[รีวิว] Remarriage and Desires : สงครามแก้แค้นที่โค่นบัลลังก์ราชินียังไม่ได้
Our score
6.4

กำกับ

คิมจองมิน

เขียนบท

อีกึนยอง

จำนวนตอน

8 ตอนจบ

ช่องทางรับชม

NETFLIX

[รีวิว] Remarriage and Desires : สงครามแก้แค้นที่โค่นบัลลังก์ราชินียังไม่ได้
Our score
6.4

[รีวิว] Remarriage and Desires : สงครามแก้แค้นที่โค่นบัลลังก์ราชินียังไม่ได้

จุดเด่น

  1. ความฉลาดในการตัดตอนทำให้เรื่องนี้น่าตามต่อในทุก ๆ ตอนได้แบบง่าย ๆ ฉลาดมาก ๆ

จุดสังเกต

  1. คาดหวังว่าจะได้เห็นการฟาดฟันแบบซีรีส์ในหมวดเดียวกัน ไม่มีค่ะ แต่ใช้คำว่าเป็นซีรีส์ที่สนุกได้ ไม่ขัดปาก
  • บท

    5.5

  • โปรดักชัน

    6.5

  • การแสดง

    7.0

  • การดำเนินเรื่อง

    6.0

  • ความสนุกตามแนวซีรีส์

    7.0

ศึกสงครามผัวเมียครั้งใหม่ ซีรีส์แนวแก้แค้นเอาคืนของภรรยาที่แสนดีแต่ถูกสามีนอกใจ หากแต่ว่าการแก้แค้นครั้งนี้ไม่ใช่ฉันแย่งเธอ เธอแย่งฉัน แต่เป็นการเอาคืนรูปแบบใหม่ ที่ต้องการให้ใครบางคนได้รับบทเรียนอย่างสาสมเท่านั้นเอง

Remarriage and Desires /ปรารถนารักครั้งที่สอง : เล่าเรื่องราวเสียดสีสังคมของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการยกระดับตัวเองด้วยการแต่งงานกับใครสักคนในวงสังคมชั้นสูงผ่าน เร็กซ์ (REX) บริษัทจัดหาคู่ที่มองเห็นเรื่องการแต่งงานเป็นการทำธุรกิจที่คุ้มค่ากับการลงทุน เธอเหล่านั้นต้องการคู่ครองระดับ Black หนุ่มหล่อ รวย ที่มีสัดส่วนเพียงน้อยนิดในสังคมเท่านั้น แต่ ‘ซอฮเยซึง’ (คิมฮีซอน) ต่างออกไป เธอเป็นเพียงภรรยานักธุรกิจระดับกลาง ที่ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวในชั่วข้ามคืน เมื่อสามีของเธอตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง ทิ้งให้เธอและลูกสาวต้องต่อสู้เพียงลำพัง เมื่อเขาถูกชู้รักปอกลอกจนหมดตัว

เรื่องราวถุยชีวิตหนักข้อขึ้นไปอีก เมื่อสมบัติทุกชิ้นยังถูกยึดไม่มีเหลือ ทำให้เธอต้องออกหางานอย่างขมขื่นทำในวัย 40 แต่หลังจากเธอได้รู้ความจริงทั้งหมด ทำให้เธอตั้งใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาคืนนางจิ้งจอกสารพัดพิษ ที่พรากทุกอย่างของเธอไป เมื่อวันที่รอคอยเข้ามาหาเธออย่างคาดไม่ถึง และวันนั้นคือวันที่เธอได้พบกับ ‘จินยูฮี’ (จองยูจิน) ชู้รักของสามีที่บริษัทจัดหาคู่ ทนายความหญิงที่ต้องการจับผู้ชายรวย ๆ ให้ได้สักคนหนึ่ง เธอเข้ามาใช้บริการหาคู่เพื่อเป้าหมายใหญ่อย่างสมาชิกระดับซูเปอร์แบล็กและ ‘อีฮยองจู’ (อีฮยอนอุ) 

“หวังจะใช้การแต่งงานเป็นใบผ่านทางให้ชีวิตเหรอ ฉันจะไม่ยอมให้เธอสมหวังหรอก ชีวิตของเธอต้องพัง เหมือนกับที่เธอพรากทุกอย่างของฉันไป” เมื่อนางเอกเธอคิดเช่นนี้ ความสาแก่ใจสไตล์ซีรีส์แก้แค้น ก็ควรจะบังเกิด ใช่ไหมล่ะ?

เปลือกแข็ง ๆ ที่ซ่อนเนื้อนิ่มเอาไว้ข้างใน

ว่ากันตามหลักแล้วเรามักจะเห็นซีรีส์แนวแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นจากปมเด็ดสักปมหนึ่ง ที่เป็นชนวนของการแค้นฝังหุ่น อย่างที่เราได้เห็นกันมาแล้วอย่าง ‘Itaewon Class’  ‘A World of Married Couple’ ‘The Penthouse’ หรือ ‘Taxi Driver’ และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่ทำเอาปวดตับกันเป็นแถบ ๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีจุดเริ่มต้นไม่ต่างกัน จนเกือบจะเป็นแพตเทิร์นของซีรีส์แนวนี้ไปซะแล้ว แต่ความแปลกใหม่ที่ ‘Remarriage and Desires’ ใส่เข้ามาให้น่าสนใจก็คือ การแก้แค้นครั้งนี้ จะดำเนินไปบนเส้นทางธุรกิจพิชิตรัก กับการหาคู่ที่ไม่ต้องรักก็ได้ แต่ขอให้รวยก็แปลว่าพอ

เมื่อมีคนอยากซื้อก็ย่อมต้องมีคนอยากขาย เร็กซ์ จึงถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสนองตันหาของคนที่ชอบเดินทางลัด ด้วยความเชื่อที่ว่าการแต่งงานก็คือการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง และพวกเขาก็จับคู่ทางธุรกิจจนสำเร็จมาแล้วนับไม่ถ้วน จินยูฮีผู้มีประวัติฉาวโฉ่จึงอยากจะล้างตัวเองในตะกร้าทองคำ และหวังสูงไปถึงระดับซูเปอร์แบล็กซะด้วยสิ สะใภ้เศรษฐีคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน แต่ใครจะรู้ว่าความฝันของเธอกลับต้องมีขวากหนาม เมื่อซอฮเยซึงมาเจอกับเธอเข้าโดยบังเอิญและพร้อมจะมอบความพินาศให้กับเธออยู่ทุกเมื่อ สงครามนี้ยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพเมียน้อยค่ะ

นี่คือเส้นเรื่องหลักที่เปรียบเสมือนบ่วงบาศก์ คล้องคอคนดูให้ตบเท้าเฝ้าหน้าจอกันเป็นแถว แววเลือดซิบ ๆ ต้องมา การเอาคืนแบบเจ็บแสบต้องมี ความชิงไหวชิงพริบชนิดสมองแหลมเปี๊ยบต้องได้เห็น แต่ ไม่เห็นเลยจ้า ก็ในเมื่อมันเป็นสงครามของผู้หญิงสองคนที่โฆษณาไว้อย่างเกรี้ยวกราดขนาดนั้น อิฉันก็คาดหวังสิคะ แต่สิ่งที่ได้เห็นตลอดทั้งเรื่องนั้นก็ใช่ว่าจะไร้คุณค่าไปซะทีเดียว เรายังคงเห็นสงครามแย่งผู้ของผู้หญิงที่น่ากลัวจนสงสัย ว่านี่เขาอยากแต่งงานกันด้วยเหตุผลแบบนี้ จนลดคุณค่าตัวเองขนาดนั้นได้จริง ๆ สิ สังคมของคนมีเงินนี่น่ากลัวชะมัด

เรายังคงเห็นวิถีชีวิตของคนบางกลุ่มในเรื่องความเชื่อและแนวคิดเรื่องการแต่งงาน ที่เป็นผลสะท้อนของการเลี้ยงดู ค่านิยม รวมไปถึงความโลภและการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง ที่ไม่ใช่เรื่องแรกที่เขียนพล็อตเรื่องออกมาแนวนี้ แต่ก็อยู่ในระดับที่ไม่ขี้เหร่และใช้คำว่าดูเพลินได้แบบไม่ขัดปาก

การดีไซน์ตัวละคร ต้องร้องว่าอิหยังวะ

ปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด แบบชัดแจ๋วซะด้วยสิคือการเปรียบมวยคนละรุ่นแล้วตีระฆังดังเป๊งให้ขึ้นไปชกกัน นางเอกของเรามาในมาดของแม่บ้านที่อ่อนด้อยกว่านางร้ายแทบทุกประตู ต้องมาหางานตอนอายุ 40 แล้วได้เป็นแค่ผู้ช่วยสอน บ้านจน ลูกติด ฟากฝั่งนางร้ายนั้นก็แสนจะได้เปรียบ ทั้งอาชีพการงานที่กุมกฎหมายไว้ในมือ มีคนหนุนหลังเป็นนักการเมืองในขณะที่นางเอกพกมาแต่หน้าสวย ๆ และความเป็นคนดีเท่านั้นเอง จะเอาอะไรไปสู้กับเขา ถามจริง ๆ เถอะจ้ะ แต่ซีรีส์ก็ให้คำตอบเรามาว่า ก็เอาความเป็นนางเอกนี่แหละไปสู้ นางเอกซะอย่างชนะอยู่แล้ว ว่าซั่น

ถือว่าเป็นการดีไซน์ตัวละครที่ติดเชย แต่ก็ยังฝากความคาดหวังเอาไว้ว่า เอาน่า สิ่งที่เสียเปรียบมองข้ามมันไปซะ นางเอกคงฉลาดเป็นกรด สมองแหลมเปี๊ยบอย่างหมอจีซอนอูใน A World of Married Couple ก็ได้น่า แต่จนแล้วจนรอดเราก็ไม่ได้เห็นสิ่งนั้นกันเสียทีและไม่มีวันจะได้เห็นจนจบเรื่องเลยนั่นแหละ การต่อสู้ที่สายฮาร์ดคอร์คาดหวัง บอกเลยว่าไม่มี และองค์ประกอบขาด ๆ เกิน ๆ ที่ทำให้หมั่นไส้คนเขียนบทมากขึ้นไปอีกก็คือ การให้นางร้ายดูฉลาดแต่ดันตกม้าตายเอาแบบง่าย ๆ เรียกว่าง่ายจนงงว่า แผนนี้ กลยุทธ์นี้ คนเป็นทนายอย่างเธอจะไม่รอบคอบได้เลยเหรอ ฉลาดมาทั้งเรื่อง อยู่ ๆ จะมีช่องโหว่ก็เป็นช่องที่ไม่น่าจะโหว่ซะงั้นน่ะ

แต่ซีรีส์ก็เอาตัวรอดมาได้อย่างไม่น่าเกลียด ด้วยบรรยากาศและบทที่เรื่อย ๆ แบบไม่รีบ บวกกับฝีมือการแสดงของเหล่านักแสดงในเรื่อง ที่คีปคาแรกเตอร์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เก่งทุกคน ปรบมือ เราอินแน่ ๆ กับบทบาทของแต่ละคนที่ทำให้ซีรีส์ไม่มีจุดน่าเบื่อ เคี้ยวขนมเพลิน ๆ ดูกันยาว ๆ 8 ตอนจบได้สบาย ๆ เรียกว่าจบตอนนี้ก็ยังสามารถทำให้อยากดูตอนต่อไปได้ง่าย ๆ ถึงแม้ว่าจะมีจุดน่าอึดอัดเพราะไม่สาแก่ใจอีช้อยเท่าไหร่นัก กับการฟาดฟันที่ไม่เต็มเหนี่ยว แต่ก็ทำเอาไมเกรนขึ้นได้เหมือนกัน ในบางจังหวะ

พล็อตคุ้นเคย เดาง่ายดีจริง ๆ

ไม่ต้องลับสมองประลองปัญญากันให้มากความค่ะเรื่องนี้ และซื้อหวยกันเถอะ ถูกแน่ ๆ เพราะเราจะเดาชะตาชีวิตตัวละครได้แบบง่าย ๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่ความง่ายที่ว่าก็ทำให้อยากตามต่อจนจบแบบไม่เบื่อจนได้นะ เอาสิ เราจะเห็นภาพของนางเอกและนางร้ายแบบชัดเจน ชนิดที่มองมาจากวงแหวนดาวเสาร์ยังรู้เลยใครมีเขี้ยว ใครสวมมงกุฎ และแน่นอนว่าเมื่อเป็นนางเอก เสื้อผ้าหน้าผมที่สวมใส่ก็จะเป็นนางเอกผู้น่าสงสารอยู่วันยังค่ำ แล้วชุดแซ่บ ๆ ที่อยู่บนโปสเตอร์โปรโมตมันไปไหนคะ ทำไมไม่เอามาใส่ ณ จุดนี้ดิฉันเคืองคอสตูมแบบมองแรง

นางเอกคนดีจะปังปุริเย่บ้างไม่ได้รึไง นี่ก็จะให้มาแบบนิ่ม ๆ หวาน ๆ อยู่ร่ำไป แต่จุดนี้ก็ทำให้คาแรกเตอร์ของนางเอกชัดมากขึ้นไปอีก ว่าที่นางมาปรากฎอยู่บนสังเวียนชิงผู้ จุดประสงค์เพื่อเอาคืนนังตัวร้ายเท่านั้นแหละ ฉันไม่ได้อยากเด่น ฉันแค่เป็นตัวฉันเองที่ทรงคุณค่าจนสองผู้ระดับซูเปอร์แบล็กต่างรุมล้อมขอความรักจากฉัน สะบัดผมใส ๆ แล้วจิ้มนิ้วเลือกเอาได้เลยจ้ะ เรื่องนี้จบแบบสุขนิยมคนดูยิ้มแน่นอน

พล็อตคุ้นเคยที่ว่าทำให้เราไม่ว้าวกับการต่อสู้ในหลาย ๆ ฉาก และคาแรกเตอร์ของนางเอกทำให้เราเอ๊ะอ๊ะกับกลเม็ดที่นางเอกใช้ในบางเรื่อง ถึงแม้จะบอกได้ว่า เวลาที่ผู้หญิงแสนดีลุกขึ้นสู้มันเป็นอย่างนี้ไงล่ะ แต่ด้วยการปูเรื่องที่ปล่อยไหลมายาวนานแล้วฟาดปึงในตอนเกือบท้าย ๆ ทลายความน่าเชื่อถือไปพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่ซีรีส์ประเภทนี้ดำเนินเรื่อง เสน่ห์ที่ทำให้ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาการรับชม ควรจะเป็นการเดาผิดเดาถูกกับกลเม็ดการเอาคืนของตัวเอกทั้งสองฝั่ง

หากใครคาดหวังว่าจะมีการฟาดฟันอย่างเผ็ดร้อน ไม่มีทางได้เห็น แต่สิ่งที่จะได้คือ สงครามจิตวิทยาแบบนิ่ม ๆ ที่ยังคงมีความเชือดเฉือน แต่มีดอาจจะทื่อไปสักนิดเมื่อเทียบกับซีรีส์ในหมวดเดียวกัน เท่านั้นเอง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส