วงดนตรีหน้าใหม่อาจเคยเจอเรื่องในทำนองที่ว่าตั้งวงดนตรีมานานแล้วแต่คิดชื่อไม่ออกว่าจะใช้ชื่อวงว่าอะไรดี ที่ต้องคิดหนักหน่อยเพราะชื่อวงดนตรีนั้นมีความสำคัญ นอกจากจะบอกว่าวงของเราเป็นแนวไหน มีคาแรกเตอร์เป็นอย่างไร ยังส่งผลต่อการจดจำของแฟนเพลงอีกด้วย เพราะหากตั้งชื่อได้ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

ที่มาของชื่อวงมาได้หลากหลายทางทั้งจากปรัชญาในการสร้างสรรค์ผลงานของวง (‘Bodyslam’ เป็นชื่อท่ามวยปล้ำสื่อถึงการทำอะไรอย่าง ‘ทุ่มสุดตัว’) สถานที่ที่ตัวเองรู้จัก (‘อพาร์ตเมนต์คุณป้า’ มีที่มาจาก ชื่ออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว) หรือแม้แต่คำอุทานก็กลายมาเป็นชื่อวงได้ ( ‘The Yers’ มาจากคำว่า ‘เย่อ’ ซึ่งเป็นคำอุทานของคนรู้จักของสมาชิกในวง)

แต่รู้หรือไม่ว่า ‘ประวัติศาสตร์’ หรือ ‘เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์’ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่วงดนตรีใช้เป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อวง มีวงดนตรีชื่อดังหลายวงที่มีชื่อที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะมีความเท่ สร้างความโดดเด่นแตกต่างแล้ว ยังมีเรื่องราวที่ให้เราได้นึกไปถึงที่มาของชื่อเหล่านี้อีกด้วย

‘Foo Fighters’ – UFO ในสงครามโลกครั้งที่ 2

Foo Fighters

ในตอนที่ เดฟ โกรล (Dave Grohl) อดีตมือกลอง Nirvana ได้ก่อตั้งวง Foo Fighters มันดูเหมือนกับเป็น one man band มากกว่าเพราะยังไม่มีสมาชิกถาวรคนอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาในตอนที่กำลังทำอัลบั้มเปิดตัวของวง แต่ต่อมาสมาชิกวงก็ถูกเติมเข้ามาเรื่อย ๆ ดังนั้นแนวคิดดั้งเดิมของ Foo Fighters จึงขึ้นอยู่กับโกรลทั้งหมด รวมไปถึงชื่อวงที่ได้มาจากการที่โกรลได้เข้าถึงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเขา

คำว่า ‘foo fighters’  ถูกใช้ครั้งแรกเพื่ออธิบายถึงวัตถุบินที่ไม่ปรากฏชื่อซึ่งนักบินพันธมิตรพบในสงครามโลกครั้งที่สอง วัตถุนี้บินในเวลากลางคืนเหนือเยอรมนีในปี 1944 ฝูงบินพันธมิตรได้รายงานว่าวัตถุชนิดนั้นมีแสงจ้าและบินติดตามเครื่องบินของพวกเขาด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็หายไปในทันใด ผู้สังเกตการณ์เรดาร์ โดนัล เจ. เมเยอร์ส (Donald J. Meiers) ขนานนามวัตถุนี้ว่า foo fighters โดยคำว่า “foo” เป็นคำที่ไร้ความหมายที่ใช้อยู่ในการ์ตูนที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้น

ภาพวัตถุลึกลับ foo fighters

โกรลได้อธิบายว่าทำไมเขาจึงโดนใจเรื่องนี้

“ในช่วงเวลาที่ผมกำลังบันทึกเสียงอัลบั้มแรกของ FF ผมกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่เป็นหัวข้อที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังมีขุมทรัพย์ของชื่อวงดนตรีในหนังสือยูเอฟโอเหล่านั้นด้วย!

ดังนั้น เนื่องจากผมบันทึกเสียงอัลบั้มแรกด้วยตัวเอง เล่นเครื่องดนตรีทั้งหมด แต่อยากให้คนคิดว่ามันเป็นกลุ่ม ผมเลยคิดว่า FOO FIGHTERS อาจทำให้คนเชื่อว่าวงนี้มีสมาชิกมากกว่าแค่ผู้ชายคนหนึ่ง มันฟังดูงี่เง่าใช่ไหมล่ะ ?”

มันไม่งี่เง่าเลย เพราะว่าต่อมาชื่อนี้ก็ได้กลายเป็นที่จดจำของเหล่าชาวร็อก และวงดนตรีที่มีชื่อว่าFoo Fighters ซึ่งได้ชื่อมาจากประวัติศาสตร์ก็ได้กลายไปเป็นประวัติศาสตร์ (แห่งวงการดนตรีร็อก) เสียเองแล้ว

‘Megadeth’ – การสูญเสียอันมหาศาลจากระเบิดนิวเคลียร์

Megadeth

ไม่นานหลังจากที่ถูกไล่ออกจากวง Metallica เนื่องจากปัญหานิสัยส่วนตัวที่ติดเหล้าเมายาและมีเรื่องกับเพื่อนสมาชิก เดฟ มัสเทน (Dave Mustaine) ที่มีสติอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งรถบัสยาว ๆ เขียนเนื้อเพลงบนแผ่นพับที่เขาได้รับมาจากตอนไหนก็ไม่รู้ ด้านหลังแผ่นพับมีเนื้อความต่อต้านนิวเคลียร์ใจความว่า “คลังแสงของ megadeath ไม่สามารถกำจัดได้ไม่ว่าสนธิสัญญาสันติภาพจะออกมาเป็นอย่างไร” ซึ่งมัสเทนได้สะดุดใจกับคำว่า ‘megadeath’ เลยตัดสินใจที่จะใช้คำนี้เป็นชื่อวงดนตรีต่อไปของเขา แต่เขาต้องตัดตัว “a” ตัวที่สองออกไป เพราะเขานึกขึ้นได้ว่าวง Pink Floyd ในอดีตเคยใช้ชื่อวงว่า ‘The Megadeaths’ มาก่อน

สำหรับคำว่า megadeath เป็นคำที่ใช้พูดถึงการทำลายล้างอันส่งผลกระทบมหาศาลต่อผู้คนและคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก เหมือนผลกระทบจากการระเบิดของปรมาณูที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นล้าน ๆ  

‘U2’ – เครื่องบินสอดแนมที่เกือบจะจุดชนวนให้เกิดสงครามเย็น

U2

U2 เป็นวงดนตรีวงหนึ่งที่สามารถกล่าวได้ว่ากลายเป็นตำนานและประวัติศาสตร์เสียเอง และชื่อวงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ก็มีที่มาจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่นำพาโลกไปสู่ขอบเหวของสงคราม

จริง ๆ แล้วชื่อวง U2 ตั้งชื่อตามเครื่องบินสอดแนม ‘U-2’ แต่ความสำคัญของมันอยู่ที่การเกี่ยวพันกับเหตุการณ์สายลับ U-2 ในปี 1960 ซึ่งสหภาพโซเวียตได้ยิงเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐอเมริกาตกเหนือน่านฟ้าของพวกเขาและจับนักบินได้ สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ทางการทูตที่ตึงเครียดและทำให้อุณหภูมิของสงครามเย็นสูงขึ้น ณ ขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักบิน ฟรานซิส แกรี พาวเวอร์ส (Francis Gary Powers) ของสหรัฐอเมริกาถูกตัดสินจำคุกในข้อหาจารกรรม ซึ่งต่อมาในภายหลังเขาได้ถูกแลกตัวกับทหารโซเวียตที่ถูกทางฝ่ายสหรัฐ ฯ จับไว้

เครื่องบินสอดแนม U-2

เหตุการณ์นี้นับว่ามีความสำคัญและส่งผลกระทบมากในยุคสงครามเย็นเพราะมันคือจุดของความสุ่มเสี่ยงที่เกือบจะก่อให้เปลี่ยนจากสงครามเย็นกลายไปเป็นสงครามโลกอีกครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวงดนตรีอย่าง U2 จึงได้รับแรงบันดาลใจและตัดสินใจใช้ชื่อวงนี้ในอีกเกือบ 2 ทศวรรษต่อมาซึ่งก็คือในปี 1976 ที่พวกเขาได้เริ่มต้นโลดแล่นบนเส้นทางสายดนตรี

‘Joy Division’ – ซ่องโสเภณีในค่ายกักกัน

Joy Division

ท่วงทำนองของ Joy Division มักจะมีน้ำเสียงที่มืดมนอยู่เสมอ ทั้งในแง่ของดนตรีและการสูญเสียอันน่าเศร้าของอดีตฟรอนต์แมน เอียน เคอร์ติส (Ian Curtis) ซึ่งทำให้หลายคนคิดว่าชื่อวงของพวกเขาตั้งมาเพื่อจะเสียดสีอารมณ์อันหม่นเศร้าของวง แต่จริง ๆ แล้วแม้กระทั่งชื่อวงที่มีคำว่า ‘Joy’ อันฟังดูแสนจะรื่นรมณ์แต่มันก็มาจากความหม่นเศร้าอันอ้างอิงถึงแง่มุมที่บิดเบี้ยวในช่วงเวลาอันมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์

วงดนตรีวงนี้ได้ชื่อมาจากหนังสือที่เขียนโดย เยฮีล เฟย์เนอร์ (Yehiel Feiner) ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อว่า ‘House of Dolls’ ซึ่งใช้คำนี้เพื่ออ้างถึงซ่องโสเภณีที่ตั้งอยู่ในค่ายกักกันของพวกนาซีเยอรมัน ซึ่งชื่อของมันนั้นดูเสียดเย้ยอยู่ในทีเพราะในขณะที่สถานที่แห่งนี้มีไว้เพื่อสร้างความสุขให้กับพวกนาซีแต่กลับเป็นความทุกข์ระทมขมขื่นของนักโทษที่ต้องทำงานหนักและนักโทษผู้หญิงที่ถูกพรากอิสรภาพทั้งในชีวิตและเรือนร่างของพวกเธอและผลักพวกเธอให้ห่างไกลออกไปจากคำว่า ‘Joy’ อย่างที่สุด

การแสดงละครเวทีเรื่อง ‘Joy Division’

‘Rammstein’ – โศกนาฏกรรมทางอากาศที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

Rammstein

วงดนตรีเมทัลเชื้อชาติเยอรมัน ‘Rammstein’ ได้สร้างผลกระทบในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีการร้องเล่นเป็นภาษาต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อวงของพวกเขานั้นหมายความว่าอะไรและมีที่มาจากอะไร ซึ่งนักร้องนำของวง ทิลล์ ลินเดมัน (Till Lindemann) ได้เล่าถึงที่มาของชื่อนี้ว่า

“ชื่อนี้มาจากความหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใน Ramstein (รัมสไตน์) ซึ่งเป็นสถานที่ในประเทศเยอรมนีดังนั้นเพลงแรกของพวกเราจึงเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น และจากนั้นเวลาที่เราได้ยินแฟนเพลงเอ่ยคำนี้ซ้ำ ๆ ว่า ‘Ramstein, Ramstein!’ มันจึงเข้ามาในหัวของเราและมันก็อยู่อย่างนั้นไปตลอด แต่เราได้เปลี่ยนการสะกดคำเล็กน้อย (ด้วยการเพิ่มตัว ‘m’ เข้าไปอีกหนึ่งตัว) เนื่องจาก Ramstein สะกดด้วย “m” เพียงหนึ่งตัว นอกจากนี้การพูดถึงมันซ้ำ ๆ ยังทำให้มันได้กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์และเพลงสดุดีสำหรับเรา”

ภัยพิบัติทางอากาศในเมืองรัมสไตน์เกิดขึ้นในปี 1988 จากการที่เครื่องบินอิตาลี 3 ลำชนกันกลางอากาศด้วยความเร็ว 370 ไมล์ต่อชั่วโมงขณะกำลังซ้อมรบ จากนั้นเครื่องบินได้พุ่งเข้าใส่ฝูงชนจำนวน 300,000 คนที่มารอชมการซ้อมรบในครั้งนี้ นักบินทั้ง 3 คนเสียชีวิตพร้อมกับผู้เข้าร่วมงาน 67 คน และอีกกว่า 1,500 คนได้รับบาดเจ็บ

ภัยพิบัติทางอากาศในเมืองรัมสไตน์

‘Franz Ferdinand’ – อาร์ชดยุคผู้ถูกลอบปลงพระชนม์จนเป็นชนวนสงครามโลกครั้งที่ 1

Franz Ferdinand

ใครก็ตามที่ให้ความสนใจในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ในโรงเรียนอาจพอเดา ๆ ได้ว่าชื่อวง ‘Franz Ferdinand ‘ ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากเพลงฮิตติดหูอย่าง “Take Me Out” และ “Do You Want To” คงได้ชื่อมาจาก บุคคลสำคัญผู้ถูกลอบสังหารและเป็นเหตุชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตามมา แต่อย่างไรก็ตามวงดนตรีเจ้าของชื่อนี้เองกลับไม่ได้คิดไปถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชื่อนี้มากนัก ในตอนที่พวกเขาคิดชื่อวงขึ้นมาในครั้งแรก

วง Franz Ferdinand ได้ไอเดียในการตั้งชื่อวงจากการที่เห็นม้าแข่งชื่อ ‘อาร์ชดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์’ (Archduke Franz Ferdinand) ชนะการแข่งขัน พวกเขาจึงจำชื่อนี้ได้และต่อมาหลังจากได้มีโอกาสอ่านชีวประวัติของอาร์ชดยุคแห่งออสเตรียท่านนี้ที่ถูกลอบปลงพระชนม์โดย กาฟริโล พรินซิป (Gavrilo Princip) ชาวบอสเนียเชื้อสายเซิร์บ สมาชิกกลุ่ม Mlada Bosna (หรือ Young Bosnia ขบวนการปฏิวัติของคนรุ่นใหม่ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา) จนกลายเป็นชนวนเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 1 ในที่สุดวง Franz Ferdinand ก็ได้รู้ว่าเขาเจอชื่อที่เหมาะสมกับวงของเขาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกดีเพราะที่มาของชื่อวงนั้นเกี่ยวกันพับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ทั้งมืดหม่น วุ่นวายและสับสน แต่ท่วงทำนองของวงดนตรีวงนี้กลับเต็มไปด้วยอารมณ์อันสนุกสนาน

ภาพวาดเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์อาร์ชดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรียและพระชายา

‘Children Of Bodom’ – คดีความชวนสยองของฟินแลนด์

Children of Bodom

วงดนตรีเมทัล ‘Children of Bodom’ อาจเป็นวงดนตรีชื่อแปลก ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เกิดและเติบโตในฟินแลนด์ เพราะชื่อวงของพวกเขานั้นไม่ได้สัมพันธ์กับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์โลก แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศฟินแลนด์  ซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ชื่อวงนั้นสยดสยองมากกว่าการแต่งเพลงที่มืดมนที่สุด

คำว่า ‘Children’ ในชื่อวงหมายถึงเด็ก ๆ วัยรุ่นที่เป็นเหยื่อในคดีฆาตกรรมที่ทะเลสาบโบดอม (Bodom) ในปี 1960 ซึ่งวัยรุ่น 4 คนได้ถูกทำร้ายในขณะกำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ริมทะเลสาบ เด็กวัยรุ่น 3 คนเสียชีวิต และอีกหนึ่งคนคือ นิลส์ กุสตาฟส์สัน (Nils Gustafsson) รอดชีวิตมาได้ ต่อมากุสตาฟส์สันได้ตกเป็นผู้ต้องหาและถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แต่ได้พ้นมลทินใน 44 ปีต่อมา ณ ปัจจุบันคดีนี้ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย

คดีฆาตกรรมที่ทะเลสาบโบดอม

‘Kasabian’ – สมาชิกคนหนึ่งของลัทธิคลั่งครอบครัวแมนสัน

Kasabian

Kasabian เป็นวงดนตรีจากอังกฤษที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกจากบทเพลงฮิตอย่าง “Fire” และ “Club Foot” แต่ชื่อวงของพวกเขากลับมีที่มาที่ค่อนข้างมืดหม่น  

แรงบันดาลใจของชื่อนี้มีที่มาจากลินดา คาซาเบียน (Linda Kasabian) หนึ่งในสมาชิกคนแรก ๆ ของลัทธิคลั่ง ‘ครอบครัวแมนสัน (Manson Family)’ ที่นำโดย ชาร์ล แมนสัน (Charles Manson) อาชญากรโหดผู้วางแผนฆาตกรรมเหยื่อ 7 คนในคดีฆาตกรรมเทตและลาเบียงกา (Tate and LaBianca murders) ซึ่งมีชารอน เทต ภรรยาของผู้กำกับ โรมัน โปลันสกีที่กำลังตั้งท้องได้ 8 เดือนอยู่ด้วย ซึ่ง ลินดา คาซาเบียนคือหนึ่งในตัวสำคัญที่ก่อเหตุโหดเหี้ยมครั้งนี้  คำว่า ‘Kasabian’ เป็นนามสกุลที่มีรากมาจากภาษาอาร์เมเนีย ซึ่ง เซอร์จิโอ พิซซอร์โน (Sergio Pizzorno) มือกีตาร์ของวงที่ชอบชื่อนี้และตัดสินใจใช้เป็นชื่อวง ได้บอกว่ามันแปลว่า ‘คนขายเนื้อ’ ซึ่งยิ่งทำให้ชื่อนี้ดูมีความสยองเข้าไปอีก

ลินดา คาซาเบียน (Linda Kasabian)

‘The Decemberists’ – การจลาจลในรัสเซียที่ไม่ประสบความสำเร็จ

The Decemberists

The Decemberists เป็นวงอินดี้ร็อกที่เป็นที่รู้จักจากบทเพลงที่โดดเด่นในการเล่าเรื่องอย่าง “The Mariner’s Revenge Song” ซึ่งวงได้ชื่อวงมาจากเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ของรัสเซีย

The Decemberists เป็นกลุ่มนักปฏิวัติที่ก่อการจลาจลต่อต้านพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 (Tsar Nicholas I) ของรัสเซียในปี 1825 ซึ่งถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด แต่กลุ่ม The Decemberists ก็ได้รับการกล่าวขานถึงในฐานะผู้พลีชีพเพื่อการปฏิวัติซึ่งส่งแรงบันดาลใจไปสู่การต่อสู้ในอนาคต ตามคำกล่าวของคอลิน เมลอย (Colin Meloy) ฟรอนต์แมนของวง ได้กล่าวว่าพวกเขารู้สึกเชื่อมโยงกับกลุ่ม The Decemberists เพราะพวกเขานั้นเป็น “คนชายขอบ ผู้อยู่อาศัยในชานเมือง และทุกคนอาศัยอยู่ในเดือนอันเหน็บหนาวที่สุด”

ภาพวาดกลุ่มปฏิวัติ The Decemberists

‘Bauhaus’ – ขบวนการศิลปะในเยอรมัน

Bauhaus

Bauhaus วงดนตรีจากอังกฤษที่ก่อตั้งในปี 1978 ถือเป็นรากฐานของแนวดนตรีโกธิคร็อก ซึ่งเหมาะสมแล้วที่พวกเขาจะอยู่ในแนวหน้าของกระแสวัฒนธรรมนี้ เนื่องจากชื่อวงของพวกเขาเองก็ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวทางศิลปะที่สำคัญตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20

โรงเรียนศิลปะ Bauhaus ที่ตัวอาคารสะท้อนเอกลักษณ์อันเรียบง่ายแต่เฉียบคมของศิลปะตระกูลนี้

‘Bauhaus’ (เบาเฮาส์) คือโรงเรียนศิลปะที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนีในปี 1919 แต่เดิมวงจึงใช้ชื่อว่า ‘Bauhaus 1919’ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ ‘Bauhaus’ และกลายเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วยุโรปเป็นเวลากว่าทศวรรษ เราสามารถพบอิทธิพลของศิลปะแบบ Bauhaus ได้ในสถาปัตยกรรมของเยอรมัน ส่วนวงดนตรี Bauhaus นั้นก็สร้างสรรค์ผลงานมาเรื่อยตั้งแต่ทศวรรษที่ 70s จนถึงปี 2020 และยังไม่ได้มีผลงานใหม่ออกมาหลังจากนั้น

ที่มา

Ranker

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส