่งอิสระ เพราะถูกสะกดด้วยพิษน้ำแข็งทำให้ต้องอยู่ที่เกาะแห่งนี้เพื่อทำหน้าที่ปราบปีศาจแลกกับยาถอนพิษ แต่เมื่อองค์หญิงซุ่นเต๋อ (กัวเสี่ยวถิง) ได้จับตัว ‘ฉางอี้’ (เหรินเจียหลุน) เงือกหนุ่มผู้มีรูปโฉมงดงามแห่งท้องทะเลมาที่หุบเขาหมื่นบุปผา และออกคำสั่งให้กำราบปีศาจเงือกตนนี้ให้จงได้

อวิ๋นเหอที่ต้องการมีชีวิตอิสระ จึงเสนอตัวเข้าร่วมทำภารกิจขององค์หญิงซุนเต๋อ ประมุขแห่งเกาะทั้ง 4 ที่ต้องการให้ปีศาจเงือกยอมพูด ยอมตัดหางทิ้งและเป็นปีศาจทาสรับใช้พระองค์ เพราะเผ่าเงือกมีความสามารถที่เก่งกาจ แต่เป็นเผ่าที่ไม่ยอมเชื่อฟังใครง่าย ๆ แถมฉางอี้ยังมีรูปโฉมที่งดงามสะดุดตาองค์หญิงเข้าซะอีก แต่เมื่ออวิ๋นเหอและฉางอี้ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน กลับเกิดเป็นความรักความผูกพันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ภารกิจที่หวังเอาไว้จำต้องเปลี่ยน อุปสรรคแห่งข้อห้ามจำต้องเกิด ก็ร่ำ ๆ ว่าจะกลายเป็นรักต้องห้ามระหว่างเซียนสองเผ่าซะแล้วละจ้ะ

จากนิยายชื่อดังสู่ซีรีส์อีกแล้วจ้ะ

เรื่องนี้สร้างมาจากผลงานนิยายของ ‘จิ่วลู่เฟยเซียง’ นักเขียนนิยายแนวเทพเซียนที่ฝากผลงานเลื่องชื่ออย่าง ‘เจาเหยา’ ให้เราได้อินจัดกันเอาไว้ และเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกแล้วจ้ะ บอกเลยว่าตัวนิยายสนุกมากและผู้เขียนก็จินตนาการไปไม่ถึงเลยว่าฉางอี้ในภาคคนแสดงจะเป็นเหรินเจียหลุน สารภาพว่าในตอนนั้นนึกภาพของน้องหนูอู๋เหล่ยเอาไว้ค่ะ แต่เมื่อหวยมาออกที่เหรินเจียหลุนก็โป๊ะเชะขึ้นมาทันที ทำไมฉันถึงไม่เคยนึกถึงเขาเลยเนี่ย ให้ตายสิ สำคัญคือเจียหลุนเล่นได้เนียนมาก ตะมุตะมิและน่ารักเหลือเกินพ่อคุณเอ้ย

เรื่องนี้ถือว่าเป็นการเนรมิตเมืองสมมติออกมาได้เนียนตาน่าดู สวยงามสมการรอคอย ก็ดูเอาเถอะค่ะว่าแต่ละฉากนั้นคุ้มค่าแก่การเพ่งพิศขนาดไหน โดยเฉพาะงานคอสตูมที่เก็บเนี๊ยบทุกรายละเอียดอีกแล้ว ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ กับฝีมือของ Chen Tong Xun คอสตูมดีไซเนอร์มือทองแห่งวงการที่ฝากผลงานสุดประทับใจเอาไว้ใน ปรมาจารย์ลัทธิมาร และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่เป็นผลงานของเขา

ความรักแบบตับพังของเขาและเธอ

เรื่องนี้เปิดฉากมาที่จี้อวิ๋นเหอ กำลังลั้ลลามีความสุขท่ามกลางหิมะขาวโพลน เล่าเรื่องราวว่าเธอนั้นช่างดื้อดึง ไอ้กฎที่บอกว่าเซียนสวรรค์ห้ามรักกับปีศาจนั้นน่ะเหรอเธอไม่สนใจหรอก เพราะเธอแหกกฎเหล่านั้นมาแล้วเรียบร้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุไฉนความรักของเธอและเขาถึงได้เดินมาถึงจุดที่พลิกผัน จนเขาได้จองจำเธอเอาไว้ ไม่ให้มีอิสระอย่างที่เธอต้องการ แล้วก็ตัดฉับมาที่จุดเริ่มต้นของความรักแบบตับพังของเขาและเธอ ในสมัยที่นางเอกยังเป็นผู้บัญชาการปีศาจและเขาเป็นปีศาจเงือกผู้น่ารัก

เรื่องราวในคราวนั้น นางเอกของเราเป็นสาวเก่งค่ะ เรียกว่ามีฝีมือเป็นแถวหน้าของบรรดาผู้บัญชาการปีศาจ มีทักษะการพูดเป็นเลิศ จนปราบปีศาจได้อยู่หมัดแบบไม่ต้องเปลืองแรง ความเก่งนี้ทำให้นางได้เป็นผู้คุ้มกฎซ้ายแห่งหุบเขาหมื่นบุปผา และเปิดฉากความเก่งกาจให้ผู้ชมได้เห็นด้วยลุคสุดเท่แบบโซหลัวรุนแรงมาก ถ้าจะหาใครที่หล่อกว่าพระเอกในเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นนางเอกของเรานี่แหละค่ะ จะหล่อไปไหนก่อน ถามแค่นี้ แต่เราก็จะได้เห็นความหลัวนี้แค่ฉากเดียวเท่านั้นแหละ แอบเสียดายนะเอาจริง ๆ

แล้วความที่นางอยากได้รับอิสระมาก ๆ ก็ทำทุกวิถีทางที่จะออกไปจากเกาะให้ได้ เพื่ออิสระที่ใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องมาเจอกับเงือกหนุ่มสุดมุ้งมิ้ง ที่ช่างมีจิตใจงดงามซะเหลือเกิน แถมเงือกหนุ่มก็ใสซื่อ ยอมเชื่อฟังแต่อวิ๋นเหอคนเดียว จากที่คิดจะกำราบเขาให้ได้เพื่อรางวัลอันยิ่งใหญ่ ก็กลายเป็นหาทางช่วยเงือกซะงั้นน่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่เธอจัดการทุกอย่างได้สำเร็จตามบัญชาขององค์หญิงซุ่นเต๋อ อิสระทุกอย่างของเขาจะหายไป แล้วเงือกดี ๆ แบบนี้ใครที่ไหนจะทำลง นางเอกของเราก็เลยทุ่มเททุกอย่างเพื่อคืนอิสระให้กับเขา

บอกเลยว่าภาคนิยายทำเอาน้ำตารื้น เพราะความดราม่านั้นรุนแรงมาก พระเอกนางเอกนี่ผลัดกันเสียสละแล้วก็รักกันมากมายท่ามกลางอุปสรรคที่ฝ่าฟันแล้วฝ่าฟันอีก แต่ด้วยความกรุณาปราณีที่จะมีใครบังคับก็หาไม่ของนักเขียน ก็ได้ใส่บทของความคลั่งรักแบบใสซื่อของพระเอกมาให้เรายิ้มกริ่ม ขบขันไปกับความไร้เดียงสาของเงือกหนุ่มที่เพิ่งจะมาใช้ชีวิตบนบกกับสาวงาม และผู้สร้างเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดอารมณ์นั้นออกมาให้เราชมได้แบบทั่วถึง อารมณ์ใช่นักแสดงเล่นถึง เป็นเคมีพระนางที่ลงตัวกันหน้าตาเฉย เรียกว่าลอยจากนิยายกันออกมาเลย จุดนี้พอใจมาก ทั้ง ๆ ที่นี่คือการประกบคู่เรื่องแรกของพระนางคู่นี้เลยด้วยซ้ำ

ดูเพลิน ๆ ไม่ต้องเดา เพราะเดาทางไม่ออกแน่

ก็เป็นธรรมดาของการดูซีรีส์ที่เรามักจะเดาเอาเองว่า เดี๋ยวตัวนั้นต้องเป็นแบบนี้ แล้วตัวนี้ต้องทำแบบนั้นแน่ ๆ เลย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้จะสนุกมากขึ้นไปอีกสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน เพราะคุณจะเดาทางตัวละครไม่ออกเลยสักตัว มีการสับขาหลอกกันไปมา ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนคนดูก็ชักจะเลอะเลือนไปชั่วขณะ เอ๊ะนี่ฉันเข้าใจเธอผิดหรอกเหรอนี่ บทจะมีการเขียนให้เราสารภาพผิดกับตัวละครกันเบา ๆ และเที่ยวได้สงสารตัวละครตัวนั้นตัวนี้ให้ยุ่งไปหมด ถือเป็นการเขียนบทที่ทำให้ซีรีส์แฟนตาซีดราม่าเรื่องนี้เข้มข้นและน่าติดตามมากขึ้นไปอีก

ทำให้เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไร้จุดน่าเบื่อใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่จุดที่ทำให้เราอยากตามต่อ อยากรู้อนาคตของตัวละครแต่ละตัว อยากติดตามภารกิจที่นางเอกต้องจัดการว่าหวยจะออกมาในรูปแบบไหน ไอ้ที่คิดว่ากำลังจะรอด อ้าว ไม่ใช่เฮ้ย…ไอ้ที่เดาทางไว้ว่าเดี๋ยวต้องไปต่อแบบนี้แน่ ๆ อ้าว ไม่ใช่อีก แล้วจุดแตกหักที่ทำให้พระเอกจองจำนางเอกมันเรื่องอะไรกันล่ะ จะใช่อย่างที่เราเดาเอาไว้ไหม ก็ชักจะไว้ใจตัวเองไม่ได้ซะแล้ว

ใครอินมาก ๆ รับรองว่ามีเสียน้ำตาให้กับหลายตัวแสดงในเรื่องนี้เลยค่ะ และใครที่หวังความฟินแบบจิกหมอนของพระ-นาง ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ออกแนวเอาใจช่วยมากกว่า แต่ฟินแน่ ยิ้มแน่กับความน่ารักของพระเอกเรานี่แหละ เล่นยังไงให้ดูอายุน้อยกว่าตัวจริง ตอบว่าเล่นแบบเหรินเจียหลุนนี่แหละค่ะ และมากไปกว่าความดีงามของพระนางก็คงจะเป็นดาราสมทบที่คุ้นหน้าคุ้นตา โดยเฉพาะ ‘หูอี้เสวียน’ นางเอกผู้น่ารักจากเรื่อง A River Runs Through It เรื่องนี้น้องรับบทเป็นลั่วจิ่นซาง ปีศาจผีเสื้อทะเลใต้ ปีศาจทาสของจี้อวิ๋นเหอ ขอชื่นชมทีมพากย์เล็กน้อยว่าดิฉันจำเสียงพากย์นี้ได้

ขอบคุณที่ใช้คนพากย์คนเดิมให้ลั่วจิ่นซางนะคะ มันกลายเป็นคาแรกเตอร์ของน้องไปแล้วจริง ๆ คุ้มมากค่ะเรื่องนี้ โปรดักชันอลังการสมศักดิ์ศรีซีรีส์แฟนตาซี เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม และที่สำคัญเพลงประกอบเพราะมาก หนึ่งในนั้นเป็นเพลงจาก ‘โจวเซิน’ (Zhou Shen) นักร้องชายที่ขึ้นชื่อว่าเสียงหวานที่สุดคนหนึ่งของประเทศจีน และผู้เขียนเป็นแฟนคลับของเขาค่ะ สารภาพ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส